9 ธ.ค. 2023 เวลา 05:31 • ปรัชญา
เจ้าของกระทู้ดูหนังจีนกำลังภายในมากไปหรือเปล่าคะ เราเองไม่เคยคิดเรื่อง "สำเร็จอรหันต์" เลยค่ะ อมิตาพุทธ! (อมิตภะ คือพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งที่ชาวพุทธฝ่ายมหายานนับถือ)
สำหรับคำว่า "ชาติ" ในปฎิจจสมุปบาท แปลว่า "การเกิด" ซึ่งในช่วงอายุขัยของเรานี้ ก็มี "เกิด" และ "ดับ" ถี่ยิบ! ไม่สามารถนับได้ทัน อัตโตวินาทีที่ได้รับรางวัลโนเบลล่าสุด ก็ยังตามนับไม่ทันเลยค่ะ แต่พวกเรามักใช้ในความหมายว่า ชาตินี้คือ "ห้วงอายุขัยของเรา ที่ยังเป็นเรา ยังเป็นตัวเรา เช่น เป็นเลม่อน, เป็น chen eing"
ดังนั้นคำว่าชาตินี้ หากให้ตรงและเข้าใจถูก เป็นสัมมาทิฐิ ก็ควรจะหมายว่า "จงเร่งทำเดี๋ยวนี้เลย ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้" แต่เพราะที่จริง เราทุกคนต่างสั่งสมบุญกรรมมาไม่เท่ากัน เราจึงทำไม่ได้ขนาดนั้น แค่ไม่ให้โกรธยังยากเลย! พุทธองค์ทรงเน้นให้เดินไปตามทางสายกลาง เพราะตึงก็ไม่ได้ แต่หย่อนก็พาลจะเกียจคร้าน
พระอานนท์ มีภาระมากและหนักหนา ในการดูแลถวายปรนนิบัติพระพุทธเจ้า ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกผู้พี่ เทียบเคียงแล้ว ก็คือการทำหน้าที่คล้ายพระเลขาในพระสังฆราชเจ้า แต่หนักกว่าหลายเท่า เพราะพระอานน์เป็นพระเลขาของมหาบุรุษและศาสดาเอกของโลกเลยทีเดียว พระอานนท์จึงบรรลุอรหัตผลได้ช้ากว่าคนอื่น แต่ท่านออกบวชไม่นานก็ทรงบรรลุเป็นพระโสดาบัน (ละสังโยชน์ 3)
เราตั้งข้อสังเกตว่า ผู้รู้หรือพระสงฆ์องค์เจ้าทั้งหลาย มักสอนพวกเราว่า "อย่างน้อยควรต้องบรรลุโสดาบันเสียตั้งแต่ในชาตินี้" เพราะการบรรลุโสดาบัน ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเกิดในอบายภูมินั่นเอง ...ต้องตอนนี้และเดี๋ยวนี้เท่านั้น! ทำได้ไหมเล่า!
ละสังโยชน์ 3 คือ
ละจากการยึดถือตัวตน ว่ามีตัวตน มีเรา
(ด้วยการเห็นทุกขสัจจะ)
ละจากการลังเลสงสัยในพระรัตนตรัย
(ด้วยการเห็นสมุทัย)
ละจากสีลพรตปรามาส
(ด้วยการเห็นมรรคและนิพพาน)
แค่ข้อแรก"ไม่มีเรา" ก็งุนงงสงสัยแล้ว
โฆษณา