Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
13 ก.พ. 2024 เวลา 03:58 • ประวัติศาสตร์
“พระเจ้าอีวานผู้เหี้ยมโหด (Ivan the Terrible)” พระประมุขผู้โหดเหี้ยมแห่งรัสเซีย
“พระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 วาซิลเยวิช (Ivan IV Vasilyevich)” หรือที่นักประวัติศาสตร์ได้ถวายสมัญญานามให้ว่า “พระเจ้าอีวานผู้เหี้ยมโหด (Ivan the Terrible)” เป็นพระประมุขที่เป็นที่ร่ำลือองค์หนึ่งของรัสเซีย
1
พระองค์ทรงรวบอำนาจไว้สูงสุดมากกว่าพระประมุของค์อื่นๆ อีกทั้งพระองค์ยังมีชื่อเสียงจากความโหดร้ายที่ทรงกระทำต่อศัตรูหรือแม้แต่ประชาชนของพระองค์เอง
เรื่องราวของพระองค์เป็นอย่างไร ลองมาดูกันครับ
พระเจ้าอีวานผู้เหี้ยมโหด (Ivan the Terrible)
“พระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 วาซิลเยวิช (Ivan IV Vasilyevich)” หรือ “พระเจ้าอีวานผู้เหี้ยมโหด (Ivan the Terrible)” เสด็จพระราชสมภพที่รัสเซียในปีค.ศ.1530 (พ.ศ.2073) โดยเป็นพระราชโอรสใน “เจ้าชายวาซิลีที่ 3 แห่งรัสเซีย (Vasili III of Russia)”
ในเวลานั้น รัสเซียยังแบ่งเป็นแว่นแคว้นต่างๆ และหน้าที่ของเจ้าชายก็คือการเก็บรวบรวมภาษีเพื่อส่งให้มองโกล ซึ่งครองอำนาจเหนือรัสเซีย
เหล่าขุนนางรัสเซียหรือที่เรียกกันว่า “โบยาร์ (Boyar)” ต่างก็ขูดรีดชาวนาชาวไร่ และเหล่าดยุกหรือเจ้าผู้ครองแคว้นต่างๆ ก็ไม่ได้สนใจที่จะขับไล่พวกมองโกล ต่างก็หวงและเกรงว่าจะเสียอำนาจและผลประโยชน์
เจ้าชายวาซิลีที่ 3 แห่งรัสเซีย (Vasili III of Russia)
พระราชบิดาของเจ้าชายอีวานสวรรคตในปีค.ศ.1533 (พ.ศ.2076) ขณะที่เจ้าชายอีวานมีพระชนมายุเพียงสามพรรษา ทำให้เหล่าขุนนางได้เข้ามาถวายการดูแลพระองค์
เหล่าขุนนางที่เข้ามาถวายการดูแลนั้น ต่างเพียงต้องการผลประโยชน์ ต้องการพระองค์บังหน้าในการได้ผลประโยชน์และอำนาจปกครองแคว้นต่างๆ ทำให้เหล่าขุนนางไม่มีใครคิดที่จะดูแลให้เจ้าชายอีวานเติบโตอย่างมีคุณภาพ เหมาะสมที่จะเป็นพระประมุขที่ดีในอนาคต
เหล่าขุนนางนั้นมักจะกักขังเจ้าชายอีวาน และมักจะทรงทุบตีพระองค์อย่างทารุณ และเมื่อเจ้าชายอีวานมีพระชนมายุแปดพรรษา พระราชมารดาของพระองค์ก็ถูกกลุ่มขุนนางวางยาพิษและสวรรคต
2
เมื่อสิ้นพระราชมารดา เจ้าชายอีวานก็ทรงเป็นกำพร้าอย่างเต็มตัว อีกทั้งพระพลานามัยก็ไม่ดีนักเนื่องจากไม่ได้รับพระกระยาหารเพียงพอ และเจ้าชายอีวานก็ทรงตระหนักว่าทางรอดเดียวของพระองค์ นั่นก็คือต้องผูกมิตรกับกลุ่มขุนนาง
และเหล่าขุนนางนี้เอง ก็ได้ช่วยให้เจ้าชายอีวานขึ้นครองราชย์ในปีค.ศ.1547 (พ.ศ.2090) ขณะที่พระองค์มีพระชนมายุ 16 พรรษา ขึ้นเป็น “พระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 วาซิลเยวิช (Ivan IV Vasilyevich)”
เมื่อขึ้นครองราชย์ พระเจ้าอีวานก็ทรงผูกมิตรกับเหล่าขุนนาง ก่อนจะเริ่มรวบอำนาจเข้าสู่พระองค์
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 รัสเซียนั้นเผชิญกับปัญหามากมาย ทั้งปัญหาเรื่องความแห้งแล้ง ตามมาด้วยความอดอยาก การรุกรานจากชนเผ่าตาตาร์ และสงครามกับลิทัวเนีย รวมทั้งการกีดกันทางการค้าจากโปแลนด์และสวีเดน
1
พระมเหสีของพระเจ้าอีวานได้สิ้นพระชนม์ในปีค.ศ.1560 (พ.ศ.2103) และทำให้พระเจ้าอีวานทรงซึมเศร้าอย่างหนัก ตามมาด้วยวิกฤตใหม่ นั่นคือ “เจ้าชายอันเดร เคิร์บสกี (Andrey Kurbsky” ซึ่งเป็นหนึ่งในคนฝ่ายพระเจ้าอีวาน ได้แปรพักตร์ไปเข้ากับลิทัวเนีย และนำกองทัพจำนวนหนึ่งของพระเจ้าอีวานไปด้วย สร้างความปั่นป่วนแก่ดินแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย
พระเจ้าอีวานทรงแก้ปัญหานี้ด้วยวิธีการที่ไม่มีใครคาดถึง นั่นคือพระองค์ทรงสละราชสมบัติ
ค.ศ.1564 (พ.ศ.2107) พระเจ้าอีวานทรงสละราชสมบัติ โดยทรงออกจดหมายแถลงการณ์การสละราชสมบัติ และกล่าวโทษว่ากลุ่มโบยาร์คือต้นเหตุแห่งหายนะทั้งปวง
แต่ปัญหาก็คือ ในเวลาที่พระเจ้าอีวานสละราชสมบัติ พระองค์ทรงครองบัลลังก์มาเป็นเวลานานและได้ควบรวมอำนาจไว้ที่พระองค์หมดแล้ว ทำให้พระองค์มีอำนาจมากซะจนรัฐบาลไม่สามารถไปต่อได้หากไม่มีพระองค์
1
นอกจากนั้น กลุ่มชาวนาชาวไร่ซึ่งเกลียดเหล่าโบยาร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็สนับสนุนพระองค์ ทำให้กลุ่มขุนนางไม่มีทางเลือกนอกจากไปเชิญพระองค์กลับมาครองบัลลังก์
1
ในทีแรก พระเจ้าอีวานก็ทรงทำท่าทางลังเล หากแต่พระองค์ก็ยอมกลับมาครองราชสมบัติ หากแต่การกลับมาครั้งนี้ พระองค์มีเงื่อนไขอยู่ด้วย
ข้อแรก พระองค์ทรงต้องการจะครองอำนาจตลอดชีพ และให้สังหารเหล่าโบยาร์จำนวนมาก
ข้อสอง พระองค์ทรงต้องการจะควบคุมกองทัพด้วยพระองค์เอง ต้องการอำนาจเด็ดขาดในท้องพระคลัง และอำนาจการบริหารราชสำนักด้วยพระองค์เอง
แน่นอนว่าเหล่าขุนนางไม่มีทางเลือก ต้องยอมพระองค์อย่างเลี่ยงไม่ได้
พระเจ้าอีวานทรงกลับมาครองบัลลังก์พร้อมอำนาจที่ไม่จำกัด สิ่งแรกที่พระองค์ทรงทำ คือการตั้งกลุ่ม “Oprichnik” ซึ่งเป็นเหมือนกองกำลังหรือตำรวจลับส่วนพระองค์ ทำหน้าที่จับกุมและกำจัดบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระเจ้าอีวาน และกลุ่ม Oprichnik ยังอยู่เหนือกฎหมาย ไม่ต้องรับโทษหรือปฏิบัติตามกฎหมาย
จากนั้น พระเจ้าอีวานก็ทรงยึดทรัพย์สินของบุคคลที่ทรยศและคิดร้ายต่อพระองค์ และทำการทรมาน ประหาร และเนรเทศบุคคลอีกจำนวนมาก แม้แต่ครอบครัวของบุคคลนั้นก็ต้องรับโทษไปด้วย
และด้วยความที่เกรงว่าเมืองนอฟโกรอดจะแปรพักตร์ไปเข้ากับลิทัวเนีย พระเจ้าอีวานจึงส่งกองทัพ Oprichnik ไปปราบปรามเมืองนอฟโกรอดในปีค.ศ.1570 (พ.ศ.2113) ทำให้ผู้คนนับพันเสียชีวิต
1
แต่สองปีต่อมา ค.ศ.1572 (พ.ศ.2115) หลังจากใช้ประโยชน์จาก Oprichnik มาอย่างเต็มที่จนหมดประโยชน์แล้ว พระเจ้าอีวานก็กำจัดหน่วย Oprichnik ทิ้งด้วยการส่งไปสู้รบกับลิทัวเนีย ทหารที่รอดชีวิตกลับมาก็จับขังหรือนำตัวไปประหาร
1
แต่ถึงแม้ว่าจะมีพระอุปนิสัยที่โหดเหี้ยม แต่พระเจ้าอีวานก็นับว่าเป็นองค์อุปถัมภ์งานศิลปะที่สำคัญพระองค์หนึ่ง โดยพระองค์ทรงสนับสนุนการพิมพ์ ทำให้เกิดแป้นพิมพ์ครั้งแรกในรัสเซียเมื่อปีค.ศ.1553 (พ.ศ.2096) และยังทรงสนับสนุนการก่อสร้างและงานสถาปัตยกรรมมากมาย
ตำนานหนึ่งเล่าว่า พระองค์ทรงชื่นชมกับการออกแบบของสถาปนิกที่ได้ออกแบบตกแต่ง “มหาวิหารเซนต์เบซิล (Saint Basil's Cathedral)” ประทับใจมากซะจนพระองค์มีรับสั่งให้นำตัวสถาปนิกและเหล่าคนงานไปทำให้ตาบอดให้หมด เพื่อที่ว่าคนเหล่านี้จะได้ไม่สามารถไปสร้างสรรค์งานที่สวยงามกว่านี้ได้อีก
มหาวิหารเซนต์เบซิล (Saint Basil's Cathedral)
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงตำนานเท่านั้น นักประวัติศาสตร์ต่างออกมาบอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เนื่องจากหลังจากการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์เบซิล พระเจ้าอีวานก็ยังทรงใช้ทีมงานสถาปนิกทีมเดิมในการออกแบบการก่อสร้างต่างๆ อีก
นอกจากนั้น พระเจ้าอีวานยังทรงหลงใหลในศิลปะซะจนสร้างสรรค์งานศิลป์ด้วยพระองค์เอง พระองค์ทรงเป็นกวีและนักแต่งเพลงเอก มีผลงานการประพันธ์เพลงจากพระองค์อีกด้วย
ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ครองบัลลังก์ พระเจ้าอีวานนั้นทรงปกครองดินแดนที่กว้างใหญ่ของรัสเซียด้วยความเหี้ยมโหด พระองค์ทรงก่อสงครามมากมาย ทรงปฏิรูปคริสตจักรและแต่งตั้งพระองค์เองเป็นผู้นำคริสตจักร ทรงจัดระเบียบการปกครองตามที่พระองค์ทรงพอพระทัย และทรงใช้ความรุนแรงในการจัดการกับผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระองค์
เหตุการณ์ที่เหี้ยมโหดที่สุดครั้งหนึ่ง พระเจ้าอีวานทรงใช้กำลังทุบตีพระสุณิสา (ลูกสะใภ้) จนพระสุณิสาทรงแท้ง และสาเหตุที่พระองค์ทรงทุบตี ก็แค่เพราะว่าพระสุณิสาแต่งองค์ได้ไม่ต้องพระทัยของพระองค์
“เจ้าชายอีวาน อิวาโนวิช (Tsarevich Ivan Ivanovich of Russia)” พระราชโอรสองค์รองและเป็นพระสวามีของพระสุณิสาที่ถูกทำร้าย ก็ทรงกริ้วพระราชบิดาเป็นอย่างมาก เจ้าชายอีวานได้เสด็จไปเข้าเฝ้าพระเจ้าอีวานและทรงโต้เถียงด่าทอพระราชบิดาอย่างโกรธเกรี้ยว
ในช่วงที่โต้เถียงนี้เอง พระเจ้าอีวานก็ทรงทำร้ายเจ้าชายอีวานด้วยการจับเจ้าชายอีวานฟาดเข้ากับกำแพงหรือใช้ไม้คทาฟาดที่พระเศียรของเจ้าชายอีวาน ทำให้เจ้าชายอีวานสิ้นพระชนม์
พระเจ้าอีวานผู้เหี้ยมโหดสวรรคตในปีค.ศ.1584 (พ.ศ.2127) ด้วยพระอาการพระสมองขาดพระโลหิตหรือสโตรก โดยขณะนั้นพระองค์มีพระชนมายุ 53 พรรษา
และหลังจากรัชสมัยของพระเจ้าอีวานผู้เหี้ยมโหด รัชสมัยต่อๆ มาก็เป็นช่วงเวลาที่รัสเซียเรียกว่า “สมัยแห่งความวุ่นวาย (Time of Troubles)”
References:
https://allthatsinteresting.com/ivan-the-terrible
https://www.britannica.com/biography/Ivan-the-Terrible
https://www.history.co.uk/articles/why-was-ivan-so-terrible
https://www.britannica.com/summary/Ivan-the-Terrible
ประวัติศาสตร์
8 บันทึก
19
10
8
19
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย