21 ก.พ. เวลา 09:52 • ไลฟ์สไตล์
ตำบล ไทรม้า

ดอกไม้ที่ถูกลืม

✍ ปกติเวลาที่เราจะใช้บริการห้องน้ำตามสถานีบริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล และในสถานที่อื่น ๆ ที่มีคนใช้บริการจำนวนมาก
เรามักจะคาดหวังและนึกถึงเรื่องความสะอาดของห้องน้ำเป็นอันดับแรก โดยมีเรื่องอื่น ๆ รองลงมา อาทิ มีกระดาษชำระ น้ำยาล้างมือไว้พร้อมหรือไม่ และอุปกรณ์ในห้องน้ำสามารถใช้งานได้หรือชำรุด
อย่างไรก็ดี มีอีกเรื่องที่แม้ไม่ใช่เรื่องสำคัญในลำดับต้น ๆ แต่ก็มีส่วนสร้างความรู้สึกประทับใจให้เกิดขึ้นไม่น้อย
จากการที่ห้องน้ำบางแห่งจัดแต่งประดับดอกไม้ ต้นไม้ ไว้ในห้องน้ำ ทำให้แลดูมีสีสัน ช่วยเปลี่ยนมุมมองและความรู้สึกของเราไปได้ชั่วขณะ
ดอกชบาแดงสดใสในห้องน้ำชาย @ปั๊มน้ำมัน ชานเมืองกระบี่
จนบางครั้ง บางคราว เคยคิดอยากถามพี่ ๆ น้อง ๆ ผู้ดูแลทำความสะอาดห้องน้ำในหลาย ๆ แห่งที่เคยใช้บริการว่า มีแรงกระตุ้นอะไรซ่อนอยู่ภายใน หรือไม่
ที่จูงใจให้ทำหน้าที่เกินกว่าการทำความสะอาดแต่เพียงอย่างเดียว แต่ก็ไม่ได้จังหวะเหมาะ ๆ สักที
จนมาลงตัวในวันก่อนวันวาเลนไทน์ปีนี้ (14 ก.พ.67) 1 วัน ที่มีโอกาสได้ใช้บริการห้องน้ำของโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ ย่านฝั่งธนบุรี ในช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็น
โดยในระหว่างที่รอคิวพบคุณหมอ ผมมีอาการปวดปัสสาวะ จึงเดินไปใช้บริการที่ห้องน้ำชั้นล่างสุด ของตึกสยามมินทร์ที่เปิดบริการคลินิกนอกเวลา
ห้องน้ำอยู่ชั้นล่างสุดของตึก
ระหว่างที่เดินไป ในใจก็คิดวิ่งไปล่วงหน้าก่อนแล้วว่า ไม่น่าจะสะอาดมากนัก เพราะมีผู้ใช้บริการตลอดเวลาทั้งวัน
แต่พอเข้าไป กลับตรงกันข้าม สะอาดสะอ้านกว่าที่คิดไว้ แถมยังมี "ดอกไม้สีชมพู" 💓 ปักแซมปนกับต้นใบพลูด่าง
อยู่ในขวดน้ำซึ่งดัดแปลงเป็นที่ใส่ต้นไม้
ช่วยเติมสีสันห้องน้ำให้สดใส ถึงแม้ว่าทั้งดอกไม้และขวดน้ำจะทำมาจากพลาสติก
ดอกไม้เพิ่มคุณค่าความสดใส
หลังจากทำธุระเสร็จ ผมเดินมองหาคนดูแลห้องน้ำอยู่ชั่วครู่ ด้วยความตั้งใจที่จะชมเชยและมีสินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ มอบให้
จนพบกับ "พี่เรียม" พนักงานหญิงที่กำลังทำความสะอาดห้องน้ำหญิงที่อยู่ติดกัน
พี่เรียมยืนอยู่หน้าห้องน้ำหญิง
จึงพูดคุยทักทายกัน และตอบคำถามที่ผมค้างคาใจเรื่องการประดับดอกไม้ในห้องน้ำว่า...
