16 ม.ค. เวลา 16:57 • ไลฟ์สไตล์

หลักกาลามสูตร 10 ประการ

วันนี้จะขอกล่าวถึงหลักกาลามสูตรหรือหลักความเชื่อ 10 ประการ
เนื่องด้วยปัจจุบันนี้ เกิดความเชื่อแปลกๆ ความเชื่อใหม่ๆ
ตั้งแต่ เชื่อมจิต, นะหน้าดาก รวมถึงมีกลุ่ม “มิจฯ” ที่ไม่ใช่ “มิตร”
ตามรังควาน โทรมาหลอกลวงกันตลอดเวลา
แม้นกระทั่งคนใกล้ชิด มาหลอกลงทุน ทั้งความโลภของเราเอง
หรือใดๆ ก็ตาม
คาถาที่พระพุทธเจ้าฝากไว้ให้เราๆท่านๆ ได้นำมาพิจารณา
คือหลักกาลามสูตร 10 ประการนั่นเอง
แม้กระทั้งพระไตรปิฏก หรือคำสอนทางพุทธศาสนา
พระพุทธเจ้าก็อยากจะให้เราๆ ท่านๆ ได้ พิจารณาดูก่อน
ว่าถ้าได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว จึงค่อยปักใจเชื่อ
ในความเป็นจริงนั้น เราอาจจะไม่สามารถพิจารณาได้ครบถ้วน
เพราะเราอาจจะต้องใช้หลักการบางอย่างมาประกอบความเชื่อถือ
เช่น คิดตามตรรกะ หรือตรองแล้วสมเหตุสมผล เข้ากับทฤษฎีที่เคยเล่าเรียนมา
แต่หลักการนี้ก็ทำให้เราได้ใช้เวลา ใช้สติ
พินิจพิจารณา ตรึกตรองตามเหตุผลที่สมความจะเชื่อได้
เพราะไม่ว่าเรื่องใดๆ เราก็ควรนำมาพิจารณาด้วยสติ ก่อน
จะได้ลดความโลภอย่างไร้สติ ขอเราได้บ้าง
เพราะในโลกปัจจุบันนี้นั้น มีความวุ่นวาย ความหลอกลวงอยู่มาก
เราจึงความจะพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนจะเชื่ออะไรก็ตาม
และที่สุด แม้ว้าสิ่งที่เราเห็นแล้วว่า บางคนไปทำแล้วเกิดผลจริง
เช่น เพื่อนไปทำ นะหน้าทองมา แล้วเขาได้เงินได้ทองมา
แต่หากพิจารณาให้ดี การใช้ไสยศาสตร์เพื่อได้มาซึ่งเงินทอง
อาจจะไม่คุ้มค่า กับที่เราจะต้องไปเสี่ยงกับเวทย์มนตร์
และสิ่งที่เราไม่เข้าใจ เพราะหากท่านๆ เคยได้ฟังเรื่องคุณไสย์
จากทางช่องพี่ แจ๊คเดอะโกส หรือ คุณนัทคืนเผาผี
นั่นจะทำให้เราๆ ท่านๆ กลัว
การไปยุ่งเกี่ยวกับคุณไสย์ไปเลยทีเดียว
สิ่งที่เราควรจะยึดถือไว้ คือหลักธรรมของพระพุทธเจ้า
ถ้ารักษาศีล มีสติ ทำสมาธิ แล้วปัญญาก็จะเกิด
จะหาแนวทางหาเงินทองมาได้เอง
พระธรรมเป็นคาถาที่ดีแล้ว
โฆษณา