25 ม.ค. 2024 เวลา 16:00 • ไลฟ์สไตล์

'Cult Wine' 'ไวน์แคลิฟอร์เนีย' แพงมหาโหด ต้องเงินหนาทั้งคนทำและคนดื่ม

Cult มาจากคำว่า Cultivate นั่นหมายความว่าการผลิต Cult Wine ต้องมีความพิถีพิถันทุกกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน และผลิตน้อยมากเพราะพื้นที่น้อย ส่วนที่ราคาแพงนั้นเกิดจากความต้องการมาก แต่ผลิตได้น้อย สุดท้ายเกิดจากการปั่นราคาของบรรดาพ่อค้าทั้งหลาย
1
อย่างไรก็ตาม คัลท์ไวน์ สามารถเอาชนะไวน์โลกเก่าจากหลาย ๆ ชาติ ในการชิมระดับนานาชาติ
เจ้าแรกที่ทำ Cult Wine คือ เกรซ แฟมิลี วินเยิร์ด (Grace Family Vineyards) เมืองเซนต์ เฮเลนา (St Helena) ในนาปา แวลลีย์ (Napa Valley) เป็นเจ้าแรกที่ทำคัลท์ไวน์ บนพื้นที่เพียง 1 เอเคอร์ (1 เอเคอร์ = 2.6 ไร่)
1
ปัจจุบัน Cult Wine ของแคลิฟอร์เนียมีดังนี้ :
1
Araujo, BOND, Bryant Family, Caymus, Colgin Cellars, Dalla Valle Maya, Diamond Creek, Dominus Estate, Dunn Howell Mountain, Grace Family, Harlan Estate, Hundred Acre,Kistler, Saxum Vineyards, Marcassin, Screaming Eagle, Shafer Hillside Select, Sine Qua Non และ Sloan
Cult Wine นั้นส่วนใหญ่เป็นสไตล์บอร์กโดซ์ เบลนด์ (Bordeaux Blend) ซึ่งทางฝั่งอเมริกาใช้คำว่า เมอริเทจ (Meritage) ส่วนใหญ่เป็นไวน์แดง เบลนด์ด้วยองุ่นแดงพันธุ์หลักของเมืองบอร์กโดซ์ ที่ปลูกในแผ่นดินอเมริกา
หลัก ๆ คือ กาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) แมร์โลต์ (Merlot) กาแบร์เนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) อาจจะมีมาลเบค (Malbec) เปอตีต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) และการ์เมแนร์ (Carménère) เป็นต้น
ส่วนไวน์ขาวหลัก ๆ คือโซวีญยอง บลอง (Sauvignon Blanc) กับเซมิลลง (Sémillon) อาจจะมีมุสกาเดลล์ (Muscadelle) ด้วย
Cult Wine ที่ดังเปรี้ยงปร้างและราคาสุดโหดมากที่สุดในบ้านเราคือ สครีมมิ่ง อีเกิ้ล (Screaming Eagle) ราคาขวดละเกือบถึงเลข 6 หลัก ไวน์ตัวนี้เกิดจากฝีมือของไวน์เมกเกอร์ผู้หญิงที่ชื่อไฮดี บาร์เรตต์ (Heidi Barrett) หนึ่งในไวน์เมกเกอร์หญิงของไวน์แคลิฟอร์เนีย ได้รับการยกย่องว่าฝีมือระดับเทพ และ Cult Wine หลายตัวเกิดจากมันสมองและสองมือของเธอ
ไฮดี บาร์เรตต์ สายเลือดนาปา แวลลีย์ขนานแท้ หลังจากรับปริญญาก็ไปทำงานในไร่องุ่นหลายแห่ง เช่น Silver Oak, Franciscan Vineyards, Lindeman ในออสเตรเลีย ก่อนจะเป็นผู้ช่วยไวน์เมกเกอร์ที่ Bouchaine Vineyards ในปี 1981
1
อีก 2 ปีต่อมาจึงเป็นหัวหน้าไวน์เมกเกอร์เต็มตัวที่ Buehler Vineyards ด้วยวัยเพียง 25 ปีและทำให้ Buehler มีชื่ออยู่ในสารบบผู้ผลิตไวน์คุณภาพของแคลิฟอร์เนีย ปี 1988 จึงลาออกมารับงานเป็นไวน์เมกเกอร์อิสระ
ไร่แรกในฐานะมือปืนรับจ้างคือ Gustav Dalle Valle จากไร่โนเนมกลายเป็นกาแบร์เนต์ โซวีญยอง ที่คอไวน์ต้องทึ่ง อยู่จนถึงปี 1996 จึงมาทำ Cult Wine ยี่ห้อ Maya ซึ่งกาแบร์เนต์ โซวีญยอง วินเทจ 1992 และ 1993 ได้คะแนนเต็ม 100 จากโรเบิร์ต ปาร์คเกอร์
วงการไวน์ยกย่องเธอเป็น First lady of Wine ปี 1992 เป็นไวน์เมกเกอร์ให้กับ Screaming Eagle ซึ่งวินเทจ 1992 และ 1997 ได้ 100 คะแนน โดยเฉพาะวินเทจ 1992 ขวดขนาด 6 ลิตร ทำสถิติเป็นไวน์ขวดเดียวที่ราคาแพงที่สุด ในการประมูล Napa Valley Wine Auction 2000 ขวดละ 500,000 เหรียญ ก่อนจะเพิ่มเป็น 650,000 เหรียญในการประมูลปี 2001
ปี 1994 เธอจึงทำไวน์ของตัวเองภายใต้ชื่อ La Sirena ซึ่งในภาษาอิตาลีและสเปนแปลว่า นางเงือก ใช้องุ่นซานโจเวเซ (Sangiovese) ปี 1996 จึงทำ La Sirena กาแบร์เนต์ โซวีญยอง เป็นวินเทจแรก และปี 2000 ทำซีราห์เป็นวินเทจแรก ปี 2002 ร่วมกับ John Schwartz และศิลปินชื่อดัง Guy Buffet ทำไวน์ยี่ห้อ Amuse Bouche โดยใช้องุ่นแมร์โลต์เป็นหลักในสไตล์ปอเมอโฮรล (Pomerol) ของฝรั่งเศส
1
โฆษณา