6 ม.ค. เวลา 03:25 • สุขภาพ

"กลิ่นคนแก่" มีจริงหรือคิดไปเอง?

เวลาเทศกาล ที่เราต้องพบปะกับบรรดาญาติผู้ใหญ่ นอกจากของขวัญ ค่าขนม และเรื่องราวเก่าๆที่เล่ามารอบที่ล้าน อีกหนึ่งสิ่งที่เราจะสัมผัสได้ก็คือ "กลิ่น" ที่เราไม่เคยได้ที่ไหนมาก่อน เป็นกลิ่นที่เรารับรู้ได้ทันทีว่า เขาคือผู้มากประสบการณ์ ผู้อาบน้ำร้อนมาก่อน หรือ "แก่" สั้นๆนี่แหละ ว่าแต่กลิ่นนี้มีจริง หรือเป็นเพียงอคติของเราไปเอง มีวิทยาศาสตร์อยู่เบื้องหลัง "กลิ่นคนแก่น" หรือไม่
5
ในญี่ปุ่น กลิ่นลักษณะดังกล่าวถูกเรียกว่า "kareishu" นอกจากจะตั้งชื่อกลิ่นให้แล้ว ความจริงจังของชาวญี่ปุ่นยังถึงขนาดที่บริษัทต่างๆทำผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นคนแก่ออกมาวางขาย กลิ่นคนแก่ไม่มีนิยามตายตัว แต่เป็นคำที่อธิบายลักษณะกว้างๆของกลิ่นที่ได้รับจากการสัมผัส ใกล้ชิด หรือสิ่งของของผู้สูงอายุ
1
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นคนแก่ในญี่ปุ่น
กลิ่นคนแก่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หลักๆแบ่งออกเป็น 3 กลไก คือ
1. ความเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในร่างกาย เมื่อคนเราอายุมากขึ้นการผลิตกรดไขมันในผิวหนังจะเพิ่มขึ้นในขณะที่การผลิตสารต้านอนุมูลอิสระลดลง กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนจะถูกออกซิไดซ์บางครั้งเพิ่มปริมาณของสารเคมีที่เรียกว่า 2-nonenal
ซึ่งเป็นกลุ่มโครงสร้างของกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ถูกออกซิไดซ์ ซึ่งคล้ายกับของกลิ่นหญ้าและไขมัน นอกจากนี้ยังอาจมีสาเหตุจากการเพิ่มมากขึ้นของสารเคมีบางกลุ่มในผิวหนัง ขึ้นอยู่กับแต่ละคน เช่น dimethylsulfone และ benzothiazole
โครงสร้างของ 2-nonenal
2. กลิ่นที่เกิดจากการใช้ยาของผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะกินยาตามใบสั่งแพทย์มากกว่าผู้ที่อายุน้อยกว่า ทั้งเงื่อนไขทางการแพทย์และยาที่เป็นพื้นฐานอาจส่งผลต่อกลิ่นตัว ตัวอย่างเช่นการรับประทานกระเทียมเป็นอาหารเสริมนั้นมีผลต่อกลิ่น ยาบางชนิดมีรายงานในการเปลี่ยนกลิ่นของผู้ใช้สูงอายุ เช่น topiramate (Topamax) ใช้ในการรักษาโรคลมบ้าหมูและอาการชัก ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ยาซึมเศร้าและโคเดอีนซัลเฟต
นอกจากนี้ ภาวะบางอย่างของผู้สูงอายุ เช่น โรคเบาหวาน ภาวะไทรอยด์ทำงานเกินโรคตับ โรคไต วัยหมดประจำเดือน ก็อาจส่งผลเช่นกัน
3. ปัจจัยแวดล้อม เช่น ผู้สูงอายุอาจอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าน้อยลง สุขอนามัยของฟัน การได้รับกลิ่นจากของเก่าๆที่เป็นของใช้ ก็จะทำให้คนแก่ได้รับกลิ่นเหล่านั้นจากสิ่งของด้วย เป็นต้น
Johan Lundström นักประสาทวิทยาประสาทสัมผัสที่ Monell Chemical Senses Center กล่าวว่ามนุษย์ใช้กลิ่นเพื่อค้นหาเพื่อนระบุเครือญาติและหลีกเลี่ยงคนป่วย Lundströmและทีมงานของเขาได้ทำการศึกษาที่พบว่าผู้คนสามารถระบุอายุของบุคคลได้จากกลิ่นตัวเพียงอย่างเดียว
การทดลองยังพบว่ากลิ่นที่เกี่ยวข้องกับวัยชรา (อายุ 75 ถึง 95 ปี) ถือว่าไม่เป็นที่พอใจน้อยกว่ากลุ่มตัวอย่างในวัยกลางคนและอายุน้อย กลิ่นของผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า ("กลิ่นผู้หญิงแก่") ได้รับการตัดสินว่ามีกลิ่นหอมน้อยกว่าของผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า
2
การลดกลิ่นคนแก่ ทำได้โดยเพิ่มปริมาณการกินผักใบเขียวต่อมื้อ จะช่วยลดปริมาณไขมันในการนำเข้าสู่ร่างกาย ทำให้การผลิตเนื้อเยื่อไขมันลดลง ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นให้สะอาด และดูแลไม่ให้อับชื้นอยู่เสมอ หากิจกรรมหรืองานอดิเรกทำเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ การลดความเครียดจะช่วยลดการผลิต Cortisol ซึ่งเป็นสาเหตุของการสะสมไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นคนแก่ได้อีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ การซักเสื้อผ้าเป็นประจํา ก็มีส่วนช่วยลดการสัมผัสกับแบคทีเรีย และหมั่นทำความสะอาดผ้าปูที่นอนให้สะอาดอยู่เสมอ
อ้างอิง
โฆษณา