7 ก.พ. เวลา 10:49

Dive! - ร้านอาหารธีมเรือดำน้ำของสปีลเบิร์ก ดำดิ่งสู่ความล้มเหลว

“เตรียมตัวดำดิ่งสู่ท้องสมุทร!”
เสียงชายฉกรรจ์ดังผ่านระบบกระจายเสียง แสงไฟที่เคยสว่างจ้าถูกตัดลงลง พวกมันถูกแทนที่ด้วยแสงสีแดงกะพริบๆอันน่าสะพรึง ทุกจอวิดีโอดับสนิท ยกเว้นอันที่มีคำว่า DIVE อยู่บนนั้น และด้านนอกหน้าต่าง ฟองน้ำจำนวนมากก็ปรากฏออกมาพร้อมกับเสียงปุดๆ
ซึ่งทุกอย่างในข้อความด้านบน เกิดขึ้นในร้านอาหาร
Dive! คือชื่อของร้านอาหารแห่งนี้ และมันคือร้านอาหารธีมเรือดำน้ำ
ผู้ก่อตั้งของมันก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าธรรมดาที่ไหน แต่เป็น Steven Spielburg ผู้กำกับชื่อดังที่ฝากภาพยนต์สุดตราตรึงใจไว้มากมาย เช่น อี.ที.เพื่อนรัก (E.T. the Extra-Terrestrial) ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า (Indiana Jones) และ จูราสสิค พาร์ค (Jurassic Park)
Steven Spielburg กับ E.T. ผลงานชิ้นเอกของเขา
หากใครเป็นแฟนภาพยนต์ของผู้กำกับท่านนี้ อาจจะพอทราบว่า Spielburg นั้นเป็นผู้ชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับโลกใต้ท้องทะเล มันเป็นความชอบที่เริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่เขาในวัยเด็กได้อ่านนวนิยายเรื่อง ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ (20,0000 Leagues Under the Seas) และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างภาพยนต์เรื่อง จอว์ส (JAWS) ซึ่งสามารถสร้างรายได้ถึง 470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับคว้ารางวัลออสการ์มาครอบครองได้สำเร็จ
ทำให้ในปี 1993 Spielberg ตัดสินใจนำความชื่นชอบนั้นออกจากกรอบวงการภาพยนต์ เขาจับมือกับ Jeffrey Katzenberg ประธานบริษัท Walt Disney ในตอนนั้น เพื่อร่วมกันเปิดร้านอาหารในแคลิฟอร์เนีย และแน่นอนว่ามันต้องไม่ใช่ร้านอาหารธรรมดาๆ
แต่เป็นร้านอาหารธีมเรือดำน้ำ
มันไม่ใช่เรื่องประหลาดมากนักในตอนนั้น เพราะเทรนด์ร้านอาหารในธีมต่างๆกำลังมาแรง ยกตัวอย่างเช่น Hard Rock Cafe ร้านอาหารธีมร็อคแอนด์โรลที่หลายๆคนน่าจะรู้จัก กับ Planet Hollywood ที่พาแขกเข้าสู่โลกแสงสีเสียงแห่งฮอลลีวูดระหว่างรับประทานอาหาร
…แต่ร้านอาหารธีมเรือดำน้ำก็ยังคงประหลาดอยู่ดีนั่นแหละ
Spielberg กำเงินทุนประมาณ 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อที่จะเนรมิตร้านอาหารในฝันของเขาให้เป็นจริง และหนึ่งปีต่อมา Dive! ก็เปิดทำการแก่สาธารณะ
Dive! โดดเด่นสะดุดตาตั้งสถาปัตยกรรมภายนอก เพราะมันมีเรือดำน้ำสีเหลืองอันใหญ่โผล่มาจากตัวอาคาร และเมื่อเดินเข้าไปด้านใน แขกผู้มาเยือนก็จะได้พบกับการตกแต่งภายในที่ทำจากโลหะ แสงไฟสลัวๆที่เหมือนกับโลกใต้ทะเลในจินตนาการ ช่องหน้าต่างรูปวงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ของเรือดำน้ำ เก้าอี้บาร์ทรงระเบิดทอร์ปิโด และกล้องปริทรรศ์ที่ทำให้พวกเขาส่องเห็นทิวทัศน์อันงดงามภายนอกได้
Dive! สาขาที่หนึ่งในลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย (Century City Shopping Center)
ซึ่งนั่นยังไม่ใช่ไฮไลท์สำคัญที่สุดของ Dive! แต่เป็นการ “ดำน้ำ” ทุกๆ 45 นาทีจะมีเสียงประกาศบอกให้ผู้มาเยือนเตรียมตัวดำดิ่งสู่มหาสมุทร และหลังจากนั้นแสงไฟสีแดงก็จะสว่างขึ้น ตามมาด้วยน้ำที่ไหลท่วมช่องหน้าต่าง กับเสียงเครื่องยนต์ที่ดังผ่านระบบกระจายเสียง เพื่อให้แขกผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนกำลังดำดิ่งลงไปสู่ท้องสมุทร โดยทั้งหมดจะใช้เวลา 30 วินาที
“ดำดิ่งลงไปพบกับฝูงแซนด์วิชทรงเรือดำน้ำ (SUB) ผักสลัดจานยักษ์ (SUBstantial) พาสต้าสดๆ อาหารจานหลักที่หอมด้วยกลิ่นอบเตาถ่าน และของหวานที่จะทำให้น้ำลายสอ เพลิดเพลินไปกับอาหารเลิศรส (SUBlime) ในบรรยากาศแสนสนุกใต้ท้องทะเล (SUBmerged) ที่มีทั้งฟองสบู่ในบานหน้าต่าง วิดีโอการผจญภัยใต้น้ำ และกล้องปริทรรศ์ชมวิวแบบพาโนรามา”
คือคำโฆษณาร้าน ที่เน้นย้ำธีมอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา
Dive! ประสบความสำเร็จในช่วงแรก แขกผู้มาเยือนต่างชื่นชมรายละเอียดการตกแต่งของร้าน ที่สามารถแสดงความรักของ Spielburg แก่เรือดำน้ำกับโลกใต้ทะเลได้อย่างสมจริง บรรยากาศใต้ท้องทะเลดึงให้ลูกค้าแวะเวียนกันมาเยี่ยมชมร้านอาหาร และชื่อเสียงของ Spielburg ก็ชักชวนคนดังกับสื่อมวลชนต่างๆให้ตบเท้าเข้ามาสู่เรือดำน้ำจำลองนี้ จนนำไปสู่สาขาที่สองในลาสเวกัส พร้อมกับแผนเปิดสาขาอื่นๆทั่วโลก
ภายในร้านอาหาร Dive! ที่ดูเหมือนเครื่องเล่นในสวนสนุกมากกว่าร้านอาหาร
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ประทับใจ
“มีเสียงกระดิ่งกับนกหวีดตลอดเวลา มันเหมือนว่าคุณกำลังอยู่ในเครื่องเล่นพินบอล”
“เสียงเวลาดำน้ำมันค่อนข้างซ้ำซาก แถมเด็กๆก็ไม่มีสมาธิทานอาหารเลย”
“ร้านอาหารนี้ทำให้ฉันอับอายที่เกิดมาเป็นคนในยุค 90”
และรอยรั่วก็เริ่มปรากฏขึ้นในเรือดำน้ำสีเหลืองลำนี้
ร้านอาหารธีมนั้นมีรายจ่ายที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากการตกแต่งกับลูกเล่นต่างๆที่ร้านอาหารปกติไม่มี และพวกเขาก็จำเป็นต้องสร้างรายได้ผ่านช่องทางอื่นที่ไม่ใช้แค่การขายอาหาร ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่พวกเขามักนำมาขายให้กับเหล่าผู้มาเยือนก็คือ “ของที่ระลึก”
เป็นธรรมดาที่นักท่องเที่ยวมักจะอยากซื้อของไว้เป็นที่ระลึกเวลาเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ดังนั้นร้านอาหารธีม รวมไปถึง Dive! จึงแบ่งพื้นที่ในร้านไว้สำหรับขายของเหล่านั้นโดยเฉพาะ สินค้าที่ Dive! ขายให้กับเปล่าลูกค้ามีตั้งแต่ หมวก เสื้อ แก้ว ของเล่น จนไปถึงเสื้อคลุมหนังที่มีราคาสูงถึง 500 ดอลลาร์สหรัฐ! แน่นอนว่าทุกอย่างมาได้ธีมเรือดำน้ำ
ตัวอย่างของที่ระลึกลายเรือดำน้ำ
บางร้านอาหารสามารถสร้างรายได้มหาศาลจากของที่ระลึก โดยมีบางเจ้าซึ่งมีรายได้จากตรงนี้คิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด ทำให้การขายอาหารนั้นไม่ใช่ช่องทางรายได้หลักสำหรับบางร้าน เป็นแค่วิธีชักชวนให้ลูกค้าก้าวเข้ามาในร้านซะมากกว่า
Dive! สาขาลาสเวกัสเองก็มีรายได้จากของที่ระลึกสูงถึง 40% จากรายได้ทั้งหมด โดยมีลูกค้ามากกว่า 3,000 คนเดินผ่านประตูเรือดำน้ำมาใช้บริการต่อวัน
แต่สาขาดั้งเดิมที่แคลิฟอร์เนียกลับมีรายได้จากตรงนั้นแค่ 15% ของรายได้ทั้งหมด
สาเหตุหลักก็คือสถานที่ตั้งของ Dive! สาขาแคลิฟอร์เนียนั้นไม่ได้อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว แต่ตั้งโดดเด่นสะดุดตาอยู่กลางวงตึกบริษัทหน้าตาธรรมดาๆ
เมื่อนักท่องเที่ยวไม่ใช่ลูกค้าหลัก รายได้จากของที่ระลึกจึงหายไปด้วย ในขณะที่ลูกค้าซึ่งเป็นคนในบริเวณนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะซื้อของที่ระลึกราคาแพงธีมเรือดำน้ำ
เมื่อรายได้ไม่ถึงเป้า Dive! จึงไม่สามารถขยายสาขาต่อไปได้ และชื่อของมันก็ค่อยๆจางหายไปจากหน้าสื่อ ทำให้นักท่องเที่ยวยิ่งมาแวะเวียนน้อยลงไปอีก ส่วนกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นคนบริเวณนั้นก็ไม่กลับมาทานอาหารในเรือดำน้ำซ้ำ มันเป็นประสบการณ์ที่แค่ลองไปครั้งเดียวก็พอแล้ว
ปี 1999 Dive! สาขาดั้งเดิมในแคลิฟอร์เนียจัดงานเลี้ยงส่งท้ายให้กับพนักงาน
Spielberg ไม่ได้มาเข้าร่วมงานอำลานี้ด้วยซ้ำ
สาขาลาสเวกัสเป็นสาขาสุดท้ายของ Dive! แต่ภายในปี 2000 ลูกค้าที่มาเยี่ยมเยียนก็เบาบางลงอย่างหนัก จนพวกเขาก็จำเป็นต้องปิดลูกเล่นบางอย่างภายในร้าน เพื่อที่จะลดรายจ่าย ทำให้ภาพที่ Spielburg เคยวาดฝันไว้ไม่สามารถถูกถ่ายทอดออกมาได้แบบสมบูรณ์อีกต่อไป
จนในที่สุด ปลายปี 2000 เรือดำน้ำลำนี้ก็จมลงสู่พื้นสมุทรที่มีชื่อว่า “ล้มละลาย”
เรื่องราวของ Dive! เป็นนิทานสอนใจให้แก่ผู้ประกอบการต่างๆ ถึงแม้ว่าจะมีภาพฝันหรือความรักมากขนาดไหน แต่การจะผจญภัยในมหาสมุทรแห่งโลกธุรกิจนั้นเต็มไปด้วยความท้าทายมากมาย และทุกปัจจัยต่างส่งผลถึงอนาคตของธุรกิจนั้นเสมอ หากไม่คิดรอบคอบให้ถี่ถ้วน มันก็มีโอกาสสูงที่ธุรกิจนั้นจะจมลงสู่พื้นสมุทรแบบไม่มีทางลอยกลับขึ้นมาได้
และกลายเป็นซากอับปางอยู่ข้างเรือดำน้ำสีเหลืองของ Spielburg
โฆษณา