การวิจัยหนังสือ Why Not the Best? #10/2022 ส่วนที่ 2 (บทที่ 9): เรื่องความคาดหวัง To Be/1
ส่วนที่ 2 (บทที่ 9): เรื่องความคาดหวัง To Be/1 เพื่อกำหนดให้ชีวิตมีเป้าหมายที่ดี ที่สร้างกำลังใจมากพอให้เกิดความมานะพยายามอย่างไม่ลดละ(PASSION)ที่จะดำเนินชีวิตฝ่าฟันไปตามเส้นทางมุ่งสู่เป้าหมายที่ท้าทายสุดขีดซึ่งได้คิดไว้ด้วยความรอบคอบแล้ว
เนื้อหาในบทที่ 9 เกี่ยวกับ 4 ประเด็น คือ
(1) คนเราถ้าได้ทำอาชีพที่ชอบและไม่เกิดภาวะแย้งในใจ จึงจะมีโอกาสประสบผลสำเร็จเหมือนกับคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
(2) ทุกคนมีลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร จึงต้องปรับแต่งตัวเองให้พอดีตัวเพื่อการปฏิบัติที่ดีซึ่งจำเป็นต่อการกำหนดให้ชีวิตมีเป้าหมายที่ดี
(3) ดาบสองคมของตัวชี้วัด Key Performance Indicator เมื่อถูกใช้ในด้านร้ายมันจะเป็น"กับดัก"ที่เราต้องระวังเพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ
(4) ผล Feedback เมื่ออ่านจบบท เกิด OFI : Opportunity For Improvement : โอกาสใช้พลังธรรมชาติ Resonance ของตัวเอง
โดย
Keep Learning เรียนรู้ที่จะเป็นตัวเอง
Cut Pain point เป็นหนึ่งในตัวเอง
Paste to peak สร้างชะตาชีวิตด้วยมือตัวเอง
To Be/1: เรื่องความคาดหวัง
หลวงพ่อชาสอนว่าคนเราต้องประกอบด้วยความอยาก จึงจะมีข้อปฏิบัติ เพราะถ้าไม่มีความอยาก ก็ไม่มีข้อปฏิบัติเพราะไม่รู้จะปฏิบัติไปทำไม
คนฉลาดในการดำเนินชีวิต
รู้จักตั้งเป้าหมายเพื่อให้ชีวิตรู้ทิศทางที่จะไป และจะได้คิดว่าจะไปถึงได้อย่างไร
คนฉลาดกว่า
รู้จักตั้งเป้าหมายแบบท้าทายสุดขีดเพื่อผลที่ยิ่งใหญ่เพียงพอให้ใจเกิดมีมานะพยายามอย่างไม่ลดละ passion เพื่อไปให้ถึง
คนฉลาดที่สุด
มุ่งหวังอริยทรัพย์คือสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรได้รับ Summum Bonum เป็นความหลุดพ้น ด้วยจิตเมตตาธรรมอย่างไม่มีเงื่อนไข Compassion (Unconditional Love) ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก
หลวงพ่อชา สอนให้ใช้ชีวิตตามหลักพรหมวิหารสี่คือ เมตตา กรุณา อุเบกขา มุทิตา
ความเมตตาสุดขีด
คือการยอมรับทุกสิ่งทั้งตัวเองและผู้อื่นอย่างที่กำลังเป็น
เพราะทุกคนได้ทำดีที่สุดด้วยศักยภาพที่มีแล้ว
ความกรุณาสุดขีด
คือการให้อภัยตัวเองและผู้อื่นอย่างที่กำลังเป็น เพื่อให้โอกาสทุกคนได้พัฒนาตัวเอง
อุเบกขาสุดขีด
คือการไม่ตัดสินหรือเพ่งโทษตัวเองและผู้อื่น หยุดการเปรียบเทียบหมดมานะเก้า
เพื่อหยุดเป็นทาสกิเลสที่ทำให้มีสั้น มียาว
ความมุทิตาสุดขีด
คือถือปฏิบัติตามแบบอย่างที่ดี
เพื่อเพิ่มสิ่งดี ๆ ให้กับตัวเอง