Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
UP-Idea
•
ติดตาม
15 ธ.ค. 2023 เวลา 02:50 • ประวัติศาสตร์
สงคราม(เพื่อทำ)การค้า
การค้าขายระหว่างชาติยุโรปและเอเชียเป็นสิ่งที่มูลค่ามหาศาลมาแต่โบราณ เส้นทางสายไหมของราชวงศ์ฮั่นกับชาวโรมัน กองคาราวานของเจงกิสข่าน หรือแม้แต่การสำรวจทางทะเลของชาวยุโรปเพื่อเปิดเส้นทางการค้ากับอินเดีย เป็นเครื่องพิสูจน์ที่สำคัญว่าผลประโยชน์ที่ได้จากการค้าขายข้ามทวีปนี้มีมูลค่าสูงขนาดไหน
เมื่อชาวยุโรปเริ่มเข้าสู่เทคโนโลยีการทหารยุคใหม่ ทั้งระบบทหารอาชีพ การเดินเรือ และปืนไฟ ก็ทำให้สถานการณ์การค้าของชาติที่มีเทคโนโลยีด้อยกว่าเริ่มเปลี่ยนแปลงไป บ้างก็โดนบังคับให้ค้าขายแบบไม่เป็นธรรม บ้างก็โดนยึดเป็นแหล่งทรัพยากรไปเลย
เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 19 มหาอำนาจยุคโบราณเริ่มต้านทานอำนาจของชาวตะวันตกไม่ไหว พี่ใหญ่ของเอเชียอย่างอินเดียต้องพ่ายแพ้ให้กับบริษัทสัญชาติอังกฤษอย่าง อีสต์ อินเดีย ส่วนต้าชิงที่เป็นพี่ใหญ่อีกที่หนึ่งก็ต้องพ่ายแพ้ในสงครามฝิ่นจนเป็นใบเบิกทางให้ชาติตะวันตกอื่นๆ บุกเข้าบังคับให้ต้าชิงต้องทำสัญญาการค้าแบบที่เสียเปรียบไปด้วย
สหรัฐอเมริกาก็เป็นหนึ่งในประเทศที่โดดเข้ามาหาผลประโยชน์จากชาติเอเซียด้วยเช่นกัน โดยได้เข้าไปทำสัญญาการค้ากับจีนในปี 1844 ซึ่งก็ทำให้มูลค้าการค้าขายของทั้งประเทศเติบโตอย่างมาก รวมทั้งในเขตทะเลญี่ปุ่นเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญอย่างเช่นวาฬ เพราะเชื้อเพลิงในตะเกียงของชาวตะวันตกยุคนั้นส่วนใหญ่มาจากไขมันวาฬทั้งนั้น
ด้วยผลประโยชน์ที่น่าสนใจขนาดนี้ สหรัฐอเมริกาเลยพุ่งเป้าความสนใจมายังญี่ปุ่นที่เป็นที่ตั้งสำคัญทั้งในเรื่องการค้ากับจีนและจุดพักเรือล่าวาฬ แต่ชาติตะวันตกก่อนหน้านี้ที่มาเจรจากับญี่ปุ่นก็ล้วนแต่แป้กไปหมดเพราะรัฐบาลโตกุกาวะใช้นโยบายปิดประเทศจะไม่ยอมคุยด้วยท่าเดียว ทางสหรัฐอเมริกาเลยต้องใช้กำลังซะหน่อยไม่งั้นจะคุยไม่รู้เรื่อง คณะทูตของอเมริกาจึงโดยสารมาด้วยเรือรบจำนวนสี่ลำซึ่งมีผู้บัญชาการกองเรือคือพลเรือจัตวา แมทธิว เพอรี่
เพอรี่เดินทางมาถึงอ่าวเอโดะในเดือนกรกฏาคม ปี 1853 แม้รัฐบาลโตกุกาวะจะรู้เรื่องผู้มาเยือนจากแดนไกลอยู่บ้างแล้วแต่กองเรือที่สามารถแล่นในน้ำได้แม้จะไม่มีกระแสลมก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับชาวเอโดะเหมือนมีสัตว์ประหลาดโผล่มา เนื่องจากกองเรือของเพอรี่ทาด้วยสีดำทั้งหมด ชาวเอโดะจึงเรียกสิ่งนี้ว่าเรือดำ เมื่อมาถึงเพอรี่ก็ทักทายเพื่อนใหม่ด้วยปืนใหญ่ที่ยิงขึ้นฟ้าจากกองเรือดำ แม้จะไม่ได้บรรจุกระสุนแต่ก็ทำให้ชาวเอโดะตกใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับกันเลยทีเดียว
ในช่วงที่เรือดำกำลังเข้ามาที่อ่าวเอโดะ ซามูไรจากทุกแคว้นต่างก็ถูกเกณฑ์ให้เข้ามาเป็นทหารรักษาชางฝั่งเพื่อว่ามีเหตุสู้รบกัน ซึ่งเรียวมะเองก็เป็นหนึ่งในทหารเกณฑ์ที่ต้องไปเตรียมรับมือกับเรือดำ
สถานการณ์ภายในฝั่งโตกุกาวะในขณะนั้นก็กำลังปั่นป่วนเนื่องจากโชกุน โตกุกาวะ อิเอโยชิ ก็กำลังป่วยหนัก ในสภาวะสุญญากาศนี้กลับจบลงด้วยการซื้อเวลาเมื่อเพอรี่ขอยื่นจดหมายจากประธานาธิบดีเพื่อขอให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศโดยให้เวลาเตรียมตัวหนึ่งปีก่อนจะแวะกลับมาใหม่
เมื่อยื่นจดหมายเสร็จแล้วกองเรือดำก็ถอนสมอกลับไป แต่ถึงแม้เรือดำจะจากไปแต่ก็ทิ้งบาดแผลใหญ่ไว้ในใจชาวญี่ปุ่น ประเทศที่ไม่เคยมีต่างชาติบุกมาข่มขู่ได้ เพราะแม้แต่กองทัพมองโกลของกุบไลข่านก็มิอาจจะมาทำอะไรที่แผ่นดินญี่ปุ่นได้ แต่วันนี้เหตุการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้วเพราะไม่มีใครเชื่อว่าด้วยศักยภาพของรัฐบาลโตกุกาวะจะสามารถเอาชนะเรือดำได้เลย
เมื่อเห็นว่าไม่อาจต้านทานการคำขอของสหรัฐอเมริกาได้ รัฐบาลโตกุกาวะจึงเปิดให้มีการเสนอแนวทางในการจัดการกับเรื่องเรือดำ สิ่งนี้เป็นเรื่องใหม่มากๆ ในสังคมปิดแบบญี่ปุ่นที่จะทำให้เกิดการแสดงความคิดเห็นได้ และการเปิดกว้างทางแนวความคิดนี้เองก็จะทำให้เกิดแนวคิดของการล้มรัฐบาลโตกุกาวะเพื่อคืนอำนาจให้จักรพรรดิในอนาคต
เวลาผ่านไปไม่ทันครบปีเมื่อเพอรี่ได้ข่าวว่าอังกฤษกับรัสเซียจะมาฉวยโอกาสเปิดการค้ากับญี่ปุ่น เขาก็รีบกลับมาเคลมผลงานที่ญี่ปุ่นทันที คราวนี้ขนเรือมาถึง 8 ลำ มาถึงตรงนี้รัฐบาลโตกุกาวะไม่สามารถซื้อเวลาได้อีกแล้ว จึงได้จัดการประชุมที่ท่าเรือเล็กระหว่างทางที่เรือดำจอดอยู่และได้เซ็นสัญญาเปิดประเทศเพื่อทำการค้ากับสหรัฐอเมริกาขึ้น สัญญาฉบับนี้ทำให้หลายคนมองว่าเป็นสัญญาแห่งความอัปยศที่ต้องเซ็นโดยที่ต่างชาติข่มขู่เป็นการลบหลู่เกียรติของพระจักรพรรดิอย่างรุนแรง
แต่ความเห็นของผู้คนต่อเรื่องนี้ก็ยังแตกต่างกันออกไป มีทั้งคนที่เห็นว่าต้นตอของปัญหาคือรัฐบาลโตกุกาวะต้องจัดการรัฐบาลให้ได้ บางคนก็มองว่าปัญหาคือฝรั่งหัวแดงตะหากต้องกำจัดต่างชาติผู้รุกรานไปให้หมด บางคนก็มองว่าต้องทำประเทศให้เจริญแบบตะวันตกถึงจะไม่โดนเอาเปรียบได้ แล้วซากาโมโตะ เรียวมะ จะอยู่ค่ายไหนอันนี้มาติดตามได้ในตอนต่อไปครับ 😊
Remark
1. เมืองเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างเอโดะกับที่จอดเรือของเพอรี่ภายหลังเติบโตมาเป็นเมืองท่าสำคัญที่ชื่อ โยโกฮามะ
2. โชกุน อิเอโยชิ เสียชีวิตในวันที่เพอรี่แล่นเรือกลับพอดี เรื่องนี้จะนำไปสู่ปัญหาการแต่งตั้งโชกุนคนต่อไป
Photo Credit:
https://visualizingcultures.mit.edu/black_ships_and_samurai/bss_essay03.html
เที่ยวญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น
ประวัติศาสตร์
บันทึก
2
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เรื่องของเรียวมะ
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย