24 ธ.ค. 2023 เวลา 14:57 • หนังสือ

ถ้าคุณ “ ทักษะการเขียนที่ดี” คุณภาพชีวิตของคุณจะดีขึ้นขนาดไหน…(2)

หากคุณเป็นคนที่เคยคิดว่านักเขียนนั้น“ ไส้แห้ง” ตอนนี้คงต้องคิดใหม่ แล้วรีบไปฝึกทักษะการเขียน เพราะไม่อย่างนั้นคุณอาจจะเป็นคนที่ไส้แห้งเองก็ได้
เทคนิคการเขียนสามรูปแบบที่จะมาแบ่งปันมีดังนี้
1. เรื่องเล่า
งานวิจัยจำนวนมากพบว่าสมองของมนุษย์ชอบเล่าเรื่อง และยังพบว่าสิ่งที่มนุษย์จดจำได้ดีที่สุดคือเรื่องเล่า ซึ่งตามประวัติประวัติศาสแล้ว การเล่าเรื่องเป็นการสื่อสารรูปแบบแรกที่เกิดขึ้นบนโลก และเป็นรูปแบบการสื่อสารแรกที่เรารู้จักตั้งแต่เกิดอีกด้วย หลายครั้งเราได้รับข้อมูลอะไรมา ไม่ว่าจะเป็นการฟังหรือการ จะสังเกตได้ว่าถ้าเป็น เรื่องเล่าเราจะสามารถจำมันได้ภายในครั้งเดียว ดังนั้น เรื่องเล่าที่ดีก็เหมือนการดูหนังเรื่องหนึ่ง คือต้องมี “ จุดเริ่มต้น อุปสรรค ดิ้นรน และทางออก”
2. เขียนบทความ
ปัญหา ส่วนใหญ่ของคนเขียนบทความ คือไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน ดำเนินเรื่องอย่างไร และหาจุดจบที่ลงตัวไม่ได้ จึงทำให้หลายครั้งเสียเวลาไปกับการเขียนที่จับจุดไม่ได้ เทคนิคที่ช่วยประหยัดเวลาในการเขียนบทความได้มาก คือการใช้หลักการ O-R-E-O MAP จากหนังสือศาสตร์แห่งการเขียนที่โน้มน้าวใจได้ทุกคน เขียนโดย ซง ซุกฮี ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนตามตัวย่อ ดังนี้
- Opinion(ความเห็น) นำเสนอความเห็นที่เป็นข้อสรุปของเรื่อง
- Reason (เหตุผล) พิสูจน์ข้ออ้างด้วยเหตุผลและหลักฐาน
- Example (ตัวอย่าง) ยกเหตุการณ์หรือยกตัวอย่างประกอบ
- Opinion/Offer (ความเห็น/ข้อเสนอ) การเน้นย้ำข้อสรุปของเรื่องอีกครั้ง ถ้าเป็นการขายสินค้าก็ยื่นข้อเสนอ
3. เขียนขายบนโซเชียล
เทคนิคการเขียนนี้เรียกว่า “ การเขียนแบบป้ายา” เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่มีใครหลงเข้ามาอ่าน จะเกิดความอยากขึ้นมาจนต้องทักเข้ามาสั่งซื้อสินค้าอย่างกับโดนป้ายาเลยทีเดียว
ลักษณะการเขียนขายสินค้าแบบป้ายยา คือ…
1. ค้นหาปัญหาของลูกค้า แล้วนำมาแก้ออกให้เขาเห็นอย่างชัดเจน
2. นำลูกค้าไปสู่สถานะที่ดูเหมือนว่าปัญหานั้นสามารถแก้ได้แล้ว
3. นำลูกค้ากลับมาอยู่ในสถานะเดิม
4. ยื่นข้อเสนอแนวทางแก้ปัญหา โดยกำหนดราคาในใจของลูกค้าให้สูงกว่าราคาที่ขายจริง
5. เสนอสินค้าหรือบริการ ในราคาที่ต่ำกว่าราคาในใจที่ตั้งเอาไว้เพื่อให้รู้สึกถึงความคุ้มค่า
บทความจาก #หนังสืองานประจำสอนทำธุกิจ(คุณนาฟิส อิสลาม ผู้เขียน) เจ้าของเพจสมองไหล
โฆษณา