10 ก.พ. เวลา 04:01 • ประวัติศาสตร์

วีรกรรมก่อนขึ้นเป็นประธานาธิบดีของ “จอห์น เอฟ เคนเนดี้ (John F. Kennedy)”

“จอห์น เอฟ เคนเนดี้ (John F. Kennedy)” คือประธานาธิบดีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
หากแต่ย้อนกลับไปหลายปีก่อนที่เคนเนดี้จะขึ้นเป็นประธานาธิบดี เขาเคยเป็นวีรบุรุษสงครามในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เรื่องราววีรกรรมของเคนเนดี้เป็นอย่างไร ลองมาดูกันครับ
“จอห์น เอฟ เคนเนดี้ (John F. Kennedy)” เกิดในวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ.1917 (พ.ศ.2460) ที่สหรัฐอเมริกา และเรียกได้ว่าคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด
จอห์น เอฟ เคนเนดี้ (John F. Kennedy)
เขาเกิดมาในครอบครัวใหญ่ที่มีฐานะระดับมหาเศรษฐี มีพี่น้องหลายคน และเรียกได้ว่าไม่เคยต้องลำบากเรื่องเงินทองเลย
เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยหนุ่ม เคนเนดี้นั้นเริ่มให้ความสนใจในสถานการณ์โลก และก็เริ่มติดตามสถานการณ์สงครามโลกที่กำลังค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในยุโรป และก็ตั้งใจจะเข้าเป็นทหารรับใช้ชาติ
แต่ปัญหาที่ดูท่าจะฉุดรั้งไม่ให้เคนเนดี้เป็นทหาร นั่นก็คือปัญหาสุขภาพ ตัวเคนเนดี้นั้นป่วยกระเสาะกระแสะมาตั้งแต่เด็ก และเมื่อโตมาก็เป็นหอบหืด และยังมีอาการเจ็บหลังอีกด้วย
ด้วยความที่สุขภาพไม่ดีเช่นนี้ แน่นอนว่าทางกองทัพไม่ยอมรับเคนเนดี้ ซึ่งสำหรับคนทั่วๆ ไปแล้ว เรื่องก็น่าจะจบลงแค่นี้ แต่สำหรับเคนเนดี้แล้ว เขาไม่ยอมแพ้ และพ่อของเขา “โจเซฟ พี เคนเนดี้ ซีเนียร์ (Joseph P. Kennedy Sr.)” ก็ไม่ใช่คนธรรมดา
2
โจเซฟ พี เคนเนดี้ ซีเนียร์ (Joseph P. Kennedy Sr.)
นอกจากจะเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวย โจเซฟ ซีเนียร์นั้นยังเรียกได้ว่า “เส้นใหญ่” อีกด้วย นอกจากจะทำธุรกิจแล้ว เขายังเป็นอดีตเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหรัฐอเมริกาประจำสหราชอาณาจักร ทำให้โจเซฟ ซีเนียร์นั้นมีมิตรสหายที่เป็นคนใหญ่คนโตมากมาย โจเซฟ ซีเนียร์จึงใช้เส้นสายดันจอห์น เคนเนดี้เข้ากองทัพจนได้
ในปีค.ศ.1943 (พ.ศ.2486) เคนเนดี้ได้เข้าร่วมกับกองทัพเรือและได้ประดับยศร้อยโท มีหน้าที่บังคับการเรือตอร์ปิโดที่เรียกว่า “PT-109” และถูกส่งไปรบในแปซิฟิก
ชีวิตในกองทัพเรือของเคนเนดี้นั้นเป็นชีวิตที่หนักหนาสำหรับลูกคนรวยอย่างเคนเนดี้ แต่เคนเนดี้ก็ไม่เคยใช้อภิสิทธิใดๆ เขาต้องทำงานและช่วยงานกองทัพไม่ต่างจากทหารคนอื่นๆ
2
เคนเนดี้บนเรือ PT-109
ในช่วงเวลาหลายเดือนของปีค.ศ.1943 (พ.ศ.2486) เคนเนดี้และลูกเรือ PT-109 ต้องขับเรือลาดตระเวนในเวลากลางคืนรอบๆ เกาะโซโลมอน และแล้วในวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ.1943 (พ.ศ.2486) ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เคนเนดี้กลายเป็นวีรบุรุษในเวลาต่อมา