"ไม่มีอะไรมากค่ะ เพียงอยากจะทำให้ห้องน้ำแลดูสะอาด น่าใช้และมีความสวยงามไปพร้อมกัน"
"และดอกไม้นี้ หนูก็ลงทุนซื้อด้วยเงินของตัวเองนะคะ"
คำตอบที่ได้รับ แลดูง่าย ชัดเจนอยู่ในตัว ซึ่งต่างไปจากคำถามที่ว่า "อะไรเป็นมูลเหตุ หรือแรงจูงใจให้ทำเช่นนั้น"
ซึ่งแลดูเป็นทางการ ราวกับเพิ่งลงทะเบียนเรียนวิชาจิตวิทยาจูงใจมา😆 (ฮา)
💁‍♂️พอชวนคุยลึกลงไปถึงสภาพงานที่ต้องเผชิญ ทั้งความเหนื่อยล้าและความหน่ายกับลักษณะงานที่ต้องคอยล้าง
ถู เช็ด ทำความสะอาด โถปัสสาวะ
โถชักโครก อ่างล้างหน้า และพื้นห้องน้ำ ทั้งห้องชายและหญิง
รวมทั้ง ความเสี่ยงจากโรคติดต่อที่อาจจะเกิดขึ้น ผมเลยตั้งคำถามประมาณว่า
"ทำไม พี่เรียมถึงมีความอดทนทำงาน
ในสภาพแวดล้อมแบบนี้มาได้ ?"
คำตอบที่ได้รับจากพี่เรียม ชัดเจนอยู่ในตัวเช่นเดิม
ดังเช่น คำตอบที่ว่า...
"เมื่อเราตัดสินใจที่จะมาทำหน้าที่นี้
ได้คิดใคร่ครวญมาแล้วเบื้องต้นว่า
เราจะต้องเจอกับอะไร และได้เตรียมใจยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งก็ทำมาได้เกือบ 2 ปี แล้วค่ะ"
"โดยเฉพาะการรับหน้าที่ดูแลห้องน้ำชั้นล่างสุดที่มีคนใช้บริการทั้งวัน ซึ่งห้องน้ำจะสกปรกได้ง่ายค่ะ"
"แต่ก็แลกกับรายได้ที่จะได้รับเพิ่มขึ้นจากการมีชั่วโมงทำงานล่วงเวลา 4 ชั่วโมง นับจากช่วง 4 โมงเย็น ไปถึงประมาณ 2 ทุ่ม ซึ่งเป็นช่วงที่คนมาใช้บริการทยอยกลับบ้านไปเกือบหมดแล้วค่ะ"
ทัศนคติพี่เรียมเปี่ยมไปด้วย...
ในขณะที่กำลังคุยกันเพลิน ๆ พี่หมู เพื่อนของพี่เรียมที่ดูแลห้องน้ำชั้นที่
ผู้ป่วยนอนรักษาตัว
ก็เดินเข้ามาทักทาย ก่อนจะกลับบ้าน เลยทำให้พอทราบว่า งานแต่ละชั้นจะมีลักษณะงานแตกต่างกันอยู่บ้าง และหนักกันไปคนละแบบ
อีกคนที่เข้ามาทักทาย คือ น้องพนักงานหญิงร้านขายยาที่อยู่ใกล้โรงพยาบาล ซึ่งเดินมาใช้บริการห้องน้ำเกือบทุกวัน
และมักจะถือขนมติดไม้ติดมือมาฝาก
พี่เรียม ผมเลยชวนเธอร่วมวงคุยด้วย
เธอเล่าตอนหนึ่งว่า...
"ประทับใจในการทำหน้าที่ของพี่เรียมมาระยะหนึ่งแล้ว และให้กำลังใจพี่เรียมมาโดยตลอด"
เมื่อผมถามพี่เรียมในคำถามสุดท้ายว่า...
"แล้วพี่เรียมเอาพลัง และกำลังใจจากไหนมาทำงานในแต่ละวัน"
พี่เรียมบอกว่า มาจาก...
"รอยยิ้มของคนที่มาใช้บริการ และคำชม คำทักทาย ซึ่งบ่งบอกถึงความพึงพอใจ แค่นี้ก็สบายใจ มีความสุขแล้วค่ะ ไม่ได้คาดหวังอะไรไปมากกว่านี้"😊
ในขณะที่น้องพนักงานหญิงร้านขายยา พูดเสริมว่า
"หนูเชื่อของหนูว่า เมื่อเราตั้งใจทำในสิ่งที่ดีแล้ว ย่อมได้สิ่งที่ดี ๆ ตอบแทนกลับมานะ และหนูก็ทำมาตลอด ทั้งทำบุญและทำทานค่ะ"
"อย่างงี้ มาหาพี่เรียมทุกวัน ก็เอาพลังบุญมาฝากด้วยนะครับ" ผมเสริม
"ใช่ค่ะ แน่นอน" เธอพูดจบ พร้อมเดินเข้าไปสวมกอดพี่เรียม ราวกับญาติมิตรที่สนิทคุ้นเคยกัน 🫂
หลังจากคุยกันเสร็จ ผมเดินไปถ่ายภาพภายในและภายนอกห้องน้ำอย่างสบายอก สบายใจ เหมือนได้คลี่คลายปมบางส่วนที่ค้างคาออกไปจากใจได้บ้าง
ก่อนไปพบหมอตามเวลานัดในช่วง 6 โมงเย็นเศษ ๆ
เสร็จจากการรักษา ขากลับบ้าน ผมเดินทางมาขึ้นเรือที่ท่าเรือด่วนพรานนก
มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศรายทางก่อนวันแห่งความรักอยู่บ้าง
เริ่มจากเห็นเจ้าของร้านขายดอกไม้ใกล้ท่าเรือด่วน กำลังจดจ่อ จัดช่อดอกไม้สดตามคำสั่งซื้อ
ร้านดอกไม้ใกล้ท่าเรือด่วน
พอเรือด่วนจอดเทียบท่าใกล้สถานีรถไฟฟ้า แถบชานเมือง นนทบุรี ผมขึ้นจากเรือมาต่อรถไฟฟ้า
ขึ้นเรือต่อรถ
เห็นหนุ่มน้อยอีกรายหนึ่งหอบช่อดอกกุหลาบสีแดงสดยืนอยู่ในขบวนรถไฟฟ้า ❤
ที่น่าจะเตรียมมอบให้สาวผู้เป็นที่รักในวันรุ่งขึ้น (14 ก.พ.67) ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ ท่ามกลางสายตาหลาย ๆ คู่ รวมทั้งผมด้วยที่มองเฉียง ๆ ไปยังน้อง (ฮา)
ดอกไม้ให้ความสดชื่นในทุกที่
มองไป..ไม่มองเปล่า ใจคิดไปแว็บหนึ่งว่า ใครนะช่างโชคดี จะได้ดอกไม้ช่อนี้ไป
แต่แล้วก็ค่อย ๆ คิดเทียบเคียงกลับไปถึงดอกไม้พลาสติก สีชมพู 2 ช่อในห้องน้ำ 💕
ซึ่งพี่เรียมตั้งใจตกแต่งประดับด้วยเงินจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองไว้ให้คนใช้บริการได้ชื่นชม
ราวกับห้องน้ำเป็นบ้านหลังหนึ่ง
ที่แขกมาเยือนถึงเรือนชานแล้วมีแต่ความประทับใจกลับไป
ห้องน้ำเหมือนบ้านหลังหนึ่ง
หากวันวาเลนไทน์(ที่เพิ่งผ่านพ้นไป)
มีความหมายและคุณค่าแห่งความรักกว้างไกล
มิได้จำกัดเฉพาะมิติของความรักระหว่างคนสองคน แต่เป็นเรื่องของความรักที่มีหลายมิติ ซึ่งทุกคนส่งมอบให้แก่กันได้แล้ว
เรื่องของพี่เรียม ก็ถือเป็นตัวแทนแห่งความรักอีกมิติหนึ่ง ที่ไม่ต่างไปจากพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ดูแลทำความสะอาดห้องน้ำอยู่ทั่วประเทศ
น้องแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านกำลังทำความสะอาดห้องน้ำ @ปั๊มน้ำมันแถบระยอง
เป็นความรักในหน้าที่ ที่พร้อมไปด้วยความรับผิดชอบ ความอดทน เสียสละ และมีทัศนคติที่ดีต่องานที่ทำ
ไม่คาดหวังถึงผลที่จะได้รับจากงานที่ทำ และ เดินเลยไปจากสิ่งที่เรียกว่า...ความต้องการได้รับการยอมรับนับถือ และยกย่องชมเชย...
ผมปล่อยใจ...คิดเทียบเคียงเรื่องพี่เรียมกับดอกไม้ในห้องน้ำไปได้สักพักหนึ่ง จนรถวิ่งมาถึงสถานีรถไฟฟ้าใกล้บ้าน
หลังลงจากรถไฟฟ้า ต่อรถตู้เข้าหมู่บ้าน พลันที่ลงจากรถตู้เดินผ่านป้อมยามในหมู่บ้าน
เห็นน้องพนักงาน รปภ. 2 คน ซึ่งเป็นคู่สามีภรรยาที่คุ้นเคยกัน กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่พอดี
ก็เลยถามแบบกึ่งเล่น ปนแซว กับน้อง รปภ. ผู้ชาย ว่า
"พรุ่งนี้วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก จะมอบอะไรให้น้องผู้หญิงล่ะ"
"อ้าวพรุ่งนี้ หรือครับ ผมลืมไปแล้ว...
ก็คงไม่มีอะไรจะมอบให้ครับ นอกจากความภักดี"
พร้อมส่งรอยยิ้มกลับไปหาภรรยา 🥰
ที่นั่งยิ้มเขินอายอยู่ในป้อม ทำเอาผมฮา 😍 ตามไปด้วย
ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง&มั่นคงใน..
วันรุ่งขึ้น ผมถูกตั้งคำถามกลับบ้าง แต่ไม่ใช่จากน้อง รปภ. แต่มาจากพี่ผู้หญิงที่เดินออกกำลังกายด้วยกัน(ซึ่งยังจดจำวันวาเลนไทน์ได้ดี) ว่า 🧚‍♂️
"วันนี้ จะมอบอะไรให้ภรรยาล่ะ"
ผมเลยถือโอกาสลอกคำตอบจาก น้อง รปภ. ข้างต้น มาตอบว่า
"ไม่มีอะไรจะมอบให้ครับ นอกจากความภักดี"
ตอบพี่ไปแบบเอาตัวรอดไปพลาง ๆ ก่อน พร้อมเฉลยว่า คำตอบนี้ลอกมาจากน้อง รปภ. เมื่อคืนครับ
ช่วยสร้างบรรยากาศให้ครื้นเครงไปชั่วแป๊บหนึ่ง 😀
ส่วนคำตอบยาว ๆ ที่ใช้เวลาคิดครู่หนึ่ง เป็นไปในท่วงทำนองว่า...
คงไม่มีอะไรจะมอบให้ นอกจากการทำหน้าที่รีดผ้า ล้างห้องน้ำที่เป็นงานหลักต่อไปให้สมบูรณ์ สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ และยังต้องการคำชมอยู่บ้างในบางเวลา
แต่ทว่า...ผมคงไม่มีดอกไม้สดหรือพลาสติกมาใส่ประดับไว้ในห้องน้ำได้อย่างที่พี่เรียมทำและลงทุนไปนะ...
(ฮา)💌
🙏ขอบคุณมากครับ
มุมชัย นัยสอิ้ง
โฆษณา