8 ธ.ค. 2023 เวลา 22:28 • นิยาย เรื่องสั้น

นิทานสอนใจเรื่อง “นาฬิกาที่หายไป”

ชาวนาคนหนึ่งหลังจากไปทำความสะอาดคอกม้า ออกมาก็พบว่านาฬิกาพกของตน ได้หล่นหายไปเสียแล้ว
นาฬิกาพกเรือนนี้มีความหมายต่อเขามาก ด้วยเป็นของขวัญที่แม่ของเขาทิ้งไว้ให้เขารีบวิ่งไปที่คอกม้ารื้อหาจนทั่วบริเวณแทบพลิกแผ่นดินแต่ก็หาไม่พบ เขาเดินออกมาจากคอกม้าด้วยเหงื่อที่ท่วมตัว มองไปเห็นมีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นกันอยู่แถวนั้น เขาจึงได้คิดว่าอาจเป็นเพราะตัวเองแก่แล้วหูตาฝ้าฟางทำให้หาไม่เจอ แต่เด็กๆหูตายังแหลมคมน่าจะหาเจอก็เป็นได้ เขาจึงเรียกเด็กๆมาแล้วบอกว่า
” เด็กๆ ถ้าใครหานาฬิกาพกของลุงเจอ ลุงจะให้เงินคนนั้นหนึ่งเหรียญ”
เด็กๆ พากันวิ่งกรูเข้าไปในคอกม้า จนเวลาผ่านไปนานโข ตอนที่เด็กๆ เดินกลับออกมาจากคอกม้าทีละคนต่างก็มีสีหน้าผิดหวังที่หานาฬิกาพกไม่เจอ ขณะที่ชาวนากำลังถอดใจคิดจะเลิกหานั่นเอง ก็มีเด็กคนหนึ่งมากระซิบกระซาบบอกกับเขาว่า
3
“ผมจะลองเข้าไปหาดูอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ขอให้ผมเข้าไปคนเดียวเท่านั้น”
3
ชาวนามองตามหลังเด็กชายไปอย่างไม่มั่นใจคิดในใจว่า…พวกเราแทบจะพลิกคอกม้าหายังไม่เจอ…แล้วลำพังเด็กคนเดียวจะหาเจอได้อย่างไร…เด็กคนนั้นเข้าไปตั้งนานก็ยังไม่กลับออกมา ชาวนาเริ่มสิ้นหวังในขณะที่ชาวนาคิดจะเลิกรอและจากไปนั่นเอง เด็กชายคนนั้นก็เดินออกมาจากคอกม้าในมือของเขาถือนาฬิกาพกเรือนหนึ่ง ชาวนาถามด้วยความแปลกใจว่า
“เจ้าหาเจอได้อย่างไร”
2
เด็กชายบอกว่า “พอเข้าไปข้างใน ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแต่นั่งเงียบๆ อยู่ที่พื้นไม่นานผมก็ได้ยินเสียงติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก จากนั้นผมก็เดินตามเสียงไปแล้วผมก็เจอนาฬิกาเรือนนี้"
1
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...ขณะที่เรากำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับชีวิตหรือหน้าที่การ งาน บางครั้งก็จำเป็นอย่างมากที่จะต้องสงบจิตสงบใจ มาคิดตรึกตรองดูว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นถูกต้องและเหมาะสมดีแล้วหรือเปล่า และนี่ก็อาจจะเป็นความหมายที่แท้จริงของคำโบราณ ที่ว่า “บนเส้นทางของชีวิตบางครั้งก็ควรตึงเครียด บางครั้งก็ควรผ่อนคลาย”
เพื่อนกัลยาณธรรม
1
โฆษณา