เวลาราว 2:30 น. หนึ่งในลูกเรือได้ตะโกนออกมาว่า
“มีเรือทางสองนาฬิกา”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เคนเนดี้ซึ่งกำลังควบคุมเรือก็รีบหันหัวเรือโดยเร็ว และก็พบเรือรบญี่ปุ่นลำใหญ่กำลังเข้ามาใกล้ และก็สายไปแล้ว เรือรบญี่ปุ่นได้เข้าชนและทำให้เรือ PT-109 ของเคนเนดี้หักออกเป็นสอง
ความรุนแรงจากการปะทะทำให้เคนเนดี้กระเด็นไปชนกับห้องบังคับการ ทำให้หลังของเขาที่ไม่ดีอยู่แล้วยิ่งแย่ลงไปอีก และถึงแม้เคนเนดี้จะรอด แต่ลูกเรือของเคนเนดี้ก็ได้เสียชีวิตไปสองนาย
1
เคนเนดี้ตะโกน “ใครยังอยู่บนเรือบ้าง?” และก็มีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดกลับมา ทำให้เคนเนดี้ทราบว่าลูกเรือส่วนใหญ่ยังคงอยู่บนซากเรือ และหนึ่งในนั้น ก็คือ “แพทริค เฮนรี แม็คแมน (Patrick Henry McMahon)” ซึ่งถูกไฟคลอก ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เคนเนดี้ได้ว่ายน้ำฝ่าความมืดเข้าไปยังซากเรือ PT-109 อีกฝั่ง และเอาตัวแม็คแมนขึ้นหลัง ใช้ฟันกัดเชือกเสื้อชูชีพของแม็คแมนไว้ แบกไว้บนหลังอย่างนั้น ว่ายน้ำข้ามไปสู่จุดที่ปลอดภัย นำทางทหารที่รอดชีวิตรายอื่นๆ ไปยังซากเรืออีกฝั่ง
เมื่อตะวันขึ้นฟ้า เคนเนดี้ก็โล่งใจได้ไม่นานเนื่องจากพวกตนนั้นยังคงเคว้งอยู่กลางแม่น้ำ และดูท่าว่าความช่วยเหลือก็ไม่ได้จะมาถึงในเร็วๆ นี้
แพทริค เฮนรี แม็คแมน (Patrick Henry McMahon)
เคนเนดี้ได้ถามเหล่าทหารว่า
“เอาล่ะ พวกนายอยากทำอะไร?”
ทหารนายหนึ่งตอบว่า
“ทุกอย่างที่คุณสั่งเลยคุณเคนเนดี้ คุณเป็นหัวหน้านี่”
เคนเนดี้ตระหนักดีว่าตนและเหล่าทหารคงจะลอยอยู่กลางแม่น้ำอย่างนี้ตลอดไปคงจะไม่ได้ หนึ่งก็คือซากเรือ PT-109 อีกด้านที่ตนและทหารอยู่ก็กำลังค่อยๆ จมลงเรื่อยๆ อีกข้อก็คือ เรือและเครื่องบินญี่ปุ่นก็คงจะเริ่มออกลาดตระเวนในเวลาอีกไม่นาน ดังนั้นต้องทำอะไรซักอย่าง
แต่แล้วเคนเนดี้ก็สังเกตเห็นผืนดินเล็กๆ ห่างออกไป
เคนเนดี้กล่าวว่า
“พวกเราจะว่ายน้ำไปยังเกาะเล็กๆ นั่น”
ถึงแม้ว่าจะบาดเจ็บที่หลัง แต่เคนเนดี้ก็เอาแม็คแมนขึ้นหลัง ใช้ฟันกัดเชือกเสื้อชูชีพของแม็คแมน และว่ายน้ำเป็นเวลา 4-5 ชั่วโมงนำทางทหารคนอื่นๆ ไปยังเกาะที่ห่างไกลออกไป
เมื่อมาถึงเกาะ เคนเนดี้ก็อ้วกน้ำทะเลออกมาเป็นจำนวนมาก ก่อนจะสลบไปเนื่องจากความเหนื่อยล้า
คืนแรกบนเกาะ เคนเนดี้ได้ถือตะเกียงและว่ายน้ำออกไปยังกลางมหาสมุทรด้วยหวังว่าจะมีเรือลาดตระเวนฝั่งตนมาเห็น หากแต่ก็ยังไม่เป็นผล ดังนั้น เช้าวันต่อมา เคนเนดี้และลูกเรือจึงต้องว่ายน้ำไปยังเกาะอื่น ซึ่งเคนเนดี้ก็เอาแม็คแมนขึ้นหลังเช่นเดิม
