5 ก.พ. 2024 เวลา 15:56 • ความคิดเห็น
เรื่องหนึ่งที่เราได้พบพระองค์หนึ่ง ท่านบอกว่า โยมเรียนรู้มามาก (รู้ตามหนังสือเค้าว่า อย่างนั้นอย่างนี้ เรื่องขันธ์ห้า อย่างนั้นอย่างนี้) ท่านบอกว่า มาถึงตรงนี้ ให้ศึกษา เรื่อง กาย อารมณ์ แล้วก็จิต พอท่านพูดคำว่า อารมณ์ ตัวมันเหมือนเบาลอยได้เลย มันรู้สึกได้อย่างนั้น
..พอมาเจอพระ..ที่นับถืออีกองค์ ท่านบอกว่า คนเราอยู่กับอารมณ์ไม่รู้จักอารมณ์ อยู่กับกรรมไม่รู้จักกรรม เรื่องอารมณ์กรรมตัวกระทำ เค้าปฏิบัติจนไปเห็นตัวอารมณ์ ตัวตนของอารมณ์นั่นเป็นอย่างไร ความน่าเกลียดน่ากลัวของอารมณ์นั้นเป็นอย่างไร ฤทธิ์ของอารมณ์เป็นอย่างไร ทำให้กายวาจาใจเป็นอย่างไร แล้วเมื่อคอนเราแสดงอารมณ์กรรมออกมา มีสีกรรมปรากฏขึ้นมาให้ดูชั่วขณะหนึ่ง แสดงความหมาย วาระจิตขณะนั้นเป็นอย่างไร มันมีรายละเอียด ท่านว่ามาเรียนรู้แล้วจะสนุก
เรื่องราวเหล่านี้ เราก็ค่อยเรียนรู้มา อาศัยเรื่องของการทำบุญทำทาน การสวดมนต์ ปฏิบัติในรอยทั่งสี่ของพระ เอามาฝึกหัด ท่านก็ให้ฝึกหัดหลายๆแบบ เรื่องเหมือนลมปราณ เรื่องต่างๆ ลองทำดู ..ท่านก็แนะให้ทดลองปฏิบัติ เรื่องของเจ้าที่(ไม่ใช่เรื่องศาลพระภูมิ คนละอย่างกัน) เรื่องหมอดูพลายกระฃิบมันเป็นอย่างไร
เรื่องมนตผ์ดำบทพระเวท ทำให้เกิดอะไร ท่านก็ค่อยอนะนำให้ศึกษาเรียนรู้ขึ้นมา ว่าเป็นอย่างไร ดีหรือไม่ดี ..ท่านให้เรียนรู้ขึ้น ..บางที่ก็ท้อถอย บางทีก็ใจแทบขาด ..แต่นั้นก็ทำให้เราได้เรียนรู้ ยิ่งเรื่องฤทธิ์นั้น อิทธิฤทธิ์โลกีย์ ท่านก็ให้เรียนรู้ว่ามันทำให้เกิดอะไร ทำไมมันถึงทำให้คนหลงใหลได้ บ้างก็เป็นโรคซึมเศร้า บ้านแตกสาแหรกขาด
ถามอะไรสร้างความเปลี่ยนแปลงคงยาก เพราะมีเรื่องหนึ่ง หากเราสร้างบุญกุศลบารมี มากเข้าๆ นิสัยที่ชอบหมกมุ่นอยู่กับกรรม มันก็จะค่อยจางหายไป สิ่งที่เคยใช้นิสัยเยี่ยงชนอันธพาล มันก็น้อยลงไป ความกักขฬะน้อยลง มันค่อยๆเปลี่ยน.. เปลี่ยนแปลงแบบที่เราก็ไม่รู้ตัว ..ว่าเราเปลี่ยนแปลงไป ..แต่นั้นก็จะรวมๆในคำว่า สร้างบุญกุศลบารมี คัดเอ้าท์กรรม หนีกรรม ยิ่งมารู้จักเรื่องความกตัญญูรู้คุณของกาย ก็ยิ่งระมัดระวัง ในการใช้กายมามากขึ้น
เหมือนว่า วันนี้ ฉันจะออกจากบ้านไปสร้างกรรม ตะโกนดังๆ วันนี้ข้าพเจ้าจะเอากายพ่อแม่ไปกินเหล้าเมายา เอากายพ่อแม่ไปด่าไปว่า ติเตียนคนนี้คนนั้น เราก็เลิก ..เลิกวิพากษ์วิจารณ์คนมีกรรม ไม่เอากรรมของร้อนมาคิดมานึกให้จิตเรามันร้อนไปตามกรรมของเค้า ..เราก็เลิก ..หันมาสอนตัวเองดีกว่า อย่าให้เราเป็นแบบเค้า ที่มุ่งมั่นสร้างกรรม ..เราก็หยุด
..ดูเค้าน้อยๆ มาดูตัวเองมากๆ..จับผิดตัวเราเอง ในเรื่องการเผลอใช้อารมณ์. ยับยั้งไม่ท่าน พูดอะไรพร่อยๆ ..ตัวเองก็มีแต่กรรม เรื่องราวทำนองนี้ เราก็อาศัยทบทวนตัวเองในเรื่องอารมณ์นึกคิด ที่เราใช้แต่ละวัน ..มีอะไรที่เผลอสติ เสียทีต่ออารมณ์ไปบ้าง เมื่อรู้ว่าพลาดพลั้ง ก็ขอขมา สอนตัวเองให้มีสติระมัดระวัง .การใช้กายให้มากขึ้น
โฆษณา