10 ม.ค. 2024 เวลา 09:47 • ข่าว

ว่าด้วยผังเมืองกรุงเทพใหม่…เพื่อใครกันแน่?

ตอนนี้มีคนจุดประเด็นกันขึ้นมาว่า แผนการแก้ผังเมืองใหม่
จะเป็นไปเพื่อการเอื้อนายทุนหรือไม่
ในฐานะคนในวงการก่อสร้าง ขอออกความเห็นหน่อยแล้วกัน
ปัญหาของเรื่องนี้ จริงๆน่าจะอยู่ที่หลักกฎหมาย
และสภาพความเป็นจริงมันไม่สอดคล้องกัน
จะว่าเป็นการแก้ปัญหาตามหลัง ก็อาจจะได้
แต่เพราะปัญหามันหมักหมมมาหลายสิบปี
การแก้ผังเมืองเลยต้องเล่นใหญ่กันหน่อย
ในกรณีนี้ ผมเข้าใจว่า ทางคนริเริ่ม ตัองการยุติข้อพิพาท
ที่มีอยู่มากมาย และมีผู้ที่อาจได้รับผลกระทบหลายแสนคน
หากมีการบังคับใช้กฎหมายตามผังเมืองเดิมเสียมากกว่า
อย่างอื่น
เนื่องจากในกรุงเทพนั้น มีการทำผิดกฎหมายผังเมือง
กันมานานมาก และมีเป็นจำนวนมาก
และมันไม่ใช่แค่นายทุนใหญ่ แม้แต่ผู้ประกอบการรายย่อยเอง
ก็ทำผิดกฎหมายในส่วนนี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน
เช่น การเปิดโรงงานขนาดกลางในพื้นที่ที่ไม่สามารถทำได้
ที่กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพ หรือแม้แต่อาคารให้เช่า
หรืออาพาร์ทเม้นต่างๆ ที่ไม่ใช่ของทุนใหญ่ ก็กระจายอยู่ใน
พื้นที่ ที่ไม่สามารถทำได้เป็นจำนวนมาก
หลายคนอาจคิดง่ายๆว่า
อ้าว ก็เมื่อผิดกฎหมาย ก็ตามรื้อแล้วฟ้องเอาสิ ยากอะไร
แต่ในความเป็นจริง มันโคตรยากเลยล่ะ ที่จะทำแบบนั้น
1
เหตุผลคือ อาคารเหล่านี้ ล้วนได้รับการอนุญาตอย่างถูกกฎหมายจากทางภาครัฐ ถ้าดูตามเอกสาร
มันเป็นผลมาจากการคอรัปชั่นในวงราชการที่สะสมมานาน
การเรียกเอกสารเหล่านี้คืนย้อนหลัง รัฐต้องรับผิดชอบนะ
เช่น คุณสร้างอาคารผิดประเภท แต่เจ้าหน้าที่เรียกเงิน
เพื่อออกใบฯให้
กรณีแบบนี้ มันไม่มีใบเสร็จ และเรื่องก็เกิดขึ้นนานแล้ว
จะตามแก้ ด้วยการรื้อถอนนั้นย่อมทำไม่ได้ง่ายๆ
เพราะไงเจ้าของอาคารเขาต้องสู้คดีแน่
หรือถ้าทำได้ ภาครัฐก็ต้องสำรองจ่าย เงินชดเชย
ค่ารื้อถอนไปก่อน เพราะถือว่าเป็นความผิดของรัฐ
และจะไปไล่เบี้ยเอากับข้าราชการ นายทุนทีหลังอีกที
ซึ่ง มันเป็นไปไม่ได้ เพราะมูลค่ามันสูง และใช้เวลามาก
แถมอาคารเก่าๆ คนออกใบอนุญาต จะมีชีวิตอยู่รึเปล่าก็ยังไม่รู้
กรณีที่ชัดเจนมาก คือกรณีโรงแรมดิเอทัส ในซอยร่วมฤดี
ที่ผิดกฎหมาย มีคำสั่งรื้อแล้ว แต่ก็ยังรื้อไม่ได้ และมีปัญหาเรื่องค่ารื้อถอนจนถึงทุกวันนี้
หรือล่าสุด ที่เป็นข่าวคือ แอชตัน อโศก ก็คล้ายๆกัน
และเชื่อหรือไม่ว่า ยังมีอาคารในกรุงเทพ อีกนับร้อยแห่ง
ที่อยู่ในลักษณะแบบนี้
และสุ่มเสี่ยงมาก ที่ศาลปกครองจะสั่งให้รื้ออีก
หากได้รับการร้องเรียน
…แน่นอน ศาลสั่งได้ แต่รัฐน่ะคงไม่มีปัญญาบังคับคดีหรอก…
1
…และนี่ คือที่มา ว่าทำไต้องมาแก้ไขผังเมืองกันตอนนี้….
ถ้าจะบอกว่านี่คือการเอื้อนายทุน
ผมว่าถ้าพูดให้ถูก มันคือการปกป้องตัวเองจากความผิดพลาด
ของภาครัฐในอดีตเสียมากกว่า
เพราะไม่งั้นคงได้ตามจ่ายกันไม่จบสิ้น จากคดีความที่อาจมีมากมายตามมา หลังจากศาลปกครองตัดสินเป็นบรรทัดฐานไว้
ประเด็นว่า มันอาจเอื้อนายทุนนั้น มันไม่ใช่ว่าไม่จริง
มันอาจจริง เมื่อการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้มากขึ้น
มันไปอัพมูลค่าที่ดินได้จริงๆ และอาจทำให้เกิดอาคารสูงอีกมากตามมา
แต่ …การสร้างอาคารสูงที่แท้จริงนั้น มันไม่ใช่แค่การดู
ความสามารถของพื้นที่ตามผังเมืองเท่านั้น
อาคารสูงขนาดใหญ่ โรงงาน ต่างๆ ที่กระทบกับวิถีชีวิตคน
มันต้องมีการทำ EIA หรือการรับฟังความเห็นคนในพื้นที่ประกอบไปด้วย ถ้าชาวบ้านไม่โอเค มันก็ทำไม่ได้
ซึ่งที่จริงแล้ว มันเป็นขั้นตอนที่ยากมากในต่างประเทศ
แต่ของเราที่มีปัญหามาตลอด
เพราะนายทุนสามารถลักไก่ได้ เมื่อมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจ ถึงได้สร้างกันผิดๆ แล้วต้องมาตามแก้ปัญหากันแบบนี้
หมายความว่า ถ้าเราสามารถควบคุมการทำ EIA.
ให้ถูกต้องตามขั้นตอน รับฟังทุกฝ่ายอย่างแท้จริง
ปัญหามันก็จะไม่เกิดภายหลัง แม้จะแก้ผังเมืองใหม่ก็ตาม
ดังนั้น การแก้ผังเมือง จึงไม่สามารถกล่าวได้ว่าเป็นการ
เอื้อประโยชน์ต่อนายทุนอย่างเต็มที่นัก มันต้องมองรอบด้าน
1
ที่จริงแล้ว การที่เมืองเติบโตขึ้น การปรับเปลี่ยน
เป็นสิ่งที่ทำได้ และทำกันมาตลอดอยู่แล้วในเมืองใหญ่ทั่วโลก
เราคงไม่สามารถสร้างรถไฟฟ้าเปล่าๆ โดยไม่สามารถพัฒนา
พื้นที่ให้คุ้มค่าในทางเศรษฐกิจได้ ใช่หรือไม่ ? …
ตรรกะมันก็เป็นเช่นนั้น
แต่เหนืออื่นใด การตามล้างผลของความผิดพลาดของรัฐ
ในอดีต ก็น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของเรื่องนี้
เพราะรัฐ คงไม่สามารถตามรับผิดชอบความผิดพลาด
ของเจ้าหน้าที่รัฐที่ก่อเอาไว้ได้ทั้งหมด
กล่าวกันว่า หากคอนโดฯขนาดใหญ่ในกรุงเทพ 26 แห่ง
ที่ดูแล้วมีปัญหาแน่ เกิดคดีฟ้องร้องขึ้นมา
รัฐอาจต้องสำรองจ่ายค่าเยียวยา ชดเชย รื้อถอน
เป็นวงเงินหลายแสนล้านบาทเลยทีเดียว
…นี่ยังไม่นับกรณียิบย่อย อย่างพวก โรงงาน อาพาร์ทเม้นท์
ห้างสรรพสินค้าอีกมาก ที่มีโอกาสเป็นคดีได้…
มันแน่นอน ว่ารัฐจ่ายไม่ไหว และในทางปฏิบัติก็ทำไม่ได้ด้วย
เช่น ในกรณีต้องรื้อถอน มันเป็นไปไม่ได้เลยในเชิงวิศวกรรม
มันจึงต้องออกมาในรูปนี้แหละ แม้จะไม่ชอบก็ตาม
เพราะมันคงไม่ใช่เรื่องอะไร ที่ต้องเอาภาษีคนทุกคน
มาช่วยจ่ายให้ความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน
…คิดในแง่นี้ ชาวบ้านอย่างเรา ก็คงต้องจำยอมล่ะครับ….
…และหวังว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายนะ สำหรับกรณีแบบนี้….
สำหรับผู้เขียนแล้ว การพัฒนากรุงเทพ มันเละเทะมานาน
และเกินกำลังของพื้นที่ไปไกลมากแล้ว
วิธีแก้ปัญหาเดียวของกรุงเทพแบบเบ็ดเสร็จ
คือการกระขายความเจริญไปตามหัวเมืองให้มากที่สุด
1
…ไม่ใช่สร้างโน่นนี่ ดึงคนเข้ามาแบบที่เป็นมา….
…กระจายออกไป ไม่ใช่ย้ายเมืองหลวงนะ อย่าเข้าใจผิด….
1
ข่าว
โฆษณา