“ด็อกเตอร์เซบิ (Dr.Sebi)” ชายผู้อ้างตัวว่าสามารถรักษาได้ทุกโรคแม้กระทั่ง “เอดส์ (Aids)”
“ด็อกเตอร์เซบิ (Dr.Sebi)” คือชายผู้รักสุขภาพและอ้างตัวว่าสามารถใช้ความรู้ด้านสมุนไพรที่มีรักษาโรคต่างๆ ได้ ทำให้เหล่าเซเลบในฮอลลีวู้ดหลายรายสนใจและเรียกใช้บริการเขา
แต่เรื่องราวของเขาก็ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ มีการมองในแง่ลบต่างๆ มากมาย และยังเป็นที่พูดถึงจนถึงทุกวันนี้
เรื่องราวของด็อกเตอร์เซบิเป็นอย่างไร ลองมาดูกันครับ
ด็อกเตอร์เซบิ หรือชื่อจริงคือ “อัลเฟรโด โบว์แมน (Alfredo Bowman)” เกิดในปีค.ศ.1933 (พ.ศ.2476) ที่ฮอนดูรัส และได้เรียนรู้เรื่องสมุนไพรจากผู้เป็นย่าตั้งแต่ยังเด็ก
อัลเฟรโด โบว์แมน (Alfredo Bowman)
เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่ม โบว์แมนก็ได้ย้ายไปสหรัฐอเมริกา และได้เริ่มทำการรักษาโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน โรคอ้วน หรืออาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งล้วนแต่ล้มเหลว
จากนั้นโบว์แมนก็ได้เดินทางไปเม็กซิโก และได้สร้างสูตรที่เป็นที่รู้จักในเวลาต่อมาว่าคือ “เซลล์ฟู้ดของด็อกเตอร์เซบิ (Dr. Sebi’s Cell Food)” และได้ส่งสินค้าออกขายไปยังสหรัฐอเมริกา และด้วยผลิตภัณฑ์เหล่านี้นี่แหละ ที่สร้างชื่อให้เขามากมาย
ในเวลาไม่นาน โบว์แมนก็ได้กลายเป็นนักสมุนไพรชื่อดัง เป็นที่รู้จักในนาม “ด็อกเตอร์เซบิ (Dr.Sebi)” โดยเหล่าลูกค้าของโบว์แมนก็ล้วนมีแต่เซเลบดังๆ เช่น “จอห์น ทราโวลตา (John Travolta)” “สตีเวน ซีกัล (Steven Seagal)” และที่โด่งดังที่สุดก็คือ “ไมเคิล แจ็คสัน (Michael Jackson)”
ในปีค.ศ.2004 (พ.ศ.2547) โบว์แมนได้กล่าวอ้างว่าเขาสามารถรักษาอาการติดยาแก้ปวดของแจ็คสันได้โดยการใช้วิธีการบำบัดโดยใช้เซลล์ฟู้ด ซึ่งทางฝ่ายแจ็คสันก็จ่ายเงินให้โบว์แมนถึง 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 361,000 บาท)
ไมเคิล แจ็คสัน (Michael Jackson)
แต่เงินเพียงเท่านี้ไม่ทำให้โบว์แมนพอใจ โดยในเวลาต่อมา โบว์แมนได้ยื่นฟ้องแจ็คสันเป็นจำนวนเงินกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์ (ประมาณ 36 ล้านบาท)
โบว์แมนอ้างว่าตนนั้นทำการรักษาแจ็คสันเป็นเวลานานกว่าหกเดือน และแจ็คสันก็ค้างค่ารักษาอยู่กว่า 380,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 13.7 ล้านบาท) อีกทั้งในระหว่างการรักษา ตนนั้นไม่ได้รักษาคนอื่นเลย ทำให้เสียรายได้ ดังนั้นจึงยื่นฟ้องเพิ่มอีกเป็นเงิน 600,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 21.6 ล้านบาท)
แต่นักข่าวฝั่งแจ็คสันก็ออกมาโต้แย้งโบว์แมน และกล่าวว่าโบว์แมนนั้นไม่เคยทำการรักษาอะไรแจ็คสันเลย และแจ็คสันก็ปฏิบัติต่อโบว์แมนเสมือนเพื่อนคนหนึ่ง ไม่เคยขอให้รักษาอะไร ซึ่งภายหลัง ปีค.ศ.2015 (พ.ศ.2558) ศาลก็ได้ตีตกคดีนี้ไป
นอกจากนั้น วงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ยังออกมาปฏิเสธ ไม่ยอมรับเซลล์ฟู้ดและวิธีการรักษาของโบว์แมน โดยกล่าวว่าวิธีการของโบว์แมนนั้นไม่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์อยู่เลยแม้แต่นิดเดียว
อีกหนึ่งข้อกล่าวอ้างของโบว์แมนที่โด่งดังที่สุด นั่นคือการอ้างว่าไวรัสเอชไอวี (HIV) ไม่ได้ก่อให้เกิดโรคเอดส์ และการรักษาด้วยสมุนไพรก็สามารถรักษาเอดส์ได้ และยังอ้างถึงขนาดที่ว่าตนนั้นสามารถรักษาโรคเอดส์ได้อีกด้วย
ในปีค.ศ.1987 (พ.ศ.2530) ทางการอเมริกันได้ทำการจับกุมโบว์แมนข้อหารักษาโรคโดยไม่มีใบอนุญาต และตัดสินว่าเขามีความผิดข้อหาหลอกลวง
สุดท้ายแล้ว คดีนี้ก็จบลงด้วยการที่โบว์แมนยอมจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 900 ดอลลาร์ (ประมาณ 32,500 บาท) และถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกมาโอ้อวดว่าสามารถรักษาโรคหรือโฆษณาผลิตภัณฑ์อะไรอีก
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2016 (พ.ศ.2559) โบว์แมนถูกจับกุมข้อหาฟอกเงินหลังจากที่ทางการพบว่าโบว์แมนนั้นพกเงินสดกว่า 37,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.33 ล้านบาท) และไม่สามารถแสดงที่มาของเงินได้ โบว์แมนจึงถูกจับกุมและส่งไปขังยังเรือนจำในฮอนดูรัส ก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ.2016 (พ.ศ.2559) จากอาการปอดบวมด้วยวัย 82 ปี
หลังจากการเสียชีวิตของโบว์แมน เหล่าสาวกหลายคนได้คิดว่าการเสียชีวิตของเขาเกิดจากการฆ่าปิดปากของวงการแพทย์ ไม่ให้ออกมาแฉความจริงเรื่องอื้อฉาวของวงการ
ในทุกวันนี้ เรื่องราวของโบว์แมนหรือด็อกเตอร์เซบิก็ยังเป็นที่พูดถึง และหนึ่งในลูกสาวของเขาก็ยังทำงานค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับยาและการรักษาต่อไป
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