ในที่สุด 5 สิงหาคม ค.ศ.1943 (พ.ศ.2486) เคนเนดี้และลูกเรือก็พบกับชนพื้นเมืองที่เป็นมิตร เคนเนดี้จึงสลักข้อความขอความช่วยเหลือลงบนกะลามะพร้าว ซึ่งกะลามะพร้าวนี้ก็สามารถลอยไปถึงฐานที่มั่นฝั่งอเมริกันซึ่งอยู่ไม่ไกล ทำให้ความช่วยเหลือมาถึงในไม่ช้า
เมื่อขึ้นมาบนเรือช่วยเหลือ ทหารบนเรือบอกกับเคนเนดี้ว่าพวกตนนั้นมีอาหาร หากหิวก็ขออาหารได้ ซึ่งเคนเนดี้ก็ตอบว่า
“ไม่เป็นไร ขอบคุณ ผมเพิ่งกินมะพร้าวมา”
วีรกรรมนี้ของเคนเนดี้ทำให้เคนเนดี้ได้รับการยกย่องและได้รับเหรียญกล้าหาญพร้อมทั้งเกียรติยศจากกองทัพเรือมากมาย และอีกสามปีต่อมา วีรกรรมในกองทัพเรือของเคนเนดี้ก็ช่วยให้เคนเนดี้เข้าสู่การเมือง เมื่อมีนักเขียนได้เขียนเรื่องราวของเคนเนดี้ลงหนังสือพิมพ์และนิตยสาร
แต่ถึงแม้สงครามจะช่วยอัพโปรไฟล์ให้เคนเนดี้ แต่ในอีกด้าน ก็ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปเช่นกัน นั่นก็คือพี่ชายของเคนเนดี้ที่ชื่อ “โจเซฟ พี เคนเนดี จูเนียร์ (Joseph P. Kennedy Jr.)” ได้เสียชีวิตในสงคราม
โจเซฟ จูเนียร์นั้นเป็นผู้ที่โจเซฟ ซีเนียร์ตั้งความหวังว่าจะให้ลงการเมืองและเป็นประธานาธิบดี หากแต่ในเมื่อโจเซฟ จูเนียร์ไม่อยู่แล้ว ความคาดหวังทั้งหมดจึงตกมาสู่จอห์น เอฟ เคนเนดี้
โจเซฟ พี เคนเนดี จูเนียร์ (Joseph P. Kennedy Jr.)
เคนเนดี้ลงเลือกตั้งสภาคองเกรสในปีค.ศ.1946 (พ.ศ.2489) ซึ่งเคนเนดี้ก็ได้กล่าวแก่ผู้เป็นพ่อว่า
“หากโจ (โจเซฟ จูเนียร์) ยังมีชีวิตอยู่ ผมก็ไม่ต้องมาทำอะไรอย่างนี้”
และด้วยชื่อเสียงด้านบวกจากวีรกรรมในสงคราม ทำให้เคนเนดี้เป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามอง และหลังจากชนะเลือกตั้งในสภาคองเกรส เคนเนดี้ก็ขยับไปชนะเลือกตั้งวุฒิสภา
ในปีค.ศ.1960 (พ.ศ.2503) เคนเนดี้ลงเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยแข่งขันกับ “ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon)” ซึ่งตัวนิกสันเองนั้นก็เคยอยู่ในกองทัพเรือเช่นเดียวกับเคนเนดี้ หากแต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อเสน่ห์และคาริสม่าของเคนเนดี้ ทำให้ประชาชนต่างเลือกเคนเนดี้
ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon)
เคนเนดี้ได้เป็นประธานาธิบดีในเดือนมกราคม ค.ศ.1961 (พ.ศ.2504) และในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1963 (พ.ศ.2506) เพียงไม่กี่เดือนก่อนถูกสังหาร เคนเนดี้ได้เขียนลงในบันทึกว่า
“ใครก็ตามในศตวรรษนี้ที่ถูกถามว่าเขาทำอะไรบ้างเพื่อให้ชีวิตตนเองนั้นมีค่า ผมคิดว่าผมสามารถตอบได้ด้วยความภาคภูมิใจและพอใจ นั่นก็คือผมได้รับราชการอยู่ในกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา”
เรียกได้ว่าเหตุการณ์วีรกรรมของเคนเนดี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นหนึ่งเหตุการณ์ที่เรียกได้ว่าเฉิดฉายมากที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิตเขาเลยก็ว่าได้
โฆษณา