16 ธ.ค. 2023 เวลา 04:32 • ประวัติศาสตร์

มู่หรงชง หนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์...จากนายบำเรอสู่ฮ่องเต้

ยุค 5 ชนเผ่า 16 รัฐ มู่หรงชง องค์ชายแห่งราชวงศ์เฉียนเยียนชาวเซียนเป่ย เมื่อรัฐเฉียนเยียนแพ้สงครามรัฐเฉียนฉิน มู่หรงชงในวัยเพียง 12 ปี ถูกกวาดต้อนเป็นเชลยศึกพร้อมสมาชิกราชวงศ์อื่นๆ พร้อมประชาชนชาวเฉียนเยียน 40,000 ครอบครัวไปฉางอานเมืองหลวงของเฉียนฉิน
ฝูเจียนเซียนจ้าวตี้ ฮ่องเต้เฉียนฉิน วัย 33 ปี เมื่อเห็นมู่หรงชงเด็กหนุ่มวัย 12 ปี ก็เกิดน้ำลายไหล มู่หรงชงเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาหล่อเหลาผิวขาวราวหิมะตามแบบฉบับชาวเซียนเป่ย
ตั้งแต่นั้นมา ฝูเจียนก็จูงมือมู่หรงชงเข้าสู่วังหลวงเป็นเด็กในสังกัด พร้อมพี่สาวของมู่หลงชงที่เป็นสาวสวยมีหน้าตาละหม้ายคล้ายกันกับมู่หรงชง ชิงเหอพี่สาวของมู่หรงชงได้รับการแต่งตั้งเป็นนางสนม
ความหลุ่มหลงของฝูเจียนที่มีต่อสองพี่น้องหนุ่มหล่อสาวสวย จนทั้งสองผูกขาดเตียงมังกร สนมคนอื่นตกกระป๋องนอนจิ๋มแห้ง จึงมีเพลงฮิตติดตลาดดังทั่วฉางอานว่า 'หญิงหนึ่งคนและชายหนึ่งคน ทั้งคู่บินเข้าไปในพระราชวังต้องห้าม'
หลายปีผ่านไป ฝูเจียนฮ่องเต้มากความสามารถก็ยังขลุกอยู่กับมู่หรงชงไม่มีท่าทีเบื่อหน่าย นายกรัฐมนตรีหวังเมิ่งต้องออกปากตักเตือนและแนะนำให้สังหารมู่หรงชงเสีย
แต่อย่างไรมู่หรงชงก็เป็นชายคนโปรดเมียสุดที่รักของฝูเจียน ฮ่องเต้หัวงูจึงไม่อาจหักหาญสังหารพ่อยอดชายได้ลงคอ เลยจำใจต้องส่งมู่หรงชงออกจากอกพ้นจากพระราชวัง ไปเป็นนายอำเภอที่ผิงหยาง
ค.ศ.383 ฝูเจียนใจร้อนทำสงครามกับราชวงศ์จิ้นของตระกูลซือหม่า หรือสุมา หวังจะรวมแผ่นดินเหนือใต้ให้เป็นหนึ่ง แต่พ่ายแพ้ยับเยิน ขุนพลรัฐเยียนที่ยอมสวามิภักดิ์ต่อฝูเจียนเมื่อคราวสิ้นชาติ เห็นเป็นโอกาสดีจึงก่อกบฏ
มู่หรงชงเห็นอาและพี่ชายลุกขึ้นก่อหวอด มู่หรงชงจึงเข้าร่วมเพราะแค้นใจฝูเจียนเฒ่าหัวงูมานาน ต้องการล้างความอัปยศที่เป็นทาสกามของฮ่องเต้เฉียนฉินมานานหลายปี
ผลสุดท้ายฝูเจียนพ่ายแพ้ยับเยินให้กับมู่หรงชง มู่หรงชงเข้ายึดเมืองหลวงฉางอาน ฝูเจียนหนีจากฉางอานแต่ไปไม่รอด ถูกขุนพลใต้บังคับบัญชารัดคอตายอย่างกระจอกงอกง่อย
ปีถัดมา ค.ศ.386 มู่หลงชงที่ครองตำแหน่งฮ่องเต้ซีเยียน ถูกขุนพลสังหารเพราะไม่พอใจที่มู่หรงชงลงหลักปักฐานที่ฉางอาน ไม่ยอมคืนภาคตะวันออกอันเป็นถิ่นเดิมของชาวเซียนเป่
โฆษณา