Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เบื่อเมือง
•
ติดตาม
21 ม.ค. 2024 เวลา 07:01 • นิยาย เรื่องสั้น
“ฉิบหายแน่”
บทสรุปสุดท้าย (20/1)
ด้วยอานิสงส์ของ Lend Lease ที่บ้านปากเหม็น
ประทานให้กับบรรดาเหยื่อทั้งหลาย
สงครามโลกครั้งที่ 2 จึงรบยาวต่อไปอีกพักใหญ่
และพอถึงปลายปี คศ 1943 ฝ่ายพันธมิตรก็พากันมั่นใจ
ว่าฝ่ายตน จะต้องเป็นผู้ชนะสงครามโลกอย่างแน่นอน…
เพียงแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นเอง
และในวันที่ 7 เดือนธันวาคม คศ 1943…
กลุ่มพันธมิตร สายเกาะนิ้วก้อยและบ้านปากเหม็น
ก็ได้มาพบเพื่อประชุมหารือกัน ที่เมืองไคโรของอียิปต์
หลังจากนั้น ก็ร่วมประทานอาหารค่ำด้วยกัน
ผู้ร่วมโต๊ะมี ท่านปธน FDR ของบ้านปากเหม็น, ท่านหลอดเชอร์ชิล
ของเกาะนิ้วก้อย , ท่านสตาลิน ของสหภาพโซเวียต
และ ท่านเจียงไคเช็ค ของจีน
แต่การประชุมดังกล่าว เหมือนจะกลายเป็นสนามรักบี้
เพราะท่าน FDR เแสดงอาการ “บี้” และ “อัดใส่ ”
เล่นเอาท่านหลอดเชอร์ชิล หน้าหงายไปหลายครั้ง
แถม “นายทุนใหญ่ Lend Lease” ยังทำอมพะนำ
ไม่บอกแผนให้ชัดกับพรรคพวก … ว่าพวกเราจะรบไปถึงเมื่อไหร่กันแน่…
ว่าแล้ว FDR ก็สะบัดตูด ลุกไปจากโต๊ะอาหารไปเข้านอนหน้าตาเฉย
ปล่อยให้ท่านหลอดเชอร์ชิล ที่ทั้งเมา ทั้งอารมณ์ค้าง
รู้สึกได้ถึงความตกต่ำของเกาะนิ้วก้อย ในสายตาของผู้นำบ้านปากเหม็น
ถึงกับต้องเสแสร้งทำหน้าชื่น …
เล่นท้าพนันขันต่อกับผู้ที่ยังไม่ไปเข้านอน
“…เดือนไหนกันแน่ (วะ) ที่สงครามโลกมันจะจบลงจริงๆ…”
ส่วนใหญ่ บอกว่าอย่างเร็ว… ก็ มีนา 1944
อย่างช้าก็โน่นแน่ะ …พฤศจิกา 1944 เลยล่ะ
เอะมันยังไงกัน…ไหนมั่นใจว่าจะชนะเขาแน่
แต่ดันไม่รู้ว่าจะชนะเมื่อไหร่ …เหมือนขี้โม้นะ
เรื่องมันเพราะสงครามโลกครั้งที่ 2 …มันแยกเล่นกันอยู่ 2 ฟากโลก
แต่ผู้กำกับผู้คุมเกมทั้ง 2 ฟาก…ในความเป็นจริงแล้ว
กลับมีหนึ่งเดียวเท่านั้น…คือ เจ้าของ Lend Lease
ที่กำลังเริ่มเบ่งพองใหญ่ ใกล้จะคับโลกนั่นแหล่ะ
อาวุธส่งมาแน่ก็ชนะ …แต่มาเมื่อไหร่และมาแค่ไหน มีใครรู้แน่ไหมล่ะ…
(นิทานตอนนี้ กำลังเขียนเล่าย้อนไปถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 นะครับ…
ไม่ใช่เรื่องยูเครน… แต่มันเหมือนซ้ำรอยเดิมซ้ำซากอยู่นั่น)
จริงๆ เรื่องมันก็มาจากไอ้นิ้วก้อยจอมกระสันนั่นแหล่ะ
ที่เป็นตัวเริ่มอยากเล่นสงคราม โดยมันมีความเชื่อมั่น
ว่าครั้งนี้เยอรมันน่าจะ “ไม่อึด” …ไม่สามารถทำสงครามได้นาน…
เพราะชาวเยอรมันยังไม่ฟื้นดี จากการทำสงครามโลกครั้งที่ 1
แต่พอการสู้รบเริ่มไปได้ไม่นานนัก…เยอรมันกลับซัดจนฝรั่งเศส
ที่ว่าแน่ๆจนหมอบร่วงอย่างรวดเร็ว …เล่นเอาไอ้นิ้วก้อยกับพวก
ถึงกับแตกตื่นหน้าตก แต่ก็ยังพยายามฮึดสู้ต่อไป …
จนมีระฆังช่วย… เมื่อบ้านปากเหม็นโผล่เข้ามาเป็นนายทุนใหญ่
ให้พวกพันธมิตร ด้วยการออกมาตรการ Lend Lease…
แบบนี้ ฝ่ายเยอรมันก็ “คงรู้สึก” เหมือนถูกใครหักหลัง …
แม้ใกล้จะหมดแรงขนาดไหนก็ต้องฮึดสู้ …เกมก็เลยยื้อยืดเยื้อ
แล้วคนที่หงุดหงิดจัด …ก็กลับกลายเป็นไอ้นิ้วก้อยไป
เพราะมันมัวห่วงหน้าพะวงหลัง
ไหนจะห่วง เรื่องการรบแถวยุโรปกับเยอรมัน
ไหนจะห่วง ว่าอาณานิคมของมัน ทางเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
อาจหลุดจากมือมัน ไปอยู่ในมือญี่ปุ่นที่กำลังฟิตจัด
วาดลวดลายเต็มที่อยู่ในบริเวณนั้น…
ครั้นจะถามท่าน FDR ในวันที่เจอหน้ากันที่ไคโร ให้มันรู้เรื่อง
เห็นแดงเห็นดำ…ว่าฝ่ายเราจะเอายังไงดี กับพวกไอ้แจ๊บ…
ไอ้เจ้าพ่อหน้าใหม่ …ก็ดันทำแอ๊คใส่พวกกันเอง…
แบบนี้ไอ้นิ้วก้อย มันก็คงต้องกริ้วจัดอย่างแน่นอน
มันก็ใหญ่ไม่น้อยนี่นะ และมันก็เริ่มรบมาก่อนนี่หว่า
มันควรได้รับรู้… หรือ ควรสามารถออกเสียงได้ (บ้าง)
ว่าตอนจบของสงคราม จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
และ “สภาพ” ของหลังสงคราม …มันน่าจะเป็นอย่างไร…
มันจะได้เตรียมตัวเรื่องในบ้านมัน…ให้สอดคล้องกัน…
ในตอนแรกนั้น ไอ้นิ้วก้อยมันคาดหวัง(เอาเอง)
ว่าการได้แรงหนุน ของ Lend Lease เมื่อปี คศ 1941
น่าจะทำให้สงครามโลกจบได้เร็ว คือในปี คศ 1943 …
และ มันก็จะได้เตรียมย้ายคนของบ้านมัน
จากที่กำลังวุ่นวาย อยู่กับการผลิตอุปกรณ์การรบ …
ให้ไปผลิตสินค้าแทน เพื่อเตรียมเอาไว้ส่งไปขายนอกบ้านเมื่อสงครามจบ
หาเงินเข้าบ้านบ้าง …เพราะเงินปอนด์ของมันกรอบเต็มทีแล้ว…
แต่ถ้าสงครามทางด้านยุโรป …ดันลากยาวไปถึง คศ 1945…
แปลว่ามันคงจะต้องอ่วม อย่างหนักหนาเชียว…
และมันคงไม่แคล้วต้องตกเป็นเบี้ยล่าง…
ต้องพึ่งบ้านปากเหม็นอย่างเต็มร้อย ในเกือบทุกเรื่องเอาเลย
ที่สำคัญ …คือ มันจะต้องขอยืมเงิน จากบ้านปากเหม็น …
มาเลี้ยงบ้านตัวเองไปอีกนาน
แบบนี้ ไอ้นิ้วก้อย มันก็คงรู้สึกยิ่งกว่าเก๊กซิม
ที่ต้องอยู่ใต้ตีนไอ้ปากเหม็น เด็กวานซืน ไปอีกนาน
แล้วหลอดเชอร์ชิล ก็พยายามปลอบใจ หรือ เตือนสติตัวเอง
และพวกนักการเมืองของเกาะนิ้วก้อย ว่าตอนนี้ ไม่ใช่เวลา
ที่พวกเราจะใจเสีย หรือ มาขบกัดกันเองนะ …
เราต้องจับมือไปด้วยกัน…ช่วยกันกำหนดอนาคต
หรือชะตากรรม ของบ้านเมืองเรา…
แต่แล้ว เมื่อตอนที่ฝ่ายพันธมิตร ซึ่งนําโดยเกาะนิ้วก้อยและบ้านปากเหม็น
มีแผนเตรียมยกพลขึ้นบก ที่นอร์มังดีของฝรั่งเศส ในปี คศ 1944
ซึ่งเหมือนเป็นการบุก… เพื่อปิดจ๊อบการทำสงครามทางด้านยุโรป …
(นอร์มังดีนั้น ถูกเยอรมันรบชนะและเอาไปครอบครองนานแล้ว)
ตัวหลอดเชอร์ชิลเองนั่นแหล่ะ
กลับรวนเร ไม่แน่วแน่…ห่วงหน้าพะวงหลัง…
เพราะบรรดานายทหารของเกาะนิ้วก้อย บอกว่าเกาะนิ้วก้อย
ควรแบ่งกำลังไปทางเอเซียตะวันออกเฉียงใต้บ้าง
เพื่อไปร่วมกับฝ่ายบ้านปากเหม็น…ในการต่อสู้กับญี่ปุ่นด้วย จะดีไหม…
จริงๆ หลอดเชอร์ชิล ไม่ได้ห่วงเรื่องญี่ปุ่นหรอก
แต่ห่วงว่าบ้านปากเหม็น มันจะคว้าเอาอาณานิคมของเกาะนิ้วก้อย
ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะบริเวณมลายู
และช่องแคบมะละกา …ซึ่งเหมือนเป็นอู่ข้าวอู่น้ำสำคัญของไอ้นิ้วก้อย…
เอาไปครอบครองกินเองเสียมากกว่า…
ขณะเดียวกัน ขณะที่พรรคฝ่ายค้านของบ้านปากเหม็นตอนนั้น
คือ พรรคเลเบอร์ ก็ดันหาเสียง ว่าเราต้องเร่งซ่อมบ้านซ่อมเมือง
ที่พังพินาศของเรา รวมทั้ง สร้างงาน สร้างการศึกษา การสาธารณสุข ฯลฯ
โฮ้ยย …สาระพัดจะซ่อมนะ
แต่พรรครัฐบาลของหลอดเชอร์ชิลเอง กลับหาเสียงแบบเกรี้ยวกราด
ด่าว่าคนเยอรมัน ว่ามันหน้าหนาจริงๆ …
เห็นชัดๆว่าแพ้แน่อยู่แล้ว ยัง(เสือก)สู้อยู่ได้
แล้วไอ้อาการอารมณ์แกว่งของเกาะนิ้วก้อย
ที่แสดงถึงจุดอ่อน หรือความอ่อนไหว ของมันในช่วงนั้น …
ก็กลับกลายเป็นโอกาส ให้ไอ้ปากเหม็นสามารถคว้าจูงเอาไอ้นิ้วก้อย
เข้ามาร่วมอยู่ในแผนการ(ต้มชาวบ้านอื่น)ของบ้านปากเหม็น …
โดยไอ้นิ้วก้อย ก็ไม่รู้สึกสดุดใจ หรือ ขัดข้องใจ…
ในช่วงปลายปี คศ 1944 นั้น … ทางบ้านปากเหม็น
กำลังจะมีการเลือกตั้งเหมือนกัน และ ท่าน FDR ก็ตั้งใจจะลงแข่งอีก
เพื่อ “จัดการ” เรื่องต่างๆตามแผน ที่พวก CFR และฝ่ายทุนใหญ่
ของบ้านปากเหม็น ได้ร่วมกันวางแผนมาตั้งแต่ปี คศ 1939 นั่น
ให้เรียบร้อย
“เรื่องสำคัญ” ที่ต้องจัดการดังกล่าวข้างต้น …
อันที่จริงนั้น มันเป็นเรื่องที่บ้านปากเหม็นจะต้องดำเนินการ
จัดให้มีขึ้น “ภายหลัง” จากที่สงครามโลกจบสิ้นลงไปแล้ว…
แต่เพื่อให้เรื่องสำคัญเหล่านั้น สัมฤทธิ์ผลครบถ้วนเรียบร้อย
บ้านปากเหม็น จึงต้องเตรียมการ ปูพื้น ตอแหล เตรียมเชือกคล้องคอ
เตรียมการล้อมคอก การขุดหลุม การวางหม้อต้ม ฯลฯ
เอาไว้ให้เรียบร้อย “ก่อน” ที่สงครามโลกจะจบสิ้นลง …
และการปูพื้น ไปจนถึงการวางหม้อต้ม ฯลฯ
ก็ได้มีการเริ่มดำเนินการตั้งแต่ประมาณ กลางปี คศ 1944
การเตรียมปูพื้น … หรือ การประชุม ที่ Bretton Woods …
ในเดือน กรกฏาคม คศ 1944…
ได้ผลตามต้องการ …คือ เกาะนิ้วก้อย จะไม่ขัดข้อง
ที่จะให้เงินสกุลดอลล่าร์ ของบ้านปากเหม็นเป็นเงินสกุลหลัก
หรือ เป็นเงินทุนสำรอง…โดยเงินปอนด์ ยินดีถอยหลบให้
(เรื่องนี้ คือ เรื่องที่สำคัญที่สุด ของบ้านปากเหม็น)
การเตรียมล้อมคอก… หรือ การประชุม ที่ Dumbarton Oak…
ในเดือนสิงหาคม คศ 1944…คือ การบอกกล่าวของบ้านปากเหม็น
กับพันธมิตร โดยเฉพาะเกาะนิ้วก้อย สหภาพโซเวียต และ จีน …
ถึงการเตรียมการจัดตั้ง องค์กร “สหประชาชาติ “
โดยให้เกาะนิ้วก้อยออกหน้าเป็นหัวเรือใหญ่
การขุดหลุมและเตรียมหม้อต้ม…หรือ การประชุม ที่ Quebec
ของแคนาดา …ในเดือนกันยายน คศ 1944
ระหว่างฝ่ายการเมืองและการทหาร ของบ้านปากเหม็น กับเกาะนิ้วก้อย
ท่าน FDR …เล่นบทตบหัวลูบหลัง ท่านหลอดเชอร์ชิล…
โดยบอกกับหลอดเชอร์ชิล ว่าเราเข้าใจนะ
ว่าเกาะนิ้วก้อย คงจะมีอาการสาหัสไม่น้อย หลังจากสงครามโลกสิ้นสุดลง
แต่ไม่ต้องห่วงนะ เพราะเยอรมันหลังสงครามโลก
ก็จะถูกฝ่ายพันธมิตร ห้ามไม่ให้ทำกิจการอุตสาหกรรม
และบ้านปากเหม็น ก็จะช่วยเอาเหล็กกล้าจากเยอรมัน …
มาให้เกาะนิ้วก้อยใช้ ในการฟื้นฟูการผลิตสินค้าออกของตัวเอง
จะได้อยู่รอดไงล่ะ
(แต่ ที่ FDR ก็ไม่ได้บอกเล่า กับหลอดเชอร์ชิล …
คือ เรื่องเกี่ยวกับเยอรมันนั้น …ที่อีกไม่นานก็จะมีการเปลี่ยนแปลง
โดยบ้านปากเหม็นเองนั่นแหล่ะ ที่จะเป็นผู้ที่จัดการให้เยอรมัน
ได้ทำกิจการอุตสาหกรรมในภายหลัง …และทำเพื่อประโยชน์
ของบ้านปากเหม็น เท่านั้น…)
และ FDR ยังแถมท้าย กับหลอดเชอร์ชิล อีกด้วย
ว่าบ้านปากเหม็น จะอนุญาตให้มีการจัดสรรเงินช่วยเหลือ
จาก Lend Lease … จำนวน 7bn (พันล้าน) ดอลล่าร์ ให้แก่เกาะนิ้วก้อย
เป็นกรณีพิเศษ …เพื่อช่วยกู้สถานะทางเศรษฐกิจของเกาะนิ้วก้อย
ต่อมา ยังมีการหารือกันแบบส่วนตัว ระหว่าง FDR กับ หลอดเชอร์ชิล
ที่บ้านของ FDR ที่ Hyde Park นิวยอร์ค
ซึ่ง FDR ได้เล่าถึงความ “คืบหน้า” ของอะตอมมิคบอมบ์ …
ที่บ้านปากเหม็นกำลังซุ่มเงียบทดลองอยู่ …ว่าคืบหน้าไปมากแล้ว …
และน่าจะสำเร็จใช้การได้ภายใน 1 ปี
เรื่องนี้ เรารู้กัน “เฉพาะ” แค่ 2 บ้านของพวกเรา
(Anglo-American) เท่านั้นนะ…
เราจะไม่บอกให้พันธมิตรอื่น หรือ นานาประเทศให้รู้นะ เข้าใจไหม
และ “เรา” จะใช้ระเบิดนี้ กับ ญี่ปุ่น…
ซึ่งในตอนนั้น…ทั้ง 2 คน ก็รู้เพียงแค่ว่าระเบิดดังกล่าว
มีอานุภาพมาก…แต่ไม่ใช่เป็นอาวุธอย่างที่ปรากฏในภายหลัง
ว่ามีอานุภาพรุนแรงร้ายกาจ …ขนาดทำลายโลกได้…
การเจรจาข้างต้น หรือ การตอแหล ตบหัวลูบหลังทั้งหมด
กับเกาะนิ้วก้อย …มันเป็นการที่บ้านปากเหม็น เอาเกาะนิ้วก้อย
มาหนีบไว้ใต้จักกะแร้ หรือ บีบข้อมือไอ้นิ้วก้อยไว้อย่างแน่น
เพื่อให้เข้าใจว่า …จากนี้ไปอนาคตของเกาะนิ้วก้อย
จะขึ้นอยู่กับความปราณีของเรา …บ้านปากเหม็นเท่านั้น…
ถ้าไม่อยากมีชีวิตที่เหนื่อยเกินไป … ก็ว่าง่ายๆ …
เราว่าไง ก็ว่าตามกัน…เข้าใจนะเพื่อน
เขาว่าการหารือ ระหว่าง FDR กับ หลอดเชอร์ชิล ข้างต้น
ทำให้หลอดเชอร์ชิลที่รู้สึก “ขมขื่น” อย่างยิ่งเข้าไปถึงในอก
ถึงกับถามอย่างทีเล่นทีจริง กับ FDR …
“…ต่อไปนี้ เวลาเราต้องการอะไร …เราต้องเลียมือท่าน
เหมือนอย่าง ไอ้ Fala มันทำไหม …”
(หมายเหตุ: Fala คือหมาของ FDR)
หลังจากได้มีการหารือต่างๆข้างต้นแล้ว …
เรื่องยุทธศาสตร์ การรบและการเคลื่อนพลของฝ่ายพันธมิตร
ที่ค่อนข้างอึมครึมแล้วแต่บ้านปากเหม็นจะกำหนดนั้น …
ก็ดูเหมือนจะ ค่อยชัดเจนขึ้น
แต่แล้ว ก็เหมือนมีการผิดจังหวะเกิดขึ้นจนได้ …
เมื่อฝ่ายพันธมิตร ทำการเคลื่อนพลเพื่อข้ามแม่น้ำไรน์
ในเดือนมีนาคม คศ 1945 นั้น
ฝ่ายบ้านปากเหม็น”เหมือน” เข้าใจผิด ข้ามไปคนละทาง …
และทำให้กองทัพของเกาะนิ้วก้อย กลับต้องเป็นฝ่ายจัดการ
กับกองทัพของเยอรมัน ที่ยังสู้ยิบตาอยู่
จนถึงวันที่ 4 พฤษภาคม คศ 1945
การ “ผิดจังหวะ” ข้างต้น คล้ายกับเป็น “ย้ำ” เตือนความจำ
ให้กับเกาะนิ้วก้อย จากบ้านปากเหม็น …ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้นะ …
ถ้าเรา “บังเอิญ” ลืม หรือ เข้าใจผิดบางเรื่องไป …
แล้วความอึมครึม อีกรูปแบบ …ก็เกิดขึ้น…
เมื่อ FDR ที่ทำหน้าที่เดินสายรับปากเขาไปทั่ว พร้อมกับวางหม้อต้ม
ไปด้วยในขณะที่ตนเองก็ป่วยหนักแล้วนั้น … ก็มีอาการทรุดหนัก
ถึงกับเส้นเลือดในสมองแตก และเสียชีวิตไปในวันที่ 12 เมษายน คศ 1945
และ นาย Harry S Truman …ซึ่งเพิ่งได้เป็นรอง ปธน ของ FDR
ในการเลือกตั้งหมาดๆ เมื่อเดือนมกราคม คศ 1945…
ก็ได้ขึ้นมาเป็น ปธน คนต่อไปของบ้านปากเหม็น
นายทรูแมน …เป็นประธานาธบดี ซึ่งเหมือนมาจากแม่พิมพ์
ที่ถูกหยิบมาผิดอัน …ที่ต่างกันกับ FDR อย่างสิ้นเชิง.…
และเขาจะต้องมารับหน้าที่ …ดำเนินการโครงการ
War & Peace ของ CFR ต่อไป…ให้สำเร็จตามเป้าหมาย
สวัสดีครับ
จาก คนเล่านิทาน
21 มกราคม 2567
เชิญแชร์กันตามสบาย ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า และโปรดให้เครดิตด้วย
ภาพประกอบจากกูเกิล
ที่มา
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid029ZykhCtyUCaWnSYCeR59zrB2hx5EMex3LivDZPXXtr5HwPUaroPiDtTu7sR4vvPkl&id=100044580721225
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
นิทานยูเครน ภาคฉิบหายแน่
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย