8 มี.ค. 2024 เวลา 12:00 • อาหาร
Rimping Supermarket NimCity Branch

ชวนรู้จัก “Shepherd’s and Cottage pie” จากอาหารธรรมดาของคนเลี้ยงแกะ สู่การเป็นของผู้ดีอังกฤษ

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์อันน่าโดดเด่นแล้ว ประเทศอังกฤษยังโดดเด่นในเรื่องอาหารการกินไม่แพ้ประเทศอื่น ๆ เนื่องจากอังกฤษเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมอันเก่าแก่มาอย่างยาวนาน จึงทำให้อาหารบางชนิดได้รับการสืบทอดมาตั้งแต่อดีต ในวันนี้เราจึงอยากชวนทุกท่านไปทำความรู้จักเมนูอังกฤษที่มีชื่อว่า “Shepherd’s and Cottage pie” กันค่ะ
Shepherd’s and Cottage pie เป็นเมนูสุดคลาสสิกที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 17 โดยเริ่มแรกนั้นเมนูสุดคลาสสิกนี้ เชื่อกันว่าเป็นอาหารของคนเลี้ยงแกะชาวไอริช ที่นำเอาอาหารเหลือมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่ โดยเฉพาะเนื้อแกะที่เป็นสิ่งฟุ่มเฟือย เหล่าแม่บ้านจึงนำเนื้อที่เหลือเหล่านั้นมาบดผสมกับผักและเครื่องเทศ จากนั้นนำมันฝรั่งบดมาท้อปปิ้งหน้าก่อนจะนำไปเข้าเตาอบ
สาเหตุที่พวกเขาใช้มันฝรั่งนั่นก็เป็นเพราะว่ามันฝรั่งมีราคาถูก อีกทั้งมันฝรั่งจำนวนมากมักจะเหลือหลังจากที่ทานคู่กับเนื้อย่าง เมื่อได้เมนูใหม่ขึ้นมาแล้ว พวกเขาจึงตั้งชื่อว่า “Shepherd's pie” ที่แปลว่าพายของคนเลี้ยงแกะนั่นเองค่ะ
การกล่าวถึง Shepherd’s pie ในอังกฤษครั้งแรกปรากฏในตำราอาหารชื่อ “The Art of Cookery” โดย Hannah Glasse นักเขียนชาวอังกฤษ ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1747 ในตำราเล่มนี้ ได้ระบุสูตรสำหรับ Shepherd's pie เอาไว้ โดยประกอบไปด้วยเนื้อแกะสับ หัวหอม น้ำเกรวี่ และโรยหน้าด้วยมันฝรั่งบด หลังจากตีพิมพ์ หนังสือเล่มนี้ก็กลายเป็นหนังสือทำอาหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในศตวรรษนั้น จนทำให้ Shepherd’s pie กลายเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมากขึ้นทันทีในประเทศอังกฤษ
ต่อมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ชนชั้นแรงงานทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ เริ่มนำเอาเนื้อวัวมารังสรรค์เป็นเมนู Shepherd’s pie กันมากขึ้น เนื่องจากพวกเขาชอบทานเนื้อวัวมากกว่าเนื้อแกะ และเพื่อป้องกันการสับสนว่าเมนูนี้ไม่ได้เป็นพายที่ทำมาจากเนื้อแกะ พวกเขาจึงตั้งชื่อเมนูใหม่ขึ้นมาว่า “Cottage pie” ซึ่งแปลว่า พายกระท่อม
เนื่องจากเมนูนี้เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่มชนชั้นแรงงานที่มักจะอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็ก ๆ ในชนบทของอังกฤษ อีกทั้งเมนูนี้ยังทำมาจากเนื้อวัวไม่ใช่เนื้อแกะ การจะใช้ชื่อว่า Shepherd’s pie ก็ดูจะตรงกันข้ามกับส่วนผสมนั่นเองค่ะ
ในอดีตอาหารเหล่านี้ถือเป็นอาหารสำหรับชาวนาและชนชั้นแรงงาน ไม่ได้มีราคาแพงเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปอาหารเหล่านี้ก็กลายเป็นอาหารที่มีความหรูหรามากยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการรับรู้ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงการใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันเชฟหลายคนใช้เนื้อส่วนที่มีราคาแพงและคุณภาพสูงแทนเศษเนื้อที่เหลือ หรืออาจจะเพิ่มส่วนผสมราคาแพงอย่างทรัฟเฟิลและฟัวกราส์เข้าไปในเมนูด้วย
นอกจากนี้การนำเสนอยังมีความซับซ้อนมากขึ้น แทนที่จะเสิร์ฟในหม้ออบธรรมดา ๆ เชฟหลายคนอาจเสิร์ฟแยกส่วนพร้อมเครื่องปรุงตกแต่งหลากหลายชนิด นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้อาหารเหล่านี้กลายเป็นที่นิยมในกลุ่มคนทุกชนชั้นของอังกฤษ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Shepherd’s and Cottage pie ได้กลายเป็นอาหารจานโปรดในสหราชอาณาจักรและส่วนอื่น ๆ ของโลก มักเสิร์ฟในร้านอาหารทุกระดับตั้งแต่ร้านธรรมดา ๆ ไปจนถึงร้านระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมสำหรับมื้อค่ำของครอบครัวและการสังสรรค์ โดยได้รับการดัดแปลงให้มีส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป
จะเห็นได้ว่าจากความประหยัด มัธยัสถ์ของผู้คนในอดีต ผสานกับความคิดสร้างสรรค์ ที่นำเอาอาหารเหลือทิ้งมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่ นั้นได้สร้างคุณค่าทางวัฒนธรรมอันดีงามให้กับคนยุคใหม่ อีกทั้งยังเป็นการปลูกฝังให้ผู้คนหันมาใส่ใจในเรื่องของอาหาร Food waste (ขยะอาหาร) กันมากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากการเข้าถึงอาหารอาจเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับคนในบางพื้นที่
ในขณะเดียวกันที่บางคนอาจจะมีอาหารให้ทานในปริมาณมาก จนเกิดเป็นขยะจากอาหาร ดังนั้น Shepherd’s and Cottage pie แสนอร่อย จึงถือเป็นหนึ่งในอาหาร Food waste ที่อร่อยและคุ้มค่าที่คนทั่วโลกให้การยอมรับ
สูตรสำหรับทำ Shepherd’s and Cottage pie
โฆษณา