ขาย "คุณค่า", ขาย "ความน่าสงสาร"

วันนี้มีถนนคนเดิน มันก็ดีนะที่มีแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งหมุนเวียนเศรษฐกิจ (ยังไม่ได้นับรวมถึงมาเดินส่องสาวนะ, สาวก็แต่งตัวอย่างกะงานพรอม)
ใครเป็นคนคิดกิจกรรมนี้เนี่ย ช่างดีงามเสียเหลือเกิน ถ้า focus ถึงพ่อค้าแม่ค้า ก็ต้องพลิกแพลงเอานะ ว่ามันจะได้คุ้มเสียหรือเปล่า
ได้อ่ะคือได้กำไร แต่เสียหล่ะ, ก็ต้องคิดค่าน้ำมัน คิดค่าเช่า ค่าไฟ ค่าของกิน (บางร้านกินเบียร์ทุกอาทิตย์ กำไรไม่ไปไหนหรอก) ค่าอื่นๆ ที่จิปาถะ
เหตุที่เกิดบทความนี้คือ ฟังเสียงคนตีระนาด แต่แบบตีนะ แตะๆ ไม่รู้จักโน้ต ไม่รู้จักเพลง แล้วมีขันให้ใส่ตังค์ คืออยากเดินไปขโมยเงินเค้ามากเลย
ลองนึกภาพตามนะ สมมติเราจะซื้อข้าว 1 จาน เราก็จะกินไปแล้ว 1 คำ และชุดความคิดจะตามมา, เห้ยอร่อย เห้ยคุ้มค่าอ่ะ ร้านนี้ไปต่อ เห้ยแหวะ ร้านนี้ไม่ได้ไปต่อ
แล้วมันจะเกิดคำว่า "อยู่รอด" หรือ "เจ๊ง" ทำไมมันมากำหนดร้านเราได้ไอ่เรื่องนี้เนี่ย
ลองเดาๆ
.
.
การอยู่รอดคือการที่ลูกค้าบอกต่อๆ กัน ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งในการขาย และจะเจ๊งก็คือปัจจัยเหล่านี้แน่แง่ลบ
แล้วคุนเปิดร้านแบบไหน?, แบบลูกค้าต้องเข้ามาหาเรา, หรือเราต้องไปหาลูกค้า มันก็แล้วแต่การสร้างแบรนด์นะอันนี้
กลับมาที่คนตีระนาด คือการที่ลูกค้าต้องมาหยอดตังที่เค้า ลองคิดดูซิว่าเราอยากเสียเงินมั้ย
เพราะการที่เราจะเสียเงินซื้ออะไรซักอย่างนั้นมันเป็นอารมณ์ทั้งนั้น,ไหนใครคำนวณว่าซื้อ TV มาแล้วจะดูกี่ ชม.?
คุณค่าจะทำให้เราอยากซื้อ เช่น เห้ยๆ ลงเหมือง bitcoin มั้ย ช่วงนี้กำลังขึ้น ชึ้นพึ่งลงไป 5M ได้คืนมา 2M ภายใน 3 เดือนเอง
มี 3 อย่าง ในการที่เราจะเสียเงิน, 1.กลัวจะไม่ทันเพื่อน 2.มีตัวอย่างหรือผู้กล้ารอบตัวแล้ว 3. มีตัวเร่งเวลา
กลับมาที่คนตีระนาดอีกครั้ง, ทำไมเราต้องเสียเงินเกิน 20 บาท ทำไมเราต้องซื้อซ้ำ เห็นแล้วมันน่าไปขโมยไม้ตีระนาด
#ชวนคนที่รักมาอ่านบทความย่อยง่าย
โฆษณา