2024 โลกเริ่มเข้าโค้งอันตราย Per Crisis(Permanent Crisis) บนเส้นทาง Great Reset Age: 2020-2030
Great Reset Age: 2020-2030 เส้นทางเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมยุคที่ 4 และ New Normal อื่นๆ
กระบวนการเปลี่ยนผ่านท่ามกลางสภาวะสงครามอาวุธ สงครามเศรษฐกิจ รวมถึง สงครามข้อมูลข่าวสาร
เมื่อ โลกเริ่มเข้าสู่โค้งอันตราย Per Crisis: 2024 กลไก Soft Power จะมีบทบาทสำคัญเพื่อใช้พลิกเกมสงครามข้อมูลข่าวสาร ทำให้สื่อ Social มีบทบาทสำคัญในการชักใย ลากจูงความคิดของสังคม ไปทางดีหรือทางร้ายก็ได้
Soft Power จึงกลายเป็นอาวุธที่ใช้ต่อสู้กันในโลกของสงครามข้อมูลข่าวสารบนสื่อ Social ที่ทุกสื่อมีความจำเป็นต้องเอาตัวเองให้รอดในทางธุรกิจ ส่งผลให้มีสื่อลักษณะเลือกข้างให้เห็น ดังนั้น การเสพสื่อ ผู้เสพต้องรู้จักกรองเอาส่วนเกินออกเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ
ล่าสุด ปูติน ให้สัมภาษณ์นักข่าวอเมริกัน ว่า จะทำสงครามเฉพาะกับยูเครนเท่านั้น จะไม่รุกรานประเทศ อื่นๆ ดูทรงแล้วประเทศในยุโรปคงไม่หลงเชื่อคำพูดของปูติน
2024 โลกอยู่ในโค้งอันตราย มีสงครามหลายจุดพร้อมกัน และบางสงครามกำลังขยายตัวออกไปเรื่อย ๆ ทำให้สงครามลากยาว
เกิดเป็น วิกฤตถาวร Permanent Crisis(Per Crisis) และผลกระทบจากสงครามกดดันให้เกิดแรงกระแทกปั่นป่วนเศรษฐกิจโลกไปตลอดทั้งปี
ประเทศที่ใช้ระบอบเผด็จการ
ด้วยโครงสร้างมีความเหลื่อมล้ำสูง เมื่อเข้าโค้งอันตราย Per Crisis จึงได้รับผลกระทบจากคลื่นกระแทกทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าปกติ
ประชาชนมีความยากลำบากทางเศรษฐกิจ มีปัญหาคนว่างงานและค่าครองชีพที่สูงกว่าปกติ พร้อมกับคะแนนนิยมในตัวรัฐบาลลดต่ำลงกว่าปกติ
ทำให้ผู้นำเผด็จการ มีแรงจูงใจที่จะก่อสงครามเพื่อหันเหความสนใจของประชาชนไปที่ศัตรูของประเทศ พร้อมกับรัฐบาลจะมีอำนาจสั่งการให้ประชาชนปฎิบัติตามอำนาจพิเศษได้โดยไม่สามารถโต้แย้ง
ในขณะที่รัฐบาลเผด็จการที่ประชาชนส่วนใหญ่มีความเดือดร้อนในเรื่องการยังชีพสูง จะเผชิญความเสี่ยงภายในสูงเพิ่มขึ้น และถ้าความเดือดร้อนสูงเกินกว่าที่ประชาชนทนไหว ประชาชนอาจร่วมกันกดดันเพื่อให้รัฐบาลล้มไป
คล้ายกับมอเตอร์ไซค์ตอนแข่งขัน
เมื่อเวลาเข้าโค้งอันตรายด้วยความเร็ว จะเกิดแรงเหวี่ยงให้หลุดโค้งไปนอนอยู่ข้างทางได้
ผู้ขับมอเตอร์ไซค์จึงต้องโน้มตัวรถไปฝั่งตรงข้ามกับทางโค้งเพื่อสู้กับแรงเหวี่ยงตามธรรมชาติที่จะทำให้รถหลุดโค้ง
การเข้าโค้งอันตรายด้วยความเร็วที่ยิ่งเพิ่มขึ้น
