15 ม.ค. 2024 เวลา 07:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

Whoscall ทำเงินได้มากขนาดไหนจากการทำธุรกิจระบุเบอร์แปลก ให้ผู้ใช้ไม่ต้องเสี่ยงรับสายมิจฉาชีพ

ในยุคที่เทคโนโลยีทำให้คนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่อีกแง่หนึ่งกลับเป็นช่องว่างให้กลุ่มคนประสงค์ร้ายใช้เป็นโอกาสในการเข้าถึงและหลอกคนได้ง่ายในพริบตา
1
แต่เทคโนโลยีก็ไม่หยุดพัฒนา เพราะยังมีแอปพลิเคชันอย่าง Whoscall ที่ช่วยระบุเบอร์โทรจากคนไม่รู้จัก และไม่ต้องเสี่ยงรับสายโจรให้เสียเวลา บทความนี้ Thairath Money จะพามาดูกันว่าแอปฯ ระบุเบอร์แปลกตัวนี้จะฮอตฮิตแค่ไหน และทำรายได้ไปมากเท่าไรจากบริการที่มี
Whoscall พัฒนาโดย Gogolook บริษัทพัฒนาแอปพลิเคชันจากไต้หวัน ซึ่งเด่นในเทคโนโลยีป้องกันการทุจริต (Anti-Fraud Technology) ทั้งยังมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันครอบครองข้อมูลเบอร์โทรศัพท์มากกว่า 2.6 พันล้านหมายเลข ทั้งยังสามารถระบุหมายเลขโทรศัพท์และ SMS ไปแล้วกว่า 2.5 หมื่นล้านรายการ
โดยฐานข้อมูลของ Whoscall นั้นมาจากการรายงานของผู้ใช้ ทำให้มีข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ทั้งยังดำเนินงานผ่านความร่วมมือกับรัฐบาลและหน่วยงานตำรวจเพื่อแบ่งปันฐานข้อมูลเบอร์โทรสแกมเมอร์ พร้อมไปกับการใช้ AI ในการแจ้งเตือนเบอร์โทรที่น่าสงสัยแบบอัตโนมัติ
ปี 2010 ถือเป็นครั้งแรกที่ Whoscall ได้รับการเปิดตัวบน Google Play และอีก 3 ปีต่อมาก็ถูกเข้าซื้อกิจการโดย Naver ของเกาหลีใต้ หรือบริษัทแม่ของ LINE ไปในมูลค่า 529 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (หรือประมาณ 599 ล้านบาท) ก่อนผู้ร่วมก่อตั้งจะเข้าซื้อกิจการ (Management Buyout) และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันในเวลาต่อมา
จากนั้นในปี 2014 จึงได้เปิดตัวบน App Store และได้รับการตอบรับอย่างดีจนได้รับรางวัลมากมายจากทั้ง Google Play และ App Store และมียอดดาวน์โหลดทั่วโลกเกินกว่า 100 ล้านครั้งในปี 2021
ซึ่ง Whoscall เป็นที่รู้จักจากการเป็นแอปฯ ระบุเบอร์แปลกและยังมีบริการระบุ SMS หลอกลวง ที่ปัจจุบันใช้ได้เฉพาะบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และได้ทำการปิดกั้นเบอร์และข้อความที่เป็นสแปมไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านรายการ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับคนจำนวนมาก
สอดคล้องกับการแถลงจากกระทรวงดิจิทัลฯ เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ที่ได้ร่วมกับสำนักงาน ปปง. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ายึดทรัพย์เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่มูลค่ากว่า 1,205 ล้านบาท ซึ่งมีวิธีการหลอกลวงหลายแบบ ทั้งโทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ตลอดจนโพสต์ข้อความหลอกลวงผ่านโซเชียลมีเดีย
นอกจากระบุเบอร์แปลกแล้ว Whoscall ยังมีฟีเจอร์เช็ก URL เป็นการช่วยคัดกรองลิงก์ไม่ปลอดภัยจากเหล่ามิจฉาชีพ เพราะนอกจากจะเข้าหาเหยื่อผ่านการโทรแล้ว ยังอาจมาในรูปแบบของการส่งลิงก์ ที่หากเผลอกดไปแล้วอาจสูญเงินหมดบัญชีได้
และสำหรับรายได้จากการดำเนินงานในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2566 Whoscall มีรายได้ 559 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (หรือประมาณ 633 ล้านบาท) โดยสัดส่วนรายได้กว่า 59% มาจากไต้หวัน และรายได้ 40% มาจากการดำเนินงานในประเทศแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนอีก 1% ที่เหลือมาจากภูมิภาคอื่น
ขณะที่รายได้ของ Gogolook ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2023 สูงขึ้น 86.49% จากปีก่อนหน้าแตะ 693.1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (หรือประมาณ 778.2 ล้านบาท) จากการขยายธุรกิจในต่างประเทศ รวมไปถึงการออกผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ และมีมูลค่าตลาด (Market Cap) อยู่ที่ 5.90 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน (หรือประมาณ 6.62 พันล้านบาท)
1
ปัจจุบัน Gogolook ขยายบริการ Whoscall ครอบคลุมมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก รวมไปถึงไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง บราซิล และมาเลเซีย ซึ่งนอกจาก Whoscall แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ป้องกันการหลอกลวงตัวอื่นๆ อย่าง Call Defender, Message Checker และ Auntie Meiyu รวมไปถึง Roo.Cash ซึ่งเป็นเทคโนโลยีป้องกันการหลอกลวงจากบริการทางการเงิน
อ้างอิง
Whoscall, DIGITIMES Asia, Nikkei Asia
ติดตามรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่นี่👇
FB: Thairath Money 💰
โฆษณา