2 ม.ค. 2024 เวลา 08:04 • ประวัติศาสตร์

“Shibboleth” หากออกเสียงไม่ถูกอาจถูกฆ่าได้

เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยใช้พาสเวิร์ดหรือรหัสลับกันบ้าง
รหัสลับเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันตัวตนของผู้ใช้ ทำให้รู้ว่าคนๆ นั้นเป็นเจ้าของบัญชีหรือเป็นพวกเดียวกับตน
ในสมัยโบราณโดยเฉพาะในยามสงคราม ก็มีรหัสลับหนึ่งที่กองทัพใช้ และหากออกเสียงไม่ถูกก็อาจจะถูกฆ่าได้
คำๆ นั้นคือ “Shibboleth”
คำๆ นี้มีที่มาและประวัติความเป็นมาอย่างไร? ลองมาดูกันครับ
คำว่า “Shibboleth ‎(שִׁבֹּלֶת)” เป็นภาษาฮีบรู มีความหมายสื่อถึงส่วนหนึ่งของพืช บริเวณคล้ายๆ กับก้านหรือเมล็ด โดยคำว่า Shibboleth นี้เป็นคำที่ใช้ในการจำแนกคนนอก มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่สมัยยุคสัมฤทธิ์
มีการใช้คำนี้เนื่องจากชนต่างๆ ในดินแดนคานาอันนั้นจะออกเสียงคำนี้แตกต่างออกไป โดยบางกลุ่มเช่น ชาวเอฟราไมต์ ออกเสียงพยางค์แรกนี้ต่างออกไป ทำให้สามารถแบ่งแยกได้ชัดเจน และอาจจะทำให้รู้ว่าใครเป็นสายลับดินแดนศัตรู
บางแหล่งก็ระบุว่าประชากรบางกลุ่มในแถบนั้นไม่สามารถออกเสียงพยางค์แรกของคำว่า Shibboleth ได้ ทำให้สามารถแยกออกได้ว่าใครคือชนกลุ่มที่พูดภาษาฮีบรู ใครเป็นต่างชาติ และอาจจะเป็นสายลับ
มีบันทึกใน “หนังสือผู้วินิจฉัย(Book of Judges)” ซึ่งเป็นหนังสือเล่มที่ 7 ของคัมภีร์ฮีบรูและพันธสัญญาเก่าของศาสนาคริสต์ ได้บันทึกว่า
1
“กองทัพกิเลียดได้เข้ายึดครองเส้นทางสู่เอฟราอิม และเมื่อมีผู้รอดชีวิตชาวเอฟราอิมกล่าวว่า “ให้ข้าข้ามไปด้วย” ทหารกิเลียดก็จะถามว่า “เจ้าเป็นชาวเอฟราไมต์ใช่หรือไม่?” หากผู้นั้นตอบว่า “ไม่ใช่” ทหารก็จะบอกว่า “เอาละ เจ้าลองพูดว่า “Shibboleth” ซิ” หากผู้นั้นออกเสียงว่า “Sibboleth” เนื่องจากไม่สามารถออกเสียงได้ถูกต้อง ทหารก็จะจับกุมผู้นั้นและนำไปประหาร โดยมีชาวเอฟราไมต์กว่า 42,000 คนถูกสังหาร”
ก็เรียกได้ว่าออกเสียงผิดพยางค์เดียวชีวิตเปลี่ยนทันที
ในทุกวันนี้ คำว่า Shibboleth ก็ยังเป็นคำที่สื่อถึงเรื่องราวในคัมภีร์ แสดงถึงการใช้รหัสลับ ซึ่งในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ ในสมัยสงครามโลกก็มีการใช้รหัสลับเช่นกัน และหากตอบรหัสผิด ก็อาจจะถึงตายได้
ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรหลายนายถูกยิงเนื่องจากขานรหัสผิด ทำให้ในความมืดซึ่งมองเห็นหน้าไม่ชัด ถูกพวกเดียวกันยิงเนื่องจากเข้าใจผิดว่าเป็นสายลับศัตรู
นี่ก็เป็นเกร็ดเรื่องราวหนึ่งตั้งแต่สมัยโบราณ
โฆษณา