แรงเหวี่ยงที่จะทำให้หลุดโค้งก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
ผู้ขับก็ยิ่งต้องกดมอเตอร์ไซค์ให้ต่ำลงเพื่อเอาชนะแรงที่จะเหวี่ยงทำให้รถหลุดโค้ง
หากกระบวนการรักษาสมดุลเพื่อไม่ให้หลุดโค้ง"พลาด" ทำให้ Domino ตัวแรกล้มเพียงตัวเดียว รถซึ่งกำลังอยู่ในโค้งอันตรายก็จะหลุดโค้งได้ ในทันที
ออกจากสนามแข่งมอเตอร์ไซค์ ย้อนกลับมาดู
วิธีที่รัฐบาลบริหารพลังความเห็นต่างในเวลาวิกฤต
จะต้องบริหารด้วยความไม่ประมาทต่อคนจำนวนน้อย
เพราะในโค้งอันตรายเมื่อเกิดช่วงโกลาหล คนหนึ่งคนหรือสองคนนั้น สามารถชักจูงอีกหลายร้อยหลายพันคนให้เกลียดชังหรือทำร้ายแม้จะเป็นคนดี ๆ ก็เป็นไปได้
คนในเวลาวิกฤต เมื่ออยู่ในคนหมู่มาก คนจะใช้เหตุผลน้อยที่สุด คนจะทำไปด้วยสัญชาตญาณ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งด้านดีและด้านร้าย
หลวงพ่อชา สอนเรื่องจิตไม้เลื้อยว่า จิตใจคนเรานั้นเหมือนไม้เลื้อย คือ ด้วยสัญชาตญาณจะเลื้อยไปเกาะเกี่ยวต้นไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ ก่อน ไม่เลื้อยไปเกาะต้นที่อยู่ไกล
Believe in your future imagination.
ความคิดของมนุษย์นั้น สามารถนำผลหรือโชคชะตามาให้แก่ตัวเองได้อย่างแปลกประหลาด
หลวงพ่อชา สอนเรื่องจิตไม้เลื้อยว่า จิตใจคนเรานั้นเหมือนไม้เลื้อย คือ จะเลื้อยไปเกาะเกี่ยวต้นไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ ก่อน
ไม่เลื้อยไปเกาะต้นที่อยู่ไกล
ดังนั้น การเลือกคบคนที่ดี จึงเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมให้จิตเราเลื้อยไปเกาะเกี่ยวสิ่งที่ดี ๆ เป็นวิธีอาศัย"เครื่องล่อ" คือ "สภาพแวดล้อมที่ดี"เพื่อจูงจิตไปด้านที่ดีและนำผลหรือโชคชะตาที่ดีมาให้แก่ตัวเอง
Believe in your future imagination.
ความคิดของมนุษย์นั้น สามารถนำผลหรือโชคชะตามาให้แก่ตัวเองได้อย่างแปลกประหลาด
Suggestion การจูงจิต คือ การหลอกตัวเอง หรือถูกคนอื่นหลอกล่อไปในทางที่ดีหรือไปทางร้ายก็ได้
การคิดทางร้ายควรคิดเพื่อผลคือความไม่ประมาท
แต่มนุษย์เรามักคิดมากเกินไป จนกระทั่งกลายเป็นความเชื่อและเกิดความหวาดระแวงขึ้นในใจ
ความคิดนั้นคือเสียงที่อยู่ในหัวเรา เป็น Sound of silence ความหวาดระแวงที่ส่งออกไปจะเรียกร้องเอาเรื่องร้าย ผลร้ายเข้ามาถึงตัวได้
คนเราชอบคิดในทางร้าย เพราะสืบทอดสัญชาติญาณเรื่องการสืบพันธุ์และเรื่องความปลอดภัยที่ทำให้มนุษย์สามารถดำรงเผ่าพันธ์ุอยู่มาได้จนถึงปัจจุบัน
การจูงจิตเรื่องความปลอดภัยนั้น คนจึงทำได้เอง โดยไม่ต้องมีอะไรมาล่อ แต่ถ้าจะจูงจิตไปด้านดีต้องอาศัยเครื่องล่อ เช่น การเต้นรำ การเดินสวนสนาม ต้องมีดนตรีประกอบเพื่อทำให้สนุก และเมื่อสนุกก็ไม่เหนื่อย ดนตรีทำให้เหนื่อยน้อยลง ดนตรีทำให้คึกคักเข้มแข็งเกิดกำลังต่อต้านความเหน็ดเหนื่อยได้เป็นอันมาก
การจูงจิตคน ๆ เดียว กับการจูงจิตคนหมู่มากนั้นต้องใช้วิธีต่างกัน
การจูงจิตคนแต่ละคนต้องทำด้วยเหตุผล ต้องให้เขาเข้าใจเหตุผล ให้เกิดความเห็นดีเห็นชอบด้วย
แต่การจูงจิตคนหมู่มากหมู่ใหญ่นั้น
ความสะเทือนใจคือ Emotion สำคัญกว่าเหตุผล
จิตวิทยาเกี่ยวกับหมู่คน Mass-psychology
อธิบายคนที่ถูกจูงใจให้เข้ามาร่วมด้วยนั้น มีสองลักษณะ คือ 1. พวก Positive 2. พวก Negative
1. พวก Positive นั้นเข้าร่วมด้วยความเห็นชอบ และเมื่อเข้าร่วมแล้วก็ทำงานอย่างเสี่ยงภัยด้วยการยอมรับผลร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ถ้าเป็นลำพังเขาคนเดียว จะไม่ทำสิ่งนั้น เพราะคนเราเมื่ออยู่โดยลำพัง ย่อมจะนึกถึงตัวเองมากกว่าคนอื่น ไม่กล้าตัดสินใจคนเดียว
แต่ถ้าเห็นคนหมู่หนึ่งทำ แล้วเข้าไปอยู่ในหมู่แล้ว ความคิดถือตัวหรือเห็นแก่ตัวก็น้อยลงไป กลายเป็นเรื่องของหมู่ เรื่องของส่วนรวมและความรักแรงแข็งชอบ ตลอดถึงความเสียสละก็เกิดขึ้นเต็มที่
2. พวก Negative กล้าทำโดยเห็นว่า เป็นการกระทำของคนหมู่มาก คงไม่มีใครรู้จักหรือจำได้ หรือรู้ตัวไปทุกคน
ถ้าหากว่าการกระทำอันนั้นเป็นผลสำเร็จ ตัวเองก็อาจจะแสดงตัวออกมา และพลอยรับผลดีด้วย
ถ้าไม่สำเร็จ ก็อาจจะมีทางหลีกเลี่ยงปฏิเสธ ว่าตัวไม่ได้มีส่วนในการกระทำอันนั้น
คนเราเมื่อตกอยู่ในหมู่ใหญ่ ความนึกคิดตรึกตรองถึงเหตุผลย่อมจะหมดไป ถ้ามีใคร"กล้านำ"ทำอะไรขึ้น ก็อาจจะทำตามกันได้ง่ายๆ
คนฉลาดที่สุดหรือมีความรู้มากที่สุด อาจจะถูกคนที่โง่กว่ามีความรู้น้อยกว่า แต่ใจแข็งกว่า ชักนำให้ตามไปได้ และทั้งนี้เป็นไปได้ทั้งในทางดีและทางร้าย
ยิ่งในสมัยที่เกิดจากจลาจล หรือการปฏิวัติขึ้นในบ้านเมือง เป็นสมัยที่โกลาหลตื่นตกใจกัน ยิ่งเป็นเวลาที่คนเราใช้เหตุผลน้อยที่สุด และย่อมจะตามคนที่ชักนำไปได้ง่ายๆ
ดูหนัง ดูละคร แล้วย้อนดูตัวเอง
การใช้ชีวิตขณะโลกเข้าโค้งอันตรายของปี 2024
คนต้องยืนอยู่บนความไม่ประมาท
รู้จักระวังไม่พาตัวเองไปอยู่ในที่เสี่ยง ที่อโคจร
รู้จักวิธีการเสพสื่อโดยไม่ตกเป็นเหยื่อของสื่อเลือกข้าง
และต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมรับแรงกระแทกจากสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง เพราะในโค้งอันตรายอาจมีเรื่องท้าทายที่เกินกว่าจะคาดคิด
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
