Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Feeling Pop
•
ติดตาม
14 ม.ค. 2024 เวลา 23:56 • นิยาย เรื่องสั้น
คำเตือน !!!
❌❌❌ ก่อนจะลงไปอ่าน ขอให้เข้าใจก่อนว่าการกระทำทุกอย่าง เราเป็นคน “เลือก” เอง เพราะฉะนั้น ผลลัพธ์ที่ออกมาในวันนี้คือผลจากการกระทำที่เราตัดสินใจทำเองทั้งสิ้น ❌❌❌
มีตัวเลขงานวิจัยบอกว่าในหนึ่งวันเราตัดสินใจไปเป็นหมื่นๆครั้ง ส่วนตัวยังไม่เคยลองนับ แต่ถ้าเอาแบบละเอียดตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้าด้วยเสียงนาฬิกาปลุกก็เริ่มตัดสินใจแล้วว่ากดหยุดนาฬิกาปลุกหรือปล่อยให้ดังต่อไป จะลุกไปเข้าห้องน้ำหรือนอนต่อ หรือเข้าห้องน้ำแล้วแต่งตัวไปทำงานเลย ถ้ารวมๆทั้งหมดในหนึ่งวันก็ไม่น้อยนะ
การตัดสินใจในแต่ละอย่างถ้ายิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นความตายเรายิ่งคิดอย่างถี่ถ้วนมากขึ้น สมมุติว่าถ้าข้างหน้ามีปากเหวอยู่ คงจะไม่มีใครเดินต่อเพื่อทดสอบความสูงของเหวให้เจ็บตัวเล่นๆแม้แต่ครั้งเดียวแน่ๆ ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่เราจะปกป้องร่างกายไม่ให้ได้รับความบาดเจ็บ
❎แต่ถ้าเป็นด้านจิตใจล่ะ?❎
เวลาเกิดแผลด้านจิตใจ ยิ่งเกิดขึ้นตอนที่เราอายุน้อยตั้งแต่ 0 – 7 ขวบ (หรือบางทีอาจจะ 0 – 12 ปี) เปรียบเทียบเหมือนกับว่าเราเขียนโค้ดไว้รันโปรแกรมและการกระทำต่างๆที่แสดงออกมานี่แหละคือผลของการรันโค้ด
ในห้องเรียนสัมนาที่ทุกคนสามารถแชร์เรื่องราวที่คิดว่าเป็นปมในชีวิตได้ มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 40-50 ปี เธอบอกว่า เธอแบกความเจ็บปวดเมื่อสมัยตอนเด็กที่โดนครูตีหลายครั้งหลายที โดยให้เหตุผลว่า ที่ตีเธอเพราะรักถึงทำ พ่อแม่ก็บอกว่าที่ครูตีเพราะรักลูกไง ทำให้คนๆนี้ผูกเรื่องความรักกับความรุนแรงมาจนปัจจุบัน เวลาจะรักใคร ถ้าไม่ทำร้ายก็ต้องถูกทำร้ายไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง (ไม่ใช่ทุกคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้จะมีปมทั้งหมด)
มีตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการส่งต่อลักษณะทางด้านความคิดและจิตใจจากรุ่นสู่รุ่น
มีครอบครัวหนึ่งประกอบไปด้วย พ่อ แม่และลูก ตัวพ่อมีลักษณะเจ้าชู้มากตั้งแต่ก่อนแต่งงาน จนหลังแต่งงานมีลูกก็ยังคงเส้นคงวาในเรื่องนี้ไม่เคยแผ่ว ถึงคนนอกทั่วๆไปจะมองว่าคนๆนี้ไม่น่าหยิบมาเป็นคู่ชีวิตแต่ไม่ใช่สำหรับผู้หญิงคนนี้ที่เป็นภรรยาเพราะเธอคิดว่าสักวันหนึ่งจะเปลี่ยนตัวตนของผู้ชายได้แต่จริงแล้วๆก็คือเธอกำลังเดินลงเหวด้วยตัวเองอยู่
ก่อนอื่นมารู้จักคนที่มีพฤติกรรม Love bombing ก่อน ก็ตามชื่อเลย คือ การระเบิดรัก คนที่มีพฤติกรรมนี้ในช่วงแรกๆที่รู้จักเค้าจะดีมากกกกก ดีจนอีกฝ่ายคิดว่าในโลกใบนี้คงไม่มีใครจะดีกับฉันได้เท่าเธออีกแล้ว จนหลงรักหัวปักหัวปำ เมื่อเหยื่อติดกับระเบิดนี้แล้ว ตัวตนจริงๆของคนๆนั้นจะปรากฏ ซึ่งจุดนี้เป็นการวัด Self – Esteem (ความนับถือตัวเอง) ของคนที่โดน love bombing ใส่
ถ้าคุณเห็นตัวตนของคู่ของคุณ ไม่ว่าจะด้านจิตใจ พฤติกรรมหรืออื่นๆที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่ตั้งไว้และสามารถเดินออกจากความสัมพันธ์นี้ได้ ไม่ว่าจะเสียใจมากน้อยแค่ไหนก็ถือว่าคุณมีความรักและเมตตาตัวเองในเกณฑ์ที่ดี แต่ถ้ายังฝืนอยู่ต่อบอกได้เลยว่ายังมีของขวัญอื่นต่อคิวรออีกเพียบ
แม่ของเด็กคนนี้ “เลือก” ที่จะอดทนในความสัมพันธ์ที่ Toxic ต่อไป สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือลูกของทั้งสองคนนี้เห็นพฤติกรรมของทั้งพ่อและแม่ซึ่งมีผลต่อการสร้างตัวตนในวัยนี้มาก ทั้งพ่อตัวเองที่ไม่มีความซื่อสัตย์ ส่วนแม่ใช้ความอดทนไม่มีปากไม่มีเสียงแก้ไขปัญหาเพราะรักผู้ชายคนนี้มาก ยอมเสียเขาไปไม่ได้ จะเห็นว่าถ้าเรายึดติดอะไรที่ทำให้สุขมากก็จะทำให้ทุกข์มากด้วยเช่นกัน
เด็กคนนี้จำความรู้สึกได้ก็คือไม่ชอบเลยที่พ่อตัวเองเจ้าชู้เพราะพ่อจะไม่ค่อยให้เวลากับครอบครัวอีกทั้งทะเลาะกับแม่แทบไม่เว้นแต่ละวัน จนท้ายที่สุดเมื่อถึงจุดหนึ่งพ่อและแม่เด็กคนนี้ก็แยกทางกัน
วันเวลาผ่านไป เด็กคนนี้โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ กลับมีพฤติกรรมแบบเดียวกับพ่อตัวเองเลย … อาเมน
เนื่องจากไม่ถูกเติมเต็มจากวัยเด็ก เมื่อโตขึ้นมาจึงพยายามหาความรักจากภายนอกมาถมให้เต็ม ซึ่งบอกเลยว่าค่อนข้างยากเพราะจิตใต้สำนึกที่ฝังอยู่คือความขาดแคลนและไม่เป็นที่รัก เค้าจะไปดึงคนใหม่เข้ามาเรื่อยๆด้วยการทำให้เหยื่อรู้สึกรักเค้ามากๆ เพื่อที่จะให้ตัวเองรู้สึกถูกรัก
แต่พอเวลาผ่านไปของที่มันเติมแค่ภายนอกจะไม่สามารถเติมจากข้างในได้เพราะจิตใต้สำนึกยังเป็นเด็กน้อยคนเดิมที่พยายามให้ได้ความรักและการยอมรับอยู่ การแสดงออกมีทั้งไปคว้าคนที่ไม่ดีมาเพื่อมาตอกย้ำตัวเองว่าไม่มีคนรักจริงและผลสุดท้ายก็จะโดนทิ้งไป หรือไม่ก็คว้าคนที่ดีมาได้แต่จะทำให้ความสัมพันธ์ต้องพังลงอยู่ดี ทั้งหมดทั้งมวลไม่ว่าจะเลือกทางไหน ปลายทางก็จะจบลงแบบเดิม เป็นการ Repeat Pattern ซ้ำๆวนไป
ต้องบอกว่าคนที่เป็นแบบนี้เค้าไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคนอื่น เพียงแต่เค้าทำเพราะรู้สึกว่านี่คือความรู้สึกคุ้นชิน ดังนั้นการดูแลคนที่เข้ามาในชีวิตจะค่อนข้างคล้ายที่พ่อแม่ตัวเองเคยทำ พูดง่ายๆคือโลกในสมองเป็นยังไง เค้าจะทำให้โลกความจริงเป็นแบบนั้นโดยไม่รู้ตัว
การจะเปลี่ยนแปลงคนพวกนี้ยากมากเพราะเค้าชินกับการเป็นตัวเองมานานแล้ว ถ้าไม่ถึงจุดที่ Rock Bottom หรือ Do or Die หรือฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัย เค้าก็จะยังคงอัตลักษณ์ตามเดิมไว้เพราะคนเราไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ ใครๆก็รู้
❌❌❌ ก่อนจบขอย้ำอีกทีว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเราเป็นคนเลือกเอง การไปโทษคนอื่นว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เราต้องเป็นแบบนี้ ถือว่าเล่นบทเหยื่อเป็นฝ่ายถูกกระทำไม่รับผิดชอบชีวิตของตัวเอง และผลของการเล่นบทเหยื่อก็มีอีกมากมาย ไว้จะมาเล่าอีกทีนะครับ 😉 ❌❌❌
จิตวิทยา
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย