9 ก.พ. เวลา 11:57 • กีฬา

ลินการ์ด-เอฟซี โซล : การร่วมงานกันภายใต้ความสัมพันธ์แบบ "ให้ใจมา ให้ใจกลับ"

นับเป็นเรื่องฮือฮาอยู่ไม่น้อย เมื่อ เจสซี่ ลินการ์ด อดีตนักเตะมากดีกรีของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและทีมชาติอังกฤษ ตัดสินใจบินข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาโลดแล่นในลีกอาชีพที่เกาหลีใต้ อย่างศึกเคลีก 1 กับสโมสร เอฟซี โซล
ท่ามกลางคำถามชวนฉงนทั้งที่ว่าทำไมอดีตดาวสร้างปีศาจแดงถึงเลือกทิ้งโอกาสของตัวเองในเวทีลูกหนังยุโรปในวัย 31 ปี เพื่อมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในดินแดนแถบคาบสมุทรเกาหลี แถมยังมีเรื่องค่าเหนื่อยที่ใครหลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาได้รับน้อยกว่าที่เคย ตลอดจนคำถามชวนคิดต่อว่าวงการฟุตบอลลีกอาชีพเกาหลีใต้ได้อะไรจากดีลนี้
ร่วมวิเคราะห์และหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันได้ที่ Main Stand
สถานะแข้งร้างสนามครึ่งปี
เจสซี่ ลินการ์ด กลายเป็นนักเตะไร้สังกัดชนิดกินเวลากว่าครึ่งปี หลังหมดสัญญากับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ช่วงสิ้นสุดซีซั่น 2022-23 และจากนั้นทีมเจ้าป่าก็เลือกไม่ขยายสัญญาใหม่ให้
เหตุผลหลักที่ทำให้ เจสซี่ ลินการ์ด ไม่ได้รับการยืดสัญญาออกไป สามารถวัดได้จากผลงานโดยรวมของขวบปีของเขาในถิ่น ซิตี้ กราวด์ เพราะลินการ์ดไม่สามารถยิงประตูหรือทำแอสซิสต์ได้เลย ตลอดการลงเล่นทั้งหมด 17 เกมในพรีเมียร์ลีก แถมยังมีค่าเหนื่อยติดตัวที่สูงราว 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ทันทีที่เป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ กอปรกับการเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์ในวงการฟุตบอลมาโชกโชน แถมยังมีดีกรีติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ถึง 32 เกมติดตัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะกลายเป็นแข้งเนื้อหอมที่มีข่าวพัวพันกับทีมน้อยใหญ่ทั่วยุโรป
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ตลาดซื้อขายนักเตะรอบซัมเมอร์ 2023 ปิดตัวลง ไม่ว่า เจสซี่ ลินการ์ด จะมีข่าวโยงกับทีมใดก็ตาม ท้ายสุดไม่มีทีมใดที่ได้ลายเซ็นของเขาไปครอง นั่นหมายความว่า อดีตเด็กสร้างของแมนฯ ยูไนเต็ดผู้นี้ ได้กลายสถานะเป็นนักเตะที่ไม่มีทีมเล่นอย่างน้อยก็ช่วงครึ่งซีซั่นแรกของปีปฏิทิน
จริงอยู่ที่นักเตะในข่ายเดียวกับลินการ์ดยังมีสิทธิ์ได้รับสัญญาอาชีพหากมีทีมใดทีมหนึ่งสนใจสอยร่วมก๊วน ทว่ากับพรีเมียร์ลีกนั้นมีเงื่อนไขที่ซับซ้อนไปขั้นหนึ่ง เพราะฝ่ายจัดการแข่งขันลีกกำหนดให้แต่ละทีมต้องลงทะเบียนนักเตะ 25 คน แล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 13 กันยายน ไม่เช่นนั้นจะต้องรอตลาดซื้อขายหน้าหนาวเปิดในช่วงเดือนมกราคมถึงจะสามารถลงทะเบียนผู้เล่นเพิ่มเติมได้
ด้วยเหตุนี้ ในรายของลินการ์ด ที่มีข่าวกับทีมในพรีเมียร์ลีกมากที่สุด จึงไม่อาจปิดดีลกับทีมใดลงได้ และแม้ว่าเกมบุกวัย 31 ปี จะเคยฝึกซ้อมกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นอีกทีมเก่าของเขา เป็นเวลาหลายสัปดาห์ในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล แต่ เดวิด มอยส์ กุนซือขุนค้อน เคยยืนยันอยู่บ่อย ๆ ว่าดีลนี้จะไม่เกิดขึ้น
เวลาต่อจากนั้น ลินการ์ดใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการฝึกซ้อมกับ อัล อิตติฟาค สโมสรจากซาอุดีอาระเบีย ที่มี สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นกุนซือ ท่ามกลางข่าวลืออีกหลายระลอกว่าจะโยกมาโกยเงินที่ลีกซาอุฯ ทว่าการเคลื่อนไหวดีลซื้อขายนี้ก็ไม่ได้ออกมาเป็นรูปธรรม
เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะกระแสข่าวกับ เอฟเวอร์ตัน หรือ บาร์เซโลน่า จะโหมหนักในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคม 2024 มากเพียงใด แต่ที่สุดมันก็เป็นเพียงเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
เป็นเหตุให้ นับแต่วันที่ 16 เมษายน 2023 ที่ซึ่ง เจสซี่ ลินการ์ด ลงเล่นเกมสุดท้ายกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (ลงเล่นราว 2 นาที) แถมยังเป็นการดวลต้นสังกัดเก่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และฟอเรสต์แพ้ไป 0-2 อดีตแข้งทีมชาติอังกฤษผู้นี้ก็ไม่ได้ลงสนามในเกมทางการอีกเลย
กระทั่งเกิดข่าวฮือฮารับเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เมื่อสื่อกีฬาน้อยใหญ่ ตลอดจนผู้สันทัดกรณี รายงานเป็นเสียงเดียวกันว่า เจสซี่ ลินการ์ด ตกลงปลงใจกับเส้นทางใหม่ในอาชีพฟุตบอลด้วยการก้าวเข้ามาเล่นในลีกฟุตบอลอาชีพที่ประเทศเกาหลีใต้ กับสโมสร เอฟซี โซล
เมื่อเอฟซี โซล "จริงใจและจริงจัง"
"ด้วยความเคารพที่มีต่อวงการฟุตบอลเกาหลี ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเคลีกโดยเร็วที่สุด ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและพร้อมเต็มที่เพื่อทีมใหม่ของผม เอฟซี โซล ผมตั้งตารอร่วมงานกับโค้ช คิม กี-ดง และพร้อมสร้างอิมแพคต์ให้ทีมครับ"
8 กุมภาพันธ์ 2024 คือวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ เจสซี่ ลินการ์ด กับ เอฟซี โซล โดยทีมดังแห่งเมืองหลวงของเกาหลีใต้ มอบสัญญาอาชีพให้ลินการ์ดอยู่ที่ 2 ปี พ่วงออปชั่นต่อไปอีก 1 ปี พร้อมค่าเหนื่อยที่สื่อเกาหลีใต้รายงานเป็นเสียงเดียวกันว่าลินการ์ดได้รับอยู่ที่ 17,500 ปอนด์ หรือเกือบ 800,000 บาท ต่อสัปดาห์ เป็นตัวเลขที่ส่งให้ เจสซี่ ลินการ์ด กลายเป็นผู้เล่นที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดในเคลีกด้วย
แม้จะกลายเป็นแข้งค่าเหนื่อยสูงสุดของลีกสูงสุดแดนกิมจิก็จริง แต่หากพิจารณาค่าเหนื่อยที่ได้รับตามรายงาน ก็จะพบว่าเป็นมูลค่าที่น้อยกว่าที่เขาเคยได้รับจากทีมพรีเมียร์ลีกแบบหลายเท่าตัว
ยิ่งไปกว่านั้น ลินการ์ดยังโดนตั้งคำถามจากคอลูกหนังแบบพร้อมเพรียงว่า ทำไมเขาถึงย้ายมาเล่นในลีกอาชีพที่ทวีปเอเชีย แถมเป็นลีกที่ไม่ได้รับความนิยมในระดับสากลอย่างเคลีก
ซึ่งคนที่จะให้คำตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุด ก็คือตัวของลินการ์ดเอง ดังการให้สัมภาษณ์ใหญ่ต่อหน้าสื่อมวลชนภายใน โซล เวิลด์ คัพ สเตเดี้ยม ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้เปิดตัวกับทีมไปไม่กี่ชั่วโมง
มีช่วงหนึ่งของการเปิดใจผ่านงานแถลงข่าว ลินการ์ดยอมรับว่ามีข้อเสนอจากหลาย ๆ ทีมยื่นเข้ามาที่ตัวเขาจริงในตลอดซัมเมอร์ที่แล้ว (2023) แต่หลายทีมที่ติดต่อเข้ามา กลับปรากฏลักษณะเพียงการพูดปากเปล่าเท่านั้น ไม่ได้มีการยื่นรายละเอียดเข้ามาแบบจริงจัง
อย่างไรเสีย มีทีมหนึ่งที่จริงจังมากที่สุด ก็คือ "เอฟซี โซล"
"พวกเขา (เอฟซี โซล) บินไปถึงแมนเชสเตอร์เพื่อดูผมฝึกซ้อม และพวกเขาก็มาพร้อมสัญญาที่ได้เตรียมไว้อยู่แล้ว จากใจผมเลยนะ ผมตัดสินใจได้เลยว่าอยากจะไปเล่นที่ไหน ความมุ่งมั่นของ เอฟซี โซล แสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องการผมมากแค่ไหน เท่านี้ก็เหมาะสมกับผมแล้ว กับการตอบแทนเรื่องพวกนี้ และเลือกมาที่สโมสร"
"ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความเห็นของตัวเอง ผมรู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับตัวผม และอะไรดีที่สุดสำหรับอาชีพการงานของผม"
ความสัมพันธ์แบบ "ให้ใจมา ให้ใจกลับ"
เมื่อ เอฟซี โซล แสดงความตั้งใจจริงกับการเซ็นสัญญา เจสซี่ ลินการ์ด ดาวเตะที่ผ่านประสบการณ์ลงเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้วถึง 232 นัด รวมทุกรายการ
ผลตอบรับสืบเนื่องของเขาที่เลือกปฏิบัติต่อสโมสรในช่วงเวลาต่อจากนี้ ก็คือความตั้งใจจริงของเขาต่อสโมสร ดังปรากฏผ่านบทสัมภาษณ์ในช่วงแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ล้วนแต่มีความจริงใจและเปิดเผย
"ผมรอการกลับมาลงสนามและคว้าแชมป์ร่วมกับ เอฟซี โซล เพราะใจผมคือผู้ชนะและพร้อมจะต่อสู้ และผมอยากจะคว้าแชมป์ในขณะที่ผมอยู่ที่นี่"
"ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เพราะมันเป็นความท้าทายใหม่ของผม เป็นบทบาทใหม่ในอาชีพการงานของผม ผมแค่อยากสนุกกับการเล่นฟุตบอลอีกครั้งและสร้างรอยยิ้มให้แฟน ๆ และแสดงให้แฟนบอลเกาหลีเห็นถึงสิ่งที่ผมสามารถทำได้"
ไปจนถึงการยอมรับว่า ณ เวลานี้ เขายังต้องเรียกความฟิตของตัวเองอีกนิด เพราะขาดแมตช์การเล่นร่วมหลายเดือน
"ในเรื่องของความฟิตสมบูรณ์ ผมยังห่างกับเรื่องพวกนี้อีกนิดหน่อยครับ ผมดูแลร่างกายตัวเองเป็นอย่างดี ผมเข้ายิมเป็นประจำ กินอาหารที่เหมาะสม ไม่ดื่ม (แอลกอฮอล์) ผมแค่อยากจะเตรียมตัวเองให้พร้อม แล้วตามไปสมทบกับทีมที่ญี่ปุ่น (เอฟซี โซล เก็บตัวพรีซีซั่นที่ญี่ปุ่น)"
เช่นเดียวกับความตั้งใจจริงกับการแยกแยะระหว่างเรื่องธุรกิจส่วนตัวที่ตนเองมีอยู่ อย่างแบรนด์เสื้อและทีมอีสปอร์ต ที่ชื่อ "JLINGZ" กับเกมการแข่งขัน โดยลินการ์ดยืนกรานว่า การมา เอฟซี โซล ครั้งนี้ เขาขอโฟกัสเรื่องฟุตบอลเป็นอันดับแรก
"ผมแยกฟุตบอลกับธุรกิจออกจากกันครับ ฟุตบอลต้องมาก่อน สิ่งสำคัญของผมก็คือการเล่นฟุตบอล"
"การทำผลงานในสนามออกมาให้ดี ชนะการแข่งขัน ช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด นั่นคือเหตุผลที่ผมย้ายมาที่นี่ แล้วที่เหลือมันจะตามมาเอง อย่างเรื่องอีสปอร์ต ผมรู้ว่าที่นี่ (เกาหลีใต้) เติบโตมาก ในอนาคตอาจจะพูดถึงเรื่องนี้กัน แต่สำหรับตอนนี้ โฟกัสทุกอย่างอยู่ที่เรื่องฟุตบอลเท่านั้น"
สโมสรและเคลีก ได้อะไรจากดีลนี้
กับการย้ายมาเล่นในเกาหลีใต้ของ เจสซี่ ลินการ์ด ซึ่งเป็นการโลดแล่นในลีกต่างแดนหนแรกของเจ้าตัวด้วย แน่นอนว่าสปอตไลท์ย่อมสาดส่องมาที่ตัวเขาเข้าเต็มเปา ดังปรากฏได้จากทั้งกระแสความเห็นบนช่องทางออนไลน์ ไปจนถึงการต้อนรับของแฟนบอลชาวเกาหลีใต้กว่า 200 คน ตั้งแต่ที่สนามบินนานาชาติอินชอน
เมื่อลองตั้งคำถามปลายเปิดว่า ทั้ง เอฟซี โซล รวมถึง เคลีก จะได้อะไรจากการเข้ามาของอดีตดาวเด่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็จะพบจุดน่าสนใจมากมายที่ออกมาในทิศทาง "บวก" มากกว่า "ลบ"
เริ่มจาก เอฟซี โซล นอกจากจะกลายเป็นทีมที่สื่อกีฬาต่างชาติหลายสำนักเลือกนำเสนอและบอกเก้าเล่าสิบถึงประวัติสโมสรแล้ว การมาของลินการ์ดย่อมสร้างมูลค่าการตลาดให้สโมสรด้วยอีกทางหนึ่ง ยกตัวอย่างง่าย ๆ ในสมัยที่ เอฟซี โซล เคยมีนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์มาโลดแล่น สโมสรมักจะออกสินค้าที่ระลึกเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะนักฟุตบอลคนนั้น ๆ อยู่เสมอ
ส่วนเรื่องในสนาม การเข้ามาของลินการ์ด ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของ เอฟซี โซล ก่อนสู้ศึกเคลีก 1 ฤดูกาล 2024 กับความตั้งใจลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดอย่างเต็มตัว หลังจากที่สโมสรร้างความสำเร็จนี้มานานเป็นเวลากว่า 7 ปีเต็ม
นอกจากยอดทีมแห่งเมืองหลวงเกาหลีใต้จะดึง เจสซี่ ลินการ์ด มาสร้างสรรค์เกมบุกแล้ว พวกเขายังทุ่มทุนเพื่อเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่เพื่อผลงานในสนาม ไล่มาตั้งแต่การแต่งตั้งโค้ชใหม่ คิม กีดง กุนซือผู้เคยพา โพฮัง สตีลเลอร์ส คว้ารองแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2021 และพาทีมฉายา "เหล็กกล้า" เกาะอันดับท็อปของเคลีก 1 หลายปี มากุมบังเหียนในซีซั่นใหม่ 2024 ไปจนถึงรื้อเครื่องนักเตะต่างชาติบางส่วน เช่น นักเตะอย่าง ออสมาร์ อิบันเญซ ที่แฟนบอลไทยคุ้นเคยสมัยเล่นให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อำลาทีมหลังอยู่ค้าแข้ง 9 ปีเต็ม
เช่นเดียวกัน ทางเคลีกเองก็ย่อมได้อานิสงค์หลังการมาของ เจสซี่ ลินการ์ด เข้าเต็ม ๆ โดยเฉพาะเรื่องการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ลีกสูงสุดของประเทศกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก "มากกว่าเดิม"
"สำหรับผมนะ มันสมบูรณ์แบบเลยกับการมาเล่นในเคลีก และทำให้เคลีกมีความเป็นสากลมากกว่าที่เป็นในเวลานี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเล่นฟุตบอล นั่นคือสิ่งที่ผมอยากทำมากที่สุด คือกลับมาลงสนาม และทำให้ทุกคนเห็นว่าผมทำอะไรได้บ้าง" ลินการ์ด ตอบคำถามของ ซอ โบ วอน นักข่าวสายฟุตบอลแดนกิมจิ ที่ถามถึงความตั้งใจของตัวเองกับการมาเล่นเคลีก
ท่ามกลางมรสุมจากสื่อสังคมออนไลน์ที่มีต่อตัวของ เจสซี่ ลินการ์ด ซี่งมีทั้งการวิจารณ์แบบสนุกสนาน ไปจนถึงการตั้งแง่ไว้ก่อนว่าดาวเตะรายนี้น่าจะมาพักผ่อน ทำกิจกรรมสันทนาการ ไปจนถึงการให้ความสำคัญกับธุรกิจส่วนตัวมากกว่าเรื่องฟุตบอล
อาจเพราะทุกคนมีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นเป็นวงกว้าง นำมาซึ่งการวิจารณ์ที่เกิดขึ้นได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ นี่คือสิ่งที่ลินการ์ดเจอมาตลอดเส้นทางนักเตะอาชีพ ดังพฤติกรรมในอดีตที่เขาเคยจารึกไว้
ถึงตอนนี้เจสซี่ ลินการ์ด กลับมานับหนึ่งใหม่บนเส้นทางฟุตบอลอีกครั้ง ส่วนอนาคตจะออกมาหน้าไหน ก็คงจะขึ้นอยู่กับผลงานและการกระทำในสนามเป็นสำคัญ
บทความโดย พชรพล เกตุจินากูล
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา