8 ม.ค. เวลา 05:52 • อาหาร

วิธีทำไข่เค็ม เค็มได้ตามสั่ง

ไข่เค็ม คือวิธีการถนอมอาหารอย่างนึง ที่ช่วยให้เก็บไข่เป็ดได้นานขึ้น การดองไข่เค็มจากไข่เป็ดทั้งใบ สามารถทำได้หลากหลายวิธี
ไปที่ไหนๆ ตอนนี้ก็มีเมนูไข่เค็มหรือใช้ไข่เค็มเป็นส่วนประกอบ ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆ ไข่เค็มหน้าเดิมถึงได้ฮิต อินเทรนด์ขึ้นมาได้ ถ้าให้นั่งมโนเอง ก็อาจจะด้วยรสชาติมันๆ เค็มๆ เนื้อทรายของไข่แดงที่มีเอกลักษณ์ แถมด้วยไข่เค็มนั้นมีความพิเศษที่สามารถนำมาทำเมนูของคาวก็ดี
ของหวานก็เร่ิดอีกต่างหาก จึงให้เมนูไข่เค็มทั้งคาว หวาน ผุดขึ้นมากมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่ไข่เค็มที่กินกับข้าวต้มพุ้ยเท่านั้น ซึ่งแน่นนอน ราคาแต่ละอย่างก็แรงไม่ธรรมดาเช่นกัน ไข่เค็ม มันคือวิธีการถนอมอาหารอย่างนึง ที่ช่วยให้เก็บไข่เป็ดได้นานขึ้น
ด้วยการดองไข่เป็ดกับน้ำเกลือ ฟอกกับเกลือเลย หรือถ้าเป็นไข่เค็มไชยาก็จะใช้ดินจอมปลวกผสมเกลือคลุกแกลบดำพอกดองไว้ ซึ่งพระเอกหลักของการดองไข่เค็มก็คือ เกลือ ซึ่งเกลือก็คือโซเดียม ไข่เค็มจึงเป็นอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูงเมื่อเปรียบเทียบกับไข่ปกติ คือ 300-500 มิลลิกรัม/ฟอง
ในขณะที่ไข่ต้มจะมีโซเดียมอยู่เพียง 90 มิลลิกรัม/ฟอง (ปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวันอยู่ที่ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน) การดองไข่เค็มนั้นง่ายแสนง่าย เอาจริงๆ เมื่อก่อนรุ่น แม่ ป้า ย่า ยาย จะดองไข่เค็มเองกันทั้งนั้น เพราะประหยัดไม่ต้องไปซื้อหาให้เปลือง ใช้เวลาซัก 10-15 วันก็ได้ไข่เค็มที่จะเอามาดาว หรือมาต้มได้แล้ว วัสดุอุปกรณ์ก็ไม่ได้มากมาย อาศัยแค่เวลาเท่านั้น
วัสดุ ส่วนผสม และอุปกรณ์
1.ไข่เป็ดล้างทำความสะอาด ผึ่งลมให้แห้ง 10 ใบ
2.เกลือทะเลเม็ดใหญ่ 2 ถ้วย (250 กรัม)
3.น้ำสะอาด 2 ลิตร
4.ขวดโหลแก้ว พร้อมฝาพลาสติก
5.น้ำส้มสายชูสำหรับแช่ไข่
วิธีการทำวันแรก
นำไข่เป็ดที่ล้างทำความสะอาดและผึ่งลมให้แห้ง มาแช่กับน้ำส้มสายชูจะเป็นกลั่นหรือ หมักก็ได้ หากใช้น้ำส้มสายชูกลั่นก็จะใช้เวลาแช่ประมาณ 3-5 นาที หากเป็นน้ำส้มที่หมักเองอาจใช้เวลามากกว่านั้น ซึ่งกรดในน้ำส้มจะทำปฏิกิริยากับเปลือกไข่ ทำให้เนื้อเปลือกไข่บางลง จึงทำให้ความเค็มเข้าไปได้ง่าย ผลคือไข่เค็มเร็วขึ้น
เรียกง่ายๆว่า แช่นานเท่าไหร่ ก็ทำให้เวลานั้นการดองสั้นลงเท่านั้น ครั้งนี้เลือกใช้น้ำส้มแอปเปิ้ลหมัก (Apple Cider Vinegar) ที่หมักเอง และใช้เวลาแช่ไปประมาณเกือบ 20 นาที (เพราะทำอย่างอื่นไปด้วย) จากนั้นนำเกลือมาต้มกับน้ำ คนให้ละลายให้ได้มากที่สุด แล้วพักไว้ให้เย็นตัวลง
ถูทำความสะอาดเปลือกไข่ที่ล่อนออกมาหน่อย แล้วนำไข่เป็ดมาจัดเรียงในโหลแก้วที่เตรียมไว้ เติมน้ำเกลือลงไปจนท่วม กดไข่เป็ดขัดเข้ากับคอขวดให้ไข่ทั้งหมดจมอยู่ในน้ำเกลือเพื่อให้ความเค็มเสมอกัน สำหรับใครที่ทำน้อยๆ ไม่เต็มขวด ให้เอาถุงใส่น้ำมัดให้แน่น วางทับไว้ด้าน เพื่อกดให้ไข่จมลงก็ได้ จากนั้นปิดฝา แล้วเขียนวันที่เริ่มดองไว้กันลืมด้วนะ วางไว้ในอุณหภูมิห้อง
วิธีการทำวันที่ 8 ของการดอง ไข่เค็มดาวน้ำ
วันนี้ไข่เค็มที่ดองไว้จะเข้าสู่ช่วงที่เหมาะกับการนำมาทำไข่เค็มดาว คือ 8-12 วัน ไข่แดงจะเริ่มเป็นตัว เนื้อหนึบเมื่อนำมาดาว หรือ ดาวน้ำ เนื้อไข่แดงจะเป็นทราย แต่ด้านในจะยังเหลวเหมือนไข่เป็ด ไข่ขาวมีความเค็มกำลังดี ใครที่ชอบไข่เค็มที่ไม่เค็มจัดระยะนี้กำลังเหมาะ (ส่วนตัวก็ชอบดาวไข่เค็มระยะนี้ เพราะไข่ขาวจะไม่เค็มมาก แดงก็ยังเยิ้มนิดๆ กินกับข้าวจัดว่าอร่อยล้ำ)
วิธีการทำไข่เค็มดาวน้ำ
นำไข่เค็มที่ดองไว้ ออกมาล้างความเค็มออก ตอกไข่เค็มดิบใส่ถ้วย ตั้งหม้อต้มน้ำจนเดือด จากนั้นลดไฟลงให้ความร้อนปานกลาง นำช้อนคนให้น้ำในหม้อหมุน แล้วเทไข่เค็มดิบลงไป เมื่อไข่เกาะตัวก็ลดเป็นไฟอ่อน แช่ทิ้งไว้ 3-5 นาที ตักขึ้นซับน้ำด้วยกระดาษทิชชูครัว ก็นำมากินได้แล้ว
วิธีการทำวันที่ 15 ของการดองไข่เค็ม ไข่เค็มต้ม
ไข่เค็มเต็มที่ ไข่ขาวก็ออกรสเค็มเต็มที่ ใครที่ต้องการนำไข่แดงเค็มไปทำขนม ระยะนี้กำลังดี หรือจะนำไปต้มให้สุกเก็บไว้กินกับข้าวต้ม ใส่ในน้ำพริก หรือผัดกับปลาหมึก หรือกุ้งก็อร่อย
วิธีทำไข่เค็มต้ม
วิธีการไม่ได้ยุ่งยาก นำไข่เค็มออกจากขวดแล้วล้างเอาความเค็มออก ตั้งน้ำต้มไข่จนสุก แล้วนำขึ้นแช่น้ำพักไว้ให้เย็น ไข่เค็มที่ต้มแล้วจะสามารถเก็บในตู้เย็นได้นานหลายเดือน
ทำการดองเสร็จแล้วน้ำเกลือไปไหน?
น้ำเกลือที่ใช้ดองไข่เค็ม สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยนำมากรอง แล้วต้มให้เดือด ถ้าต้องการนำน้ำเกลือไปดองต่อ ให้เติมเกลือลงไปเพิ่ม คนให้ละลาย ทิ้งไว้ให้เย็น เราสามารถทดสอบความเค็มได้ด้วยการนำข้าวสารใส่ลงไปเล็กน้อย ถ้าข้าวสารลอย ก็เป็นความเค็มที่พอเหมาะ
ไข่เค็มที่ดองเอง ดียังไง?
ข้อดีจากการดองไข่เค็มด้วยตัวเอง เราจะสามารถเลือกสรรวัตถุดิบได้ตามต้องการ (เลือกเป็นไข่เป็ดออร์แกนิค กับดอกเกลือ หรือเกลือสีชมพูก็ได้) และยังมั่นใจได้ว่าไข่เค็มที่ได้ จะสะอาดปลอดภัย สามารถเลือกความเค็มได้ตามระยะที่ชอบได้ แถมยังประหยัดกว่าซื้ออยู่พอสมควร ไข่เค็ม 1 ใบ ให้พลังงานประมาณ 110 kcal แต่ปริมาณโซเดียมค่อนข้างสูง ยังไงก็กินกันแต่พอดีให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมด้วยนะคะ
โฆษณา