10 ก.พ. เวลา 02:45 • สุขภาพ

"โนโรไวรัส" ตัวการลำไส้อักเสบในเด็ก

ระยะนี้ในโรงพยาบาลต่างๆ มีเคสท้องเสียบ่อยขึ้น ที่แปลกก็คือทั้งที่ผ่านปีใหม่มาสักพักแล้ว และไม่ได้มีเทศกาลอะไร แถมส่วนใหญ่ผู้ป่วยก็เป็นเด็กถึงวัยรุ่น สิ่งนี้น่ากลัวอย่างไร?
โนโรไวรัส (Norovirus) เป็นอึกหนึ่งความหนักใจของพ่อแม่ผู้ปกครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายๆหน้าหนาวแบบนี้ มักจะพบได้บ่อยมากขึ้นเนื่องจากโนโรไวรัสติดต่อได้ง่ายยิ่งขึ้นในสภาพอากาศเย็น โนโรไวรัสจะทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบในระบบทางเดินอาหาร มีระยะฟักตัว 12-48 ชั่วโมงหลังจากได้รับเชื้อ ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว
1
โนโรไวรัสจะปนเปื้อนในอาหารและน้ำดื่ม รวมไปถึงการติดต่อจากการสัมผัสตัวผู้ป่วยโดยตรง หรือสิ่งของของผู้ป่วย ทำให้เกิดอาการท้องเสีย หรืออาเจียน ในผู้ป่วยบางรายจะมีอาการไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว และถ่ายเหลวเป็นน้ำ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย ในรายที่มีอาการรุนแรงซึ่งมักเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจมีภาวะขาดสารน้ำอย่างมาก ถ่ายเหลวรุนแรงต่อเนื่อง เกิดภาวะช็อค ความดันโลหิตต่ำ และเสียชีวิตได้
แม้จะพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็ก ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยรุ่นตอนต้น แต่จริงๆแล้วโนโรไวรัสสามารถติดเชื้อได้ในทุกช่วงวัย แต่เนื่องจากเด็กเล็กมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าผู้ใหญ่จึงทำให้มีอาการรุนแรงมากกว่า ในผู้ใหญ่อาจมีอาการเหมือนท้องเสียเล็กน้อย แต่จะแสดงอาการรุนแรงมากกว่าในเด็ก
ความโกงของโนโรไวรัสก็คือ ตัวมันเป็นไวรัสแบบ non-enveloped อยู่ในกลุ่ม single-stranded, positive-sense RNA virus ซึ่งมีความถึกทนเป็นอย่างมาก
น้ำยาฆ่าเชื้อนรือแอลกอฮอล์ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ จึงต้องป้องกันการติดเชื้อด้วยการ
ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ ให้สะอาดบ่อย ๆ โดยล้างให้นานอย่างน้อย 20 วินาที หลังการเข้าห้องน้ำ หรือเปลี่ยนผ้อ้อมเด็กและก่อนทำอาหารหรือก่อนรับประทานอาหาร รวมถึงการรับประทานอาหารที่สุก สะอาด ดื่มน้ำที่สะอาดและใช้ช้อนกลางหากต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
1
ในปัจจุบันการรักษาลำไส้อักเสบจากโนโรไวรัสปัจจุบันยังไม่มียาเฉพาะเจาะจงในการขจัดเชื้อไวรัสนี้อีกทั้งยังไม่มีวัคซีนในการป้องกัน การรักษาจึงเป็นการดูแลตามอาการ และส่วนใหญ่อาการต่างๆจะดีขึ้นได้ในเวลา 3-4 วันในรายที่อาการไม่รุนแรง ก็ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ (โอ อาร์ เอส) หรือที่เรียกกันว่า เกลือซอง สำหรับดื่มในกรณีที่มีอาเจียนและท้องเสียทานอาหารอ่อน และ ให้ยาแก้อาเจียน ยาแก้ปวดท้อง ตามอาการ
ดังนั้น หากลูกหลาน หรือกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว มีอาการท้องเสียรุนแรง ควรรีบมาพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องต่อไป
อ้างอิง
โฆษณา