Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
HR Talk by Tamrongsak
•
ติดตาม
9 มิ.ย. 2024 เวลา 23:00 • ธุรกิจ
ลูกน้องมาสายทำไงดี ?
ปัญหายอดนิยมสำหรับคนที่เป็นหัวหน้ามักต้องเจอคือลูกน้องมาสาย
ถ้านาน ๆ ครั้งจะมาสายและมีเหตุผลที่ฟังขึ้นก็คงไม่เป็นปัญหาสักเท่าไหร่
แต่ถ้าลูกน้องเป็นคนประเภท "สุดสาย" หรือ "สายสุด" “สายหยุด” "สายเสมอ" ล่ะ
หัวหน้าควรทำไงดี ?
อย่างงี้ดีไหมครับ
1. หัวหน้าตักเตือนลูกน้องที่มาทำงานสายตามระเบียบบริษัท เช่น ถ้าใครมาทำงานสายจะถูกตักเตือนด้วยวาจาก่อน ต่อมาถ้ายังสายอีกก็จะถูกตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรตามที่ระบุไว้ในระเบียบ ไปจนถึงที่สุดก็อาจจะถูกเลิกจ้างถ้ายังผิดซ้ำคำเตือนเรื่องการมาทำงานสาย ซึ่งถือเป็นการทำความผิดทางวินัย
2. ในการตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร หัวหน้าควรเตรียมหนังสือตักเตือนให้พร้อมซึ่งตรงนี้ HR จะต้องเป็นคนที่รู้และให้คำแนะนำได้ว่าควรมีข้อความอย่างไรบ้าง หรือ HR จะเตรียมหนังสือตักเตือนที่ถูกต้องให้หัวหน้างานก็ได้
"แต่ HR ไม่ใช่คนที่จะเรียกพนักงานที่ไม่ใช่ลูกน้องของตัวเองมาตักเตือน !!"
เพราะ HR ไม่ใช่หัวหน้าของพนักงานทั้งบริษัทนะครับ
3. เมื่อเรียกลูกน้องที่มาสายมาตักเตือนเสร็จแล้ว หัวหน้าก็ส่งสำเนาหนังสือตักเตือนให้กับพนักงานที่มาสายไว้ที่เป็นระทึก..เอ๊ย..ระลึกได้รับทราบว่าถูกเตือนเรื่องมาสายในครั้งนี้ไปแล้ว อย่าทำความผิดอย่างนี้อีก
4. ถ้าพนักงานยังฝ่าฝืนและผิดซ้ำคำเตือนแบบซ้ำซากในเรื่องมาสายจนถึงครั้งสุดท้าย บริษัทก็ควรจะทำตามที่เตือนฉบับสุดท้ายคือ “เจ็บแต่จบ” ด้วยการเชิญพนักงานมาแจ้งเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย
ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณให้พนักงานทุกคนในบริษัทรับรู้ว่าบริษัทไม่ยอมรับพฤติกรรมอู้งานมาทำงานสาย ถ้าบริษัทตักเตือนหลายครั้งแล้วยังฝ่าฝืนจนสุดท้ายพนักงานก็คงจะไปกับบริษัทไม่ได้
5. แต่ถ้าหัวหน้าหรือผู้บริหารยังไม่ทำอะไรแม้แต่จะตักเตือนพนักงานที่มาสาย ก็จะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบหรือเอาอย่าง หรือพฤติกรรม “Me too” เพราะเห็นว่าทีคนนั้นยังมาสายได้ หัวหน้าก็ไม่เห็นจะทำอะไร ฉันก็ขอมาสายมั่งฮี่ (Me too) ยิ่งกว่าสายย่อคือสายเสมอ สายประจำ ทำเอาเพื่อนระอา พากันมาสายต่อไป
6. ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการหักค่ามาสาย เพราะพนักงานมักจะอ้างว่า “ก็ฉันยอมจ่ายค่ามาสายแล้วไง ยังจะมาตักเตือนอะไรกันอีก” เรียกว่าเอาเงินซื้อเวลาไปแล้วนี่
แถมบางบริษัทก็หักค่ามาสายแบบเอาเปรียบพนักงานอีกต่างหาก เช่น ถ้ามาทำงานสาย 3 ครั้งใน 1 เดือนจะหักค่ามาสาย 1 วัน ทั้ง ๆ ที่การมาสาย 3 ครั้ง ๆ ละ 5 นาที รวมมาสาย 15 นาที แต่ดันไปหักค่ามาสายเขาถึง 8 ชั่วโมง
บางแห่งให้เอาชั่วโมงที่มาสายมาหักกับวันลาพักร้อนก็มี (งงใจ คิดได้ไงเนี่ยะ)
บริษัททำอย่างนี้ก็ผิดกฎหมายแรงงานนะครับ ถ้ายังทำอยู่ก็ต้องไปรอลุ้นหมายศาล ถ้าพนักงานไปฟ้องเอาไว้ด้วยก็แล้วกัน
7. จากข้อ 6 จึงมีคำถามว่า “งั้นควรทำยังไงดีล่ะ ?”
ผมเสนอให้นำข้อมูลการมาสายไปพิจารณาร่วมกับการขึ้นเงินเดือนประจำปีหรือการจ่ายโบนัส
เช่น มาสายกี่ครั้งจะได้ขึ้นเงินเดือนน้อยลงไปเท่าไหร่หรือได้รับโบนัสลดลงจากที่ควรจะได้รับเท่าไหร่ หรือมีผลกับความก้าวหน้าถ้ายังมาสายก็ยังไม่ Promote ฯลฯ
หรือบางแห่งก็เอาไปโยงไว้กับ “เบี้ยขยัน” (เบี้ยตัวนี้ยังเป็นดราม่ามหากาพย์อีกเรื่องหนึ่งที่ผมจะเอาไว้คุยกันวันหลังนะครับ)
ซึ่งก็จะเป็นการเตือนพนักงานให้รับรู้เป็นระยะว่าบริษัทไม่ต้องการคนมาสายนะ และถ้ายังมาสายจนถูกตักเตือนเป็นครั้งสุดท้ายอีกก็ต้องจบตามข้อ 4 ข้างต้นแหละครับ
ทั้งหมดที่ผมบอกมานี้ท่านไม่จำเป็นต้องเชื่อผมทั้งหมดนะครับ ควรใช้หลักกาลามสูตรด้วยถ้าเห็นว่าดีและนำไปปฏิบัติได้ก็ยินดีด้วย
แต่ถ้าบริษัทไหนผู้บริหารจะไม่ยอมทำอะไรสักข้อก็ต้องวนเวียนอยู่ในลูปมาสายไปเรื่อย ๆ แหละครับ
ฝากข้อคิดปิดท้ายว่า ถ้าตัวหัวหน้าเองยังมาสายให้ลูกน้องเห็นเป็นประจำ เวลาเรียกลูกน้องมาตักเตือนเรื่องมาสาย หัวหน้าประเภทนี้จะกล้าสบตาลูกน้องบ้างมั๊ยน้อ 😆
แรงงาน
ข้อคิด
กฎหมาย
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย