Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ธเนศเล่าขาน "ทานทางปัญญา"
•
ติดตาม
10 ม.ค. 2024 เวลา 10:00 • หนังสือ
"เลขที่ 1 ถนนพิษณุโลก" : หนังสือน่าอ่านประจำปี 2566
-----------------------
มีผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ส่งหนังสือมาให้อ่านเล่มหนึ่ง ชื่อ "เลขที่ 1 ถนนพิษณุโลก" เขียนโดย"วิษณุ เครืองาม" 283 หน้า เพิ่งตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้ว(พ.ศ.2566) อ่านจบแล้ว ก็อยาก review แลกเปลี่ยนและแนะนำให้อ่านกัน
1.เป็นการเขียนต่อจากหนังสือเล่มก่อนคือ "ลงเรือแป๊ะ" ที่เล่าเรื่องราวสมัยที่ผู้เขียนร่วมงานกับรัฐบาลประยุทธ์1 และมาเขียนเล่มนี้ต่อ เมื่อร่วมงานในสมัยรัฐบาลประยุทธ์
2 โดยเอาชื่อของทำเนียบรัฐบาลมาเป็นชื่อเรื่อง ซึ่งสถานที่แห่งนี้ เคยเป็นที่อยู่อาศัย ของเจ้าพระยา
รามราฆพ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่สมัยรัชกาลที่ 6 และเป็นสถานที่เกิดเหตุ
การณ์สำคัญๆ ขึ้นหลายครั้ง เช่น การประกาศสงครามมหาเอเชียบูรพา การประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน การยึดอำนาจรัฐ การชุมนุมปิดล้อมประท้วงรัฐบาล เป็นต้น โดยหนังสือเล่มนี้มุ่งเล่าเรื่องราวต่างๆเฉพาะที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลประยุทธ์2 เท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหลายเชื่อมโยงไปถึงอาคารรัฐสภาด้วย
2. ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้เขียนจึงมีลีลาการเขียน(รวมทั้งการบรรยาย)ที่สามารถนำ
สหวิทยาการทุกสาขา และกรณีตัวอย่างต่างๆมาบูรณาการเป็นเรื่องเป็นราวจนมี FC มากมาย เพราะท่านไม่เพียงแต่เป็นศาสตราจารย์ทางกฎหมาย เป็นราชบัณฑิตทางกฎหมาย มีสติปัญญาและมีความจำเป็นเลิศแล้ว จากประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองของท่าน เมื่อนับรวมเวลาที่ท่านนั่งอยู่ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในฐานะต่างๆจนถึงพ.ศ 2566 นานถึง 25 ปีภายใต้รัฐบาล 12 คณะ นายกรัฐมนตรี 8 คน จึงมองเห็นอะไรๆได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
3. อ่านหนังสือนี้แล้วทำให้เกิดความรู้ ความเข้าใจการดำเนินงานของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารได้ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะทำให้รู้เท่าทัน เทคนิค กลเกม เล่ห์เหลี่ยมของทั้ง สส.ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ภาวะผู้นำของรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีแต่ละท่านมากขึ้น
4. อ่านแล้วทำให้การติดตามข่าวสารบ้านเมือง เกิดความเข้าใจและมีรสชาติมากขึ้น เพราะผู้เขียนเขียนเจาะลึกในทุกแง่ทุกมุม นำลีลาการทำงานของบุคคลสำคัญๆทั้งในสภาและในคณะรัฐบาล
มาจารนัยโดยไม่ละเว้นผู้ใด เขียนอย่างคนที่มีภูมิรู้ รู้จริง รู้ลึก และสอดแทรกอารมณ์ขัน เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจต่างๆ ทำให้อ่านสนุกตลอดทั้งเล่ม
5. เสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้เขียนคือ การหลีกเลี่ยงที่จะก้าวล่วงในด้านลบของบุคลอย่างมีมารยาทและอย่างมีชั้นเชิง โดยเปลี่ยนเรื่องที่ยากจะกล่าวถึงในเชิงลบ มาเขียนเป็นมุขตลก น่ารักๆ ทำให้คนที่ถูกพูดถึงคงโกรธไม่ลง และอมยิ้มไปด้วย
6. สอนให้เราเข้าใจคำว่า "ผู้นำ" ด้วยคำอธิบายง่ายๆและยกกรณีตัวอย่างที่เราคุ้นชิน ทั้งบุคคลในปัจจุบัน บุคคลในประวัติศาสตร์ และในวรรณคดี
7. จากที่เคยขัดใจการบริหาร ของนายกรัฐมนตรีบางท่าน พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ทำให้รู้สึก เห็นใจและเข้าใจการบริหารของนายกรัฐมนตรีแต่ละท่านมากขึ้น เข้าใจแล้วว่านายกรัฐมนตรีแต่ละท่านต้องฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคต่างๆด้วยความยากลำบากมากมาย ภายใต้สถานการณ์ที่บีบคั้นต่างๆ จึงต้องใช้ความพยายาม ความอดทน ความกล้าหาญ กลยุทธ์ กลวิธีต่างๆ และอาศัยความสามารถที่โดดเด่นเฉพาะตน จึงจะสามารถนำรัฐนาวาฝ่าฟันปัญหาให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ถ้าฟันฝ่าไม่ได้เกมก็จบ
2
8. ปัจจัยสนับสนุน 5 ประการที่จะทำให้รัฐบาลสามารถขับเคลื่อนงานให้ไปสู่จุดหมายได้สำเร็จ
เรียกว่า 5P ได้แก่ Public support, Public budget, Personnes, Policy, และ Power
9. ตอนที่ผู้เขียนถูกสื่อตั้งฉายาว่า
"เนติบริกร" และมีคนเอาไปกระหน่ำซ้ำเติมกันต่อ ท่านก็บอกว่า
"คนเราไม่จำเป็นต้องรู้สึกรู้สา กับทุกอย่าง ที่เขาวิจารณ์หรือด่าว่าเรา... หลวงพ่อชาวัดหนองป่าพงสอนว่า เหมือนเขาปาก้อนหินใส่เรา ถ้าถูกตัวเราเราก็เจ็บตัว ถ้าไม่ถูกตัวเรา มันก็ตกหล่นอยู่ตรงนั้น เราอย่าดันไปหยิบมันขึ้นมาอุ้มหรือแบกไว้ให้เจ็บใจอีกก็แล้วกัน ที่จริงผมก็ชอบนะที่สื่อตั้งฉายาว่าเนติบริกร เพราะเราเป็นนักกฎหมาย เป็นศาสตราจารย์ทางกฎหมาย เป็นราชบัณฑิตทางกฎหมาย และเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย
แต่รับรองว่า ไม่ใช่บ๋อยหรือสุนัขรับใช้ หลับหูหลับตาทำตามที่เขาสั่งทุกเรื่องเสมอไปก็แล้วกัน เพราะบางทีผมเสียอีกที่แนะหรือขอให้คนอื่นยอมปฏิบัติตามมากกว่าจะยอมทำตาม ที่เขาสั่งมา เรื่องอย่างนี้ผมมีศักดิ์ศรี"
10. สมัยรัฐบาลประยุทธ์ 2 เจอปัญหาที่หนักหน่วงถาโถมเข้ามาหลายเรื่ิอง แต่เรื่องที่หนักกที่สุดคือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวม 3 ปี ผู้เขียนเล่าเหตุการณ์เรื่องนี้ในทุกแง่ทุกมุม แถมติดตลกด้วย เช่นอาการของโรคคือ " เป็นไข้ ไอ จาม เจ็บคอ จมูกไม่รู้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รส ดมตดแล้วยังเฉย" และเล่าให้เห็นภาพความหวาดระแวงของคนเมื่อออกนอกบ้าน เช่น
" เข้าลิฟท์เข้าห้องน้ำ ไม่กล้าจับลูกบิด ไม่กล้าใช้นิ้วกดลิฟท์แต่ใช้ข้อศอกกระทุ้งแทน เพราะเกรงมือจะติดเชื้อ แล้วมาขยี้ตา" เป็นต้น แม้เรื่องนี้จะหนักหนาสาหัส แต่ก็สามารถจัดการกับปัญหาจนได้รับคำชมเชยจากทั่วโลก
11. สมัยรัฐบาลประยุทธ์2 ออกกฏหมายผ่านความเห็นชอบ 77 เรื่อง มีเรื่องที่เราคุ้นเคย เช่น
2
- พรบ.กำหนดการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ 2563 ให้ใช้การประชุมระบบทางไกลได้โดย ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งใช้กันต่อมาอย่างมากโดยเฉพาะช่วง โควิด-19 ระบาด
- พรบ.ยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 8) พ.ศ.2564 ให้ปลดพืชกระท่อม จากการเป็นยาเสพติด และ ให้ปลูกและใช้ได้ โดยชอบด้วยกฎหมาย
- พรบ.กองทุนให้กู้ยืม เพื่อการศึกษา พ.ศ 2566 โดยลดดอกเบี้ยเหลือไม่เกินร้อยละ 1 แต่ผู้กู้ต้องหาคนค้ำประกัน บางคนไปรบกวนครู ให้ช่วยค้ำประกันให้ จบแล้วหนีหนี้ ครูก็ต้องแบกภาระแทน ฯลฯ
12. อีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลประยุทธ์2 คือ เรื่อง Soft Power หรือพลังอำนาจแห่งวัฒนธรรม ซึ่งจะมาควบคู่กับ Hard Power ที่ประเทศต่างๆอาจมี เพื่อข่มขู่คุกคาม ให้คนอื่นยำเกรง เช่น การมีอาวุธยุทโธปกรณ์ จรวด เรือดำน้ำ กำลังทหาร บางทีก็เรียกว่า แสนยานุภาพ
ส่วน Soft Power ที่เกิดขึ้นใหม่นี้ มีอยู่ 5F คือ Filmหรือภาพยนตร์ Festival คือขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ อันเป็นที่ประทับใจ Fashion คือการแต่งกาย เสื้อผ้าอาภรณ์ เครื่องประดับ fighting ศิลปะการต่อสู้ เช่นมวยไทย และ Food อาหาร
---------------------------
การศึกษา
การเมือง
ความรู้
1 บันทึก
4
5
7
1
4
5
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย