21 ม.ค. เวลา 09:43 • กีฬา

[ Omar Berrada - เปิด 4 แนวคิด ของ CEO แมนยูไนเต็ดคนใหม่ ]

วันที่ 20 มกราคม 2024 “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทีมฟุตบอลชื่อดังจากเกาะอังกฤษ ประกาศเปิดตัวประธานบริหารคนใหม่ล่าสุด Omar Berrada
จากคนที่ลาออกจากมหาวิทยาลัย อะไรที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จถึงจุดนี้?
Omar Berrada เป็นชาวโมร็อกโก ในตอนแรกเขาเรียนมหาวิทยาลัยด้านวิศวกรรมในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ก่อนจะตัดสินใจลาออก และเปลี่ยนเส้นทางไปตระเวนศึกษาทั่วยุโรป หลังจากนั้น เขาก็ได้ทำงานกับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่าในยุคเฟื่องฟูสุดขีดเป็นเวลาถึง 8 ปี ก่อนจะย้ายมาเข้าร่วมทีมบริหารของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ซิตี้ ในปี 2011
ในปี 2016 Berrada ขึ้นรับตำแหน่งประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของสโมสร และสี่ปีต่อมา เขาก็ดำรงตำแหน่งนั้นให้กับทั้ง City Football Group โดยหน้าที่ของเขาคือการดูแลการปฏิบัติงานของสโมสรฟุตบอลมากถึง 11 ทีม ใน 5 ทวีป
ผลงานชิ้นโบว์แดงของเขาคือการเซ็นสัญญากับ Erling Haaland ดาวซัลโวสูงสุดในฤดูกาลที่แล้ว กับการสร้างกำไรมหาศาลจากการขายนักเตะเยาวชนของ “เรือใบสีฟ้า”
ในปี 2020 Omar Berrada ได้ให้สัมภาษณ์ EU Business School สถาบันศึกษาเก่าของเขา และเปิดเผย 4 แนวคิดที่เปลี่ยนเขาจากนักศึกษาวิศวกรรม สู่หนึ่งในผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในโลกลูกหนัง
  • ทำตามเสียงหัวใจ
หลังจากเข้าเรียนด้านวิศกรรมในรัฐแมสซาชูเซตส์ได้เพียง 6 เดือน Berrada ก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่เส้นทางที่เหมาะสำหรับเขา ทำให้เขาตัดสินใจลาออกแล้วย้ายกลับทวีปยุโรป Berrada อยากตระเวนศึกษาหลายๆที่ในยุโรป และเขาก็ได้รับคำแนะนำให้เข้าเรียนที่ EU Business School มหาวิทยาลัยที่เปิดโอกาสให้เขาย้ายประเทศเรียนในแต่ละปีได้
Berrada เรียนปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เพราะตอนนั้นเขาเป็นแฟนบอลทีม “เจ้าบุญทุ่ม” และคิดว่ามันคงดีถ้าเขาได้เรียนภาษาสเปนกับดูฟุตบอลสนุกๆไปด้วย โดยเขาตั้งใจจะอยู่ที่นั่นหนึ่งปี แต่แล้วในที่สุดเขาก็อยู่ที่บาร์เซโลน่าถึง 15 ปี
หลังจากเรียนจบ Berrada ก็ฝึกงานที่บริษัท Honda แต่แทนที่เขาจะทำงานที่นั่นต่อ Berrada กลับสนใจธุรกิจเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตมากกว่า ในตอนนั้นมันเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง แต่ก็กำลังโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน Berrada ตัดสินใจทำตามเสียงหัวใจตัวเองอีกครั้ง และเข้าทำงานในธุรกิจที่ตัวเองสนใจ โดยเขาเข้าร่วมบริษัท World Online
มันเป็นประสบการณ์ล้ำค่าสำหรับเด็กจบใหม่อย่างเขา เพราะ World Online ทั้งเติบโตอย่างรวดเร็ว และร่วงหล่นในระยะเวลาเพียงแค่ 5 ปี แต่ก่อนที่ Berrada จะกลายเป็นคนตกงาน บริษัทก็ถูกซื้อโดย Tiscali บริษัทโทรคมนาคมสัญชาติอิตาลี และเขาก็ได้ทำงานที่นั่นต่อ
“หนึ่งในเรื่องปกติของเส้นทางอาชีพผม คือการเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่จะลองสิ่งต่างๆ และการได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง การเดินทางมันอาจจะไปได้ด้วยดี มันอาจจะไปได้แย่ แต่คุณก็ได้เรียนรู้และรับประสบการณ์ต่างๆ”
“ถ้าย้อนกลับไปได้ ผมก็จะทำแบบนั้นอีกอย่างแน่นอน”
หลังจากนั้น Berrada ก็ทำตามเสียงหัวใจอีกหนึ่งครั้งและเข้าทำงานในโลกกีฬา มันเป็นตัวเลือกที่เขาไม่เคยคิดถึงตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่มันเป็นสิ่งที่เขารักมาตลอด
การได้ทำในสิ่งที่ชอบทำให้ Berrada สามารถรับแรงกดดันต่างๆได้ โดยเขาทิ้งท้ายว่า เวลาที่เขาตื่นนอนพร้อมกับความรู้สึกรักในงานที่ต้องทำ และรับรู้ว่างานของเขาช่วยสร้างสิ่งดีๆให้กับผู้คน มันทำให้เขารู้สึกมีกำลังใจและภาคภูมิใจในอาชีพของตัวเอง
  • สร้างคอนเนคชั่นกับคนที่ใช่
เมื่อถูกถามว่าเขาโดดจากบริษัทโทรคมนาคม สู่สโมสรฟุตบอลระดับท็อปอย่างบาร์เซโลน่าได้อย่างไร Berrada ยอมรับว่า “มันอาจจะมีเรื่องโชคมาเกี่ยวข้องด้วย”
แต่เขาก็ได้อธิบายเพิ่มว่ามันไม่ใช่เพียงแค่เรื่องโชคอย่างเดียว
การสร้างและรักษาคอนเนคชั่นต่างหากที่เป็นปัจจัยสำคัญ
สาเหตุที่ทำให้ Berrada ได้ย้ายไปทำงานให้กับบาร์เซโลน่า มาจากเจ้านายเก่าของเขาใน Tiscali เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่การตลาด (CMO) ของสโมสร ก่อนจะชักชวนลูกน้องเก่าผู้รักฟุตบอลและเป็นแฟนคลับของทีมอย่าง Berrada ให้เข้ามาร่วมงานด้วย
“คุณไม่มีทางรู้เลยว่าใครจะเป็นคนมอบโอกาสแห่งชีวิตการทำงานให้เรา”
Berrada กล่าวเพิ่มว่าการสร้างคอนเนคชั่นนั้นเป็นสิ่งจำเป็นตลอดการทำงาน เขาแนะนำให้เหล่าเด็กจบใหม่พยายามเข้าร่วมงานสำคัญต่างๆ และทำความรู้จักคนใหม่ๆผ่าน LinkedIn หรือผ่านช่องทางโซเชียลอื่นๆ แต่ก็ต้องคอยดูว่าคอนเนคชั่นเหล่านั้นมีประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย และคอยรักษาความสัมพันธ์ในขณะที่พัฒนาตัวเองไปด้วย
  • ก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน
ในปี 2011 Berrada ดำรงตำแหน่ง Senior Media Business Development Manager และเป็นหัวหน้าฝ่ายจัดหาสปอนเซอร์ให้กับทีมบาร์เซโลน่าที่เขารัก การทำงานของเขาราบรื่นดี เนื่องจากในตอนนั้น “เจ้าบุญทุ่ม” เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง และมีสตาร์อันดับหนึ่งแห่งยุคอย่าง Lionel Messi ทำให้ใครๆต่างก็อยากเป็นสปอนเซอร์ให้พวกเขา
และในตอนนั้นเอง Berrada ก็ได้รับการติดต่อจากแมนเชสเตอร์ซิตี้ โดยเขาถูกเสนอให้เข้ามารับตำแหน่ง Head of International Business Development
ในตอนนั้น “เรือใบสีฟ้า” ยังไม่ใช่ทีมระดับโลกแบบที่รู้จักกันในตอนนี้ พวกเขาเพิ่งถูกซื้อโดยกลุ่มเจ้าของใหม่จากตะวันออกกลาง และพวกเขาก็พร้อมลงทุนอย่างหนักทั้งในและนอกสนาม ซึ่งมันก็เป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับ Berrada
แต่การย้ายไปร่วมแมนเชสเตอร์ซิตี้ หมายความว่า Berrada ต้องลาจากเมืองกับงานที่เขารัก แถมยังเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของเขาด้วย ไม่มีใครรู้ว่ากลุ่มทุนตะวันออกกลางนั้นจริงจังแค่ไหนกับการลงทุนในสโมสรฟุตบอลนี้ หรืองานใหม่ของเขาจะยากกว่าเดิมขนาดไหน
แต่สุดท้ายแล้ว Berrada ก็เก็บข้าวของ ลาจากเมืองบาร์เซโลน่าที่เขาอยู่มานานถึง 15 ปี และออกเดินทางสู่งานใหม่ในเกาะอังกฤษ
“มันมีบางอย่างในการเดินทางครั้งนี้ที่ดึงดูดผมจริงๆ มันทำให้ผมอยากลองสิ่งใหม่ๆ และท้าทายตัวเองในสภาพแวดล้อมกับเงื่อนไขที่ต่างออกไปจากเดิม”
ทันทีที่ Berrada เริ่มทำงานกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ เขาก็พบว่าหลายๆแบรนด์ปฏิเสธที่จะสนับสนุนสโมสรนี้ ซึ่งนั่นทำให้ Berrada ต้องใช้วิธีใหม่ในการเข้าหาพวกเขา
“การขายสินค้าที่ใครๆก็อยากได้นั้นเป็นเรื่องง่าย กาาขายสินค้าที่ผู้คนยังไม่เข้าใจนั้นต้องใช้ความสร้างสรรค์มากขึ้นอีกนิดหน่อย”
“ท้าทายตัวเองและก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนเท่าที่จะทำได้ เพราะมันจะทำให้คุณเติบโตขึ้นในฐานะคนคนหนึ่งและในฐานะมืออาชีพ และมันจะช่วยให้คุณก้าวไปถึงศักยภาพสูงสุดของคุณ” Berrada ให้คำแนะนำ “บางทีมันอาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ แต่อย่างน้อยคุณก็จะได้เรียนรู้ เติบโต และพัฒนาตนเองต่อไป”
ความอดทนเองก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะหลังจากทำงานอย่างยากลำบากได้หนึ่งปี Berrada ก็ได้รับข้อเสนอจากบริษัทเอเจนซี่ด้านกีฬาในสวิตเซอร์แลนด์ พวกเขายื่นข้อเสนอที่ดูดีกว่างานของเขาในตอนนั้น ทั้งในด้านค่าตอบแทนกับความรับผิดชอบ
Berrada ตอบรับข้อเสนอนั้นไปแล้ว ก่อนจะนึกได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เขาเข้าร่วม “เรือใบสีฟ้า” เขาอยากจะท้าทายตัวเอง และทำงานที่เดิมต่อไป ซึ่งนั่นก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะหลังจากนั้น Berrada ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆจนก้าวสู่ตำแหน่งประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของ City Football Group โดยได้รับมอบหมายให้ดูแล 11 สโมสรใน 5 ทวีป
งานของ Berrada กับแมนเชสเตอร์ซิตี้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ด้านการตลาดที่เขาทำในบาร์เซโลน่า แต่เขายังมีบทบาทในด้านการซื้อขายผู้เล่น วิเคราะห์ข้อมูล วิทยาศาสตร์กีฬา และการจัดหาบุคลากร โดยผลงานของเขาคือการสร้างทีม “เรือใบสีฟ้า” ให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างสูง ทัดเทียมกับทีมบาร์เซโลน่ายุครุ่งเรืองที่เขาเคยทำงานให้เมื่อหลายปีก่อน
หากในตอนนั้น Berrada เลือกที่จะทำงานกับบาร์เซโลน่าต่อไป บางทีเขาอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จมากเท่าในตอนนี้ก็เป็นได้
  • หาตำแหน่งงานที่เหมาะสม
ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ นักเรียนรุ่นน้องสถาบัน EU Business School ยกมือถาม Berrada เกี่ยวกับวิธีประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจกีฬา
Berrada กล่าวว่ามันมีหลายเส้นทางที่จะก้าวสู่โลกแห่งกีฬา และสิ่งสำคัญที่ควรทำคือการดูว่าเหล่าบริษัทใหญ่ๆกำลังตามหาตำแหน่งอะไร กับพวกเขาต้องการพนักงานที่มีทักษะอะไร
ปัจจุบัน นักวิเคราะห์ข้อมูลกับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลกำลังเป็นที่ต้องการในตลาด และแนวโน้มก็คงจะเป็นแบบนี้ต่อไปในอนาคต เนื่องจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับเทคโนโลยีต่างๆเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น การเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเหล่านี้จะทำให้เป็นที่สนใจจากบริษัทใหญ่ๆ
ในขณะเดียวกัน สโมสรกีฬาก็จำเป็นต้องหาวิธีใหม่ๆในการเชื่อมต่อกับแฟนบอล ทำให้ความคิดสร้างสรรค์และการใช้สื่อดิจิตัลกลายเป็นสิ่งมีค่า คนที่มีความสามารถในการสร้างคอนเทนต์หรือประสบการณ์ด้านสื่อจึงมีเส้นทางสู่โลกกีฬาได้เช่นกัน
การหาตำแหน่งงานที่เหมาะกับทักษะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การมีคุณสมบัติที่ดีก็เป็นสิ่งที่บริษัทตามหาในตัวพนักงานใหม่เช่นกัน
Berrada เปิดเผยว่าสิ่งที่ City Football Group ให้ความสำคัญนอกจากทักษะคือ ความสามารถที่จะทำงานร่วมกับแผนกอื่นหรือบุคลากรจากวัฒนธรรมอื่น ความยืดหยุ่นในด้านทักษะ ความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองต่อไป
โดยเขาให้เหตุผลว่าหลังจากเหตุการณ์ COVID ความไม่แน่นอนนั้นเป็นปัญหาหลัก ไม่ว่าจะเป็นในธุรกิจกีฬาหรือธุรกิจอื่นๆ ดังนั้นบริษัทจึงมองหาบุคลกรที่ทำงานได้ยืดหยุ่น และพร้อมที่จะทำงานในตำแหน่งหรือที่ไหนที่บริษัทต้องการ
“พวกเราได้เห็นกันแล้วว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ และคุณต้องพร้อมปรับตัวอย่างรวดเร็ว”
https://www.manutd.com/en/news/detail/man-utd-confirm-appointment-of-omar-berrada-as-new-ceo-20-january-2024
และในวันที่ 20 มกราคม 2024 Omar Berrada ก็ทำการช็อควงการลูกหนัง ด้วยการย้ายเข้าไปรับตำแหน่งประธานบริหาร (CEO) ของสโมสรฟุตบอลคู่อริอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
หลายคนมองว่ามันเป็นการตัดสินใจที่แปลกประหลาด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างบริหารใหม่ หลังจากกลุ่ม INEOS ที่นำโดย Sir Jim Ratcliffe เพิ่งเข้ามาจัดการบริหารด้านฟุตบอล และยังไม่มีใครรู้ว่าผลงานของพวกเขาจะเป็นอย่างไร
ซึ่งถ้า Berrada ยังอยู่กับแมนเชสเตอร์ซิตี้ต่อไป มันมีโอกาสสูงมากว่าเขาจะประสบความสำเร็จได้มากกว่านี้ โดยมีกระแสข่าวลือว่าเขาเป็นตัวเต็งที่จะได้รับสืบทอดตำแหน่งผู้บริหารด้านฟุตบอล (DOF) คนต่อไปของ “เรือใบสีฟ้า” ด้วยซ้ำไป
แต่มันก็คงเป็นอีกครั้งที่ Berrada เลือกทำตามเสียงหัวใจและก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนเพื่อความท้าทายใหม่ ซึ่งงานใหม่ของเขาก็เหมาะสมกับความสามารถกับประสบการณ์ที่สะสมมายาวนาน มันเป็นงานใหม่ที่เสี่ยง แต่ก็จะทำให้เขาได้พบกับสิ่งใหม่ๆเช่นกัน
จากประกาศล่าสุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
“การเข้ารับตำแหน่งของ Omar แสดงถึงก้าวแรกสู่การเดินทางนี้”
“ในฐานะหนึ่งในผู้บริหารสโมสรฟุตบอลผู้มีประสบการณ์สูงสุดในเวทีฟุตบอลยุโรประดับท็อป Omar จะนำความรู้ด้านฟุตบอลและด้านธุรกิจมากมายสู่สโมสร โดยเขาได้ประสบความสำเร็จในฐานะผู้นำ และมีจิตวิญญาณที่จะนำความเปลี่ยนแปลงสู่สโมสร”
“พวกเรามีเป้าหมายที่จะนำแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกลับมาสู่สโมสรระดับแชมป์อีกครั้ง และพวกเราก็ยินดีที่ Omar จะช่วยให้พวกเราบรรลุเป้าหมายนั้น เพื่อที่แฟนยูไนเต็ดจะได้เห็นภาพตามคำกล่าวของ Sir Matt Busby อีกครั้งหนึ่ง ภาพธงสีแดงที่บินสูงเหนือยอดของฟุตบอลอังกฤษ ฟุตบอลยุโรป และฟุตบอลโลก”
โฆษณา