20 ม.ค. เวลา 13:35 • กีฬา

ต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหน : ทำไม โอนาน่า ในตอนนี้เป็นคนละคนกับ โอนาน่า ในปีที่แล้ว ?

อองเดร โอนาน่า กลายเป็น "นิว แฮร์รี่ แม็คไกวร์" ไปเรียบร้อยแล้วในแง่ของการเป็นนักเตะที่มักจะสร้างคอนเทนท์และถูกนำสิ่งต่าง ๆ ที่เขาทำไปขยายต่อให้ใหญ่โตในโลกโซเชี่ยล
มันเป็นเรื่องที่น่าสงสัย เพราะ กรณีของ โอนาน่า กับ แม็คไกวร์ นั้นมีความต่างกันในแง่ของที่มา แม็คไกวร์ มาจากทีม เลสเตอร์ ซึ่งเป็นทีมเกรดรอง ไม่ได้เล่นเวทีใหญ่เจอคู่แข่งระดับสูง ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้ที่เขาอาจจะโดนประเมินเกินจริงในตอนที่ซื้อมา
แต่กับ โอนาน่า นั้นเขามาจาก อินเตอร์ มิลาน ทีมที่เป็นสโมสรแถวหน้าของ อิตาลี และเพิ่งเข้าชิงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมาหมาด ๆ ชนิดที่ว่า เป๊ป กวาร์โอล่า แชมเปี้ยนในปีนั้นยังชมว่าเขาคือนักเตะที่เล่นได้ดีที่สุดของ อินเตอร์ ในเกมนั้นอีกต่างหาก
ทุกอย่างดูเหมือนว่าเขาได้พิสูจน์ตัวเองมาในระดับหนึ่งแล้ว แต่พอมาอยู่กับ ยูไนเต็ด ทำไมมันจึงกลายเป็นการเริ่มใหม่หมด และเป็นการเริ่มใหม่ที่มีภาพจำด้านลบมากกว่าด้านบวก ... เรื่องนี้มันเกิดอะไรกันแน่ ติดตามที่นี่
แตกต่างตั้งแต่เริ่มต้น
การมาของ โอนาน่า นั้นเรียกได้ว่าสร้างความแตกต่าง แบ่งแฟนบอล ยูไนเต็ด เป็นสองฝั่ง ฝั่งเเรกคือฝั่งที่เชื่อว่านายทวารคนเก่าอย่าง ดาบิด เด เคอา เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ขณะที่ฝั่งที่ 2 คือการมองว่า โอนาน่า เป็นประตูสมัยใหม่หรือทีเรียกว่า Sweeper Keeper การมาของเขาจะเข้ามายกระดับการเล่นของทีมได้ .. แค่เริ่มต้นเขาก็ทำให้คนรอจับตามองแล้วว่า การมาของเขาจะออกหัวหรือออกก้อย
ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน ตอนนี้เราดูไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่า โอนาน่า เด่นด้านไหน ? เรื่องความเป็นผู้รักษาประตูที่ไว้ใจได้ เบสิคเเน่น ยืนตำแหน่งดี คาดการณ์ล่วงหน้าเก่ง ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แบบนั้น ... ครั้นจะให้มองไปที่การออกบอลของเขา ดูเหมือนว่ามันก็ไม่ได้อัพเกรดเกมรุกของ ยูไนเต็ด เท่าไรนัก สิ่งนี้ยืนยันได้ด้วยสถิติการยิงประตูที่น้อยกว่าที่ทีมทำได้ในช่วงซีซั่นที่แล้วกว่า 20 ประตู
ทุกอย่างกลับตาลปัตร เพราะสุดท้ายแล้ว ยูไนเต็ด แทบไมได้อะไรจาก โอนาน่า เลย ไม่ว่าจะในเกมรุกหรือเกมรับ เว็บไซต์ GOAL.com ยังเคยเขียนบทความว่า โอนาน่า ไม่ได้ทำให้ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ดีขึ้นเลย และวิเคราะห์ถึงความล้มเหลวว่ามันเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายประการอย่างแรกคือ
1
1. โอนาน่า เป็นผู้รักษาประตูที่ยืนตำแหน่งได้ไม่ดี โดยพวกเขาอ้างอิงถึงบทความที่สื่ออย่าง เดอะ เทเลกราฟ ไปสัมภาษณ์นักเตะของทีมที่เคยเจอกับ ยูไนเต็ด และมีการเปิดเผยว่าพวกเขาถูกสั่งให้ยิงใส่โอนาน่าทันทีที่มีโอกาสและทำให้เร็วที่สุด เพราะในเวลาที่ทีมไม่ได้ครองบอล โอนาน่า มักเฝ้าอยู่บนเส้นปากประตู โดยมีการอ้างคำสัมภาษณ์ของฝั่งตรงข้ามที่เจอกับ ยูไนเต็ด ว่า
"เราถูกสั่งให้ยิงใส่โอนาน่าให้เร็วที่สุด เพราะเขามักจะเกาะติดเส้นปากประตู มันทำให้เรามีมุมยิงที่เปิดกว้างมากขึ้น แทนที่เขาจะดันขึ้นมาเพื่อให้จำกัดมุมการยิงให้แคบลง และทำให้ตัวเขาดูใหญ่ขึ้นในกรณีของการหลุดเดี่ยวเข้าไปยิง"
เพื่อให้เห็นภาพคุณลองไปดูลูกยิงของ ไทโว โอโวนิยี่ ในเกมที่ ฟอเรสต์ เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 ในช่วงเดือนสิงหาคม คุณจะเห็นว่า อโวนิยี่ วิ่งผ่านไปอย่างง่าย ๆ และเมื่อดวลกับโอนาน่า เขาชิปบอลเบา ๆ ข้าม โอนาน่า ง่ายดายเหมือนกับไม่ใช่ฟุตบอลระดับสูง
ให้เห็นภาพชัดไปอีกคือในเกมที่ ยูไนเต็ด บุกแพ้ บาเยิร์น ที่อลิอันซ์ อารีน่า 3-4 โอนาน่า ก็ถูก ลีรอย ซาเน่ ยิงไกลใส่ทันทีที่มีโอกาส แล้วบอลก็ลอดแขนของเขาไปง่าย ๆ อีกครั้ง ... สิ่งนี้มันชัดมากว่าคู่แข่งของ ยูไนเต็ด เห็นโอกาสมากมายจากการยืนตำแหน่งที่ผิดพลาดของ โอนาน่า
แล้วหากถามว่าทำไมที่ อินเตอร์ เขาจึงดูเหนียวแน่นไว้ใจได้มากกว่า เราก็ต้องเริ่มไปนับกันที่ก้าวแรกเลย วันที่ โอนาน่า มาอยู่กับ อินเตอร์ ครั้งแรก แตกต่างกับตอนที่เขามาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ครั้งแรกสุด ๆ อย่างที่รู้กันเขามาอยู่กับ ยูไนเต็ด พร้อมความคาดหวังมากมาย แต่ที่ อินเตอร์ เขามาอยู่กับทีมในฐานะประตูมือ 2 ในตอนแรก(รองจาก ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช)
นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่แทบถูกลืมไปเเล้ว จากการโดนแบนเรื่องสารกระตุ้นเมื่อครั้งเขาอยู่กับ อาแจ็กซ์ ... เรื่องนี้ถูกพูดถึงโดย ซิโมเน่ อินซากี้ กุนซือ อินเตอร์ ที่เลือกเซ็นสัญญา โอนาน่า แม้ห่างเกมเป็นแรมปีว่า
"โอนาน่า เป็นผู้รักษาประตูที่แข็งแกร่ง ผมเห็นแล้วในการฝึกซ้อม เขาทำได้ดีกว่าที่ผมคิด .. เรื่องจิตใจเขาดีมาก เขามาที่โดยที่รู้ว่าจะต้องเป็นตัวเลือกเบอร์ 2 ต่อจาก ซาเมียร์ แต่เขาก็ยินดีจะรับบทบาทนั้น และบอกผมว่าหน้าที่ของผมคือการเลือกนักเตะลงสนาม ส่วนหน้าที่ของเขาคือการพิสูจน์ตัวเองให้ผมเห็น"
1
"เรื่องระหว่าง โอนาน่า การมาของเขาทำให้ผมต้องตัดสินใจแบบเกมต่อเกม ว่าใครจะได้ลงเฝ้า พวกเขาจะต้องแย่งตำแหน่งกันเหมือนกับนักเตะเอาท์ฟิลด์เลยล่ะ"
3
แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว โอนาน่า มาในฐานะผู้ท้าชิง และผู้จัดการทีมก็ให้พวกเขาแย่งตำแหน่งกัน ต่างกันกับ ยูไนเต็ด โอนาน่า มาแบบแบเบอร์ ได้การันตีเป็น 11 ตัวจริงเสมอ แม้จะมี อัลทาย บายินเดียร์ เป็นมือ 2
1
แต่จนถึงตอนนี้ โอนาน่า ก็ลงเฝ้าเสาทุกเกมให้ ยูไนเต็ด 100% ที่ยูไนเต็ด มันแทบไม่มีการแข่งขันเลย และแน่นอนว่าเมื่อไม่การแข่งขัน ความตื่นตัว หรือโฟกัสของนักเตะก็อาจจะหลุดไปที่เรื่องอื่น ๆ ได้ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไม่ว่า โอนาน่า จะพลาดกี่หน เขาจะกลับมาลงเป็น 11 ตัวจริงเสมอ ... ช่วงเวลาที่สบาย ๆ แบบนี้ ล้วนสร้างหายนะให้กับเขาโดยที่เขาอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ และเรื่องนี้เขาไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบคนเดียว
ศรัทธาอันมืดบอดของ เอริค เทน ฮาก
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ที่อินเตอร์ โอนาน่า ต้องแสดงฝีมือออกมาแบบสุดตัวทั้งในสนามจริงและสนามซ้อมเพื่อแย่งกับ ฮันดาโนวิช วันใดที่เขาพลาดเขาจะเสียตำแหน่ง และวันไหนที่เขาเล่นดี เขาจะมั่นใจคูณ 2 เป็นเงาตามตัว ทุกอย่างถูกตัดสินโดยเฮดโค้ชที่จับตาดูเรื่องนี้เป็นพิเศษ และโค้ชอย่าง อินซากี้ ก็เคยให้สัมภาษณ์ถึงจุดอ่อนของ โอนาน่า ที่เขาต้องแก้ไขบ่อยครั้ง ไม่ได้มีแค่คำชมหรือการปกป้องในวันที่เขาทำผิดพลาดในการแข่งขันเสียอย่างเดียว
กลับกันที่ ยูไนเต็ด ตอนนี้ เอริค เทน ฮาก เฮ้ดโค้ชที่สร้างโอนาน่า มาตั้งแต่ อาแจ็กซ์ ปฎิบัติกับ โอนาน่า ต่างกันกับ อินซากี้ อย่างสิ้นเชิง เทน ฮาก ปกป้อง โอนาน่า เสมอไม่ใช่หน้าสื่อเท่านั้น แต่มันยังแสดงให้เห็นในการจัดตัวทุก ๆ เกมว่า ไม่ว่า โอนาน่า จะทำผิดพลาดกี่ครั้ง เขาจะยังเป็นตัวเลือกแรกของกุนซือชาวดัตช์เสมอ
1
แฟน ๆ ยูไนเต็ด หลายคนคงได้เห็นควาผิดพลาดครั้งเเล้วครั้งเล่า สัปดาห์ต่อสัปดาห์ ของ โอนาน่า ... เช่นเดียวกันกับคำชมที่ เทน ฮาก มีให้กับ โอนาน่า เสมอในการให้สัมภาษณ์ก่อนหรือหลังเกมแต่ละนัด
“เขาสามารถเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกได้ เราได้เห็นความสามารถอันยอดเยี่ยมของเขาและบุคลิกของเขาแล้ว เขาจะทำผิดพลาดและฟื้นตัวได้ และจะกลับมาอีกครั้ง ผมมั่นใจ” เทน ฮาก พูดถึงความผิดพลาดของ โอนาน่า ในเกมที่แพ้ กาลาตาซาราย คาบ้าน
“ในโลกของฟุตบอลโดยรวม มันมักจะมีข้อผิดพลาดเสมอ และนี่คือความผิดพลาดครั้งหนึ่ง ดังนั้นเราจะไม่ทำให้เรื่องมันใหญ่ไปกว่านี้ เราจะไม่โทษ อองเดร เพราะหลังจากนั้น เขาเซฟได้เยี่ยมมากในครึ่งหลังและเขาก็แสดงความสามารถออกมาให้เห็นแล้ว” เทน ฮาก พูดถึง โอนาน่า ในเกมที่แพ้ บาเยิร์น 3-4
ศรัทธาอันมืดบอดคือดาบสองคม มันทำให้ โอนาน่า โดนจ้องจับผิดมากขึ้น เพราะยิ่งเทน ฮาก ปกป้องเขามากเท่าไหร่ ความสนใจก็มุ่งไปยัง โอนาน่า มากเท่านั้น บางครั้งการให้เขาเป็นตัวสำรองบ้าง หรือทำให้เกิดการแข่งขันภายในทีมบ้างไม่ใช่เรื่องแย่อะไรเลย และ เทน ฮาก ก็เคยทำแบบนี้กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ มาเเล้ว
เพราะในวันที่ แม็คไกวร์ ทำผิดพลาด เขาใช้กองหลังคนอื่นลงไปทำหน้าที่แทน ปรับให้แม็คไกวร์มาเป็นตัวสำรองเป็นหลัก จากนั้นไม่นานนักกระแสแซว แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ก็ลดลงเยอะมาก และหากจำกันได้ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาที่ แม็คไกวร์ ได้ลงเล่น เจ้าตัวกลับเล่นดีเหลือเชื่อ ถึงขั้นได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว ...
นี่คือข้อดีของการตัดสินคนจากผลงาน มันสร้างแรงจูงใจให้นักเตะอยากพัฒนาตัวเอง และเขาจะเห็นคุณค่าในวันที่เขาได้โอกาสนั้น ซึ่ง แม็คไกวร์ แสดงให้เห็นแล้ว ... กลับกัน โอนาน่า ก็กลายเป็น "ตัวคอนเทนท์" แทนที่ แม็คไกวร์ ไปเรียบร้อยแล้ว
กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง
สถานการณ์แบบนี้ โอนาน่า คงต้องพึ่งตัวเองเป็นอันดับแรก เขาเป็นประตูที่ดี และหลายคนก็เคยเห็นในตอนที่เขาอยู่กับ อินเตอร์ ดังนั้นใช้ว่าเขาจะผิดพลาดตลอดไป หากเขาเจอจุดเปลี่ยนสำคัญ เขาอาจจะกลับมาเป็นคน ๆ นั้นก็ได้
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คนอื่น ๆ ในทีมก็ต้องช่วยเขาด้วยเช่นกัน สำคัญที่สุดคือ เอริค เทน ฮาก ที่ต้องบริหารจัดการคนให้ดี เพราะมันคือสิ่งที่ละเอียดอ่อนที่สุดในโลกฟุตบอล และเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ สำหรับทีมที่จะประสบความสำเร็จ
นอกจาก เทน ฮาก แล้ว เพื่อนร่วมทีมยังคงเป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการที่คุณจะทำให้เกมรับกระชับ ยากต่อการโดนโจมตี หรือเล่นกันอย่างมีระบบในแบบที่เรียกว่ามองตาก็รู้ใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นจากการสื่อสารถึงกันและกัน
นอกสนามคุยกันเยอะ ๆ ให้มีความสนิทสนมเชื่อใจ ในสนามมีการตะโกนบอกตะโกนสั่งแบบไม่ต้องเกรงใจกันแบบมืออาชีพ เพราะปลายทางของเรื่องนี้คือผลงานของทีม
และในวันที่ผลงานของทีมดีขึ้นมา.. ไม่ว่านักเตะคนไหนก็จะได้รับคำชม ไม่เว้นแม่แต่กับ โอนาน่า หากวันนั้นมาถึง
บทความโดย ชยันธร ใจมูล
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา