Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Bnomics
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
19 ก.พ. 2024 เวลา 01:01 • ธุรกิจ
Major Cineplex ธุรกิจโรงหนังที่มีมากกว่าโรงหนัง
ใครสายหนัง หรือต่อให้ไม่ใช่สายหนังก็ต้องรู้จักโรงภาพยนตร์ที่อยู่คู่เมืองไทยมากกว่า 20 ปีอย่าง Major Cineplex ที่มีอยู่ทั่วประเทศไทยหรือแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะลาว กัมพูชา ก็รู้จักเมเจอร์เป็นอย่างดี
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ก่อตั้งแรกเริ่มตั้งแต่ปี 2538 ก่อตั้งโดยนายวิชา พูลวรลักษณ์ ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่โรงภาพยนตร์เท่านั้น หากแต่มีธุรกิจในเครือถึง 5 ธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป ดังนี้ (เรียงลำดับตามสัดส่วนรายได้ของแต่ละธุรกิจ)
-ธุรกิจโรงภาพยนตร์ (สัดส่วนรายได้คิดเป็น 81%)
โรงภาพยนตร์ถือเป็นธุรกิจหลักของเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2538 สาขาปิ่นเกล้าในรูปแบบ Standalone สร้างบนที่ดินสัญญาเช่า ภายหลังจึงมีการขยายสาขาเป็นรูปแบบใหม่อีก 3 แบบคือรูปแบบห้างสรรพสินค้า รูปแบบศูนย์การค้าแบบเปิด รูปแบบห้างค้าปลีกขนาดใหญ่
จุดเด่นของโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ คือการให้บริการที่หลากหลายตอบโจทย์ลูกค้าหลายกลุ่ม รวมถึงความทันสมัยของการให้บริการไม่ว่าจะการฉายภาพยนตร์แบบ RealD, 2D, 3D, 4DX, IMAX, Screen X และระบบเสียงที่มีคุณภาพ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง IMAX VR ทำให้เมเจอร์กลายมาเป็นผู้นำแนวหน้าที่ให้ประสบการณ์ใหม่ ๆ แก่ลูกค้าระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ปัจจุบัน ธุรกิจโรงภาพยนต์มีทั้งหมด 180 สาขา 838 โรงภาพยนตร์ โดย 171 สาขาอยู่ในประเทศมีจำนวน 792 ภาพยนตร์ และมีสาขาต่างประเทศจำนวน 9 สาขา 46 โรงภาพยนตร์ทั้งในกัมพูชาและลาว
โดยภาพรวมรายได้ของธุรกิจโรงภาพยนตร์ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัท ดังนี้
ปี 2562 รายได้ 8,282 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 2,648 ล้านบาท (ลดลง 68% จากปีก่อน)
ปี 2564 รายได้ 2,346 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 5,192 ล้านบาท (เติบโต 121% จากปีก่อน)
ช่วงวิกฤตโควิด ทำให้บริษัทฯ มีรายได้ลดลงถึง 68% ปี 2563 เมื่อเทียบจากช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด ก่อนจะฟื้นตัวตามลำดับและเติบโตขึ้น 121% ในปี 2565
-การให้บริการสื่อและโฆษณา (สัดส่วนรายได้คิดเป็น 7%)
อีกหนึ่งธุรกิจที่ต่อยอดจากธุรกิจโรงหนังคือธุรกิจการให้บริการสื่อโฆษณา เนื่องจากบริษัทสามารถขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการรับเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาจึงต้องมีการนำเสนอให้บริการโฆษณาทั้งในโรงภาพยนตร์และเครือ Cineplex อย่างครบวงจร ภายใต้บริษัทย่อยชื่อ “บริษัท เมเจอร์ซีนีแอด จำกัด”
ปัจจุบัน มีการโฆษณาหลากหลายบนสื่อไม่ว่าจะเป็นบนจอวิดีโอ จอกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการขายแบบ Interative Media และ Cross Promotion รวมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตามเป้า
โดยภาพรวมรายได้ของธุรกิจสื่อโฆษณา ดังนี้
ปี 2562 รายได้ 1,185 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 390 ล้านบาท (ลดลง 67% จากปีก่อน)
ปี 2564 รายได้ 190 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 428 ล้านบาท (เติบโต 125% จากปีก่อน)
-การให้บริการโบว์ลิ่งและคาราโอเกะ (สัดส่วนรายได้คิดเป็น 5%)
มาถึงตรงนี้คิดว่าทุกคนคงรู้จักกันดีกับธุรกิจโบว์ลิ่งและคาราโอเกะ หนึ่งในธุรกิจบริการเอนเตอร์เทนเพื่อความบันเทิงอีกหนึ่งรูปแบบภายใต้ชื่อ “เมเจอร์โบว์ลฮิต” ซึ่งเป็นการรวมตัวของครอบครัวและเพื่อน ๆ ให้มาสังสรรค์สนุกกันนอกจากการชมภาพยนตร์ โดยธุรกิจนี้เริ่มในปี 2540 สาขาสุขุมวิท แรกเริ่มมีจำนวน 20 เลน และในปี 2549 เปิดตัวแบรนด์ “บลูโอริทึมแอนด์โบว์ล” ซึ่งมีทั้งโบว์ลิ่งและคาราโอเกะ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งความบันเทิงคือลานสเก็ตน้ำแข็งภายใต้ชื่อ “ซับซีโร่” ซึ่งได้รับความนิยมไม่แพ้โบว์ลิ่งและคาราโอเกะเลยทีเดียว
ในปี 2565 ธุรกิจโบว์ลิ่งและซับซีโร่จำนวน 11 สาขา ในไทย 8 สาขาและต่างประเทศอีก 3 สาขา
โดยภาพรวมรายได้ของธุรกิจโบว์ลิ่งและคาราโอเกะ ดังนี้
ปี 2562 รายได้ 468 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 217 ล้านบาท (ลดลง 54% จากปีก่อน)
ปี 2564 รายได้ 86 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 337 ล้านบาท (เติบโต 292% จากปีก่อน)
-ธุรกิจให้เช่าพื้นที่และบริการ (สัดส่วนรายได้คิดเป็น 4%)
อีกหนึ่งธุรกิจที่ขยายควบคู่ไปกับการขยายสาขาใหม่ คือมีการบริการพื้นที่ให้เช่าสำหรับร้านค้าต่าง ๆ เพื่อสร้างความหลากหลายการให้บริการแก่ลูกค้าในด้านต่าง ๆ นอกเหนือจากการให้บริการในเครือเอง โดยจะมีพื้นที่เช่าทั้งภายในและนอกอาคาร ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ขายของ และการแสดงดนตรี ช่วยดึงดูดความสนใจแก่ลูกค้าตอบสนองบริการที่หลากหลายมากขึ้น
โดยภาพรวมรายได้ของธุรกิจให้เช่าพื้นที่และบริการ ดังนี้
ปี 2562 รายได้ 432 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 334 ล้านบาท (ลดลง 23% จากปีก่อน)
ปี 2564 รายได้ 273 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 236 ล้านบาท (เติบโต 14% จากปีก่อน)
-ธุรกิจสื่อภาพยนตร์ (สัดส่วนรายได้คิดเป็น 3%)
ธุรกิจสื่อภาพยนตร์มาจาก2 ส่วน คือการจัดหาภาพยนตร์ และผลิตภาพยนตร์ เพื่อจัดจำหน่ายภายในโรงภาพยนตร์ และการจัดจำหน่ายในช่องทางโทรทัศน์ และช่องทางออนไลน์ต่างๆ
โดยภาพรวมรายได้ของธุรกิจสื่อภาพยนตร์ ดังนี้
ปี 2562 รายได้ 330 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 176 ล้านบาท (ลดลง 47% จากปีก่อน)
ปี 2564 รายได้ 115 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 195 ล้านบาท (เติบโต 70% จากปีก่อน)
ผู้เขียน: ขัตติยาภรณ์ ด้วงแก้ว
ภาพประกอบ : ชนากานต์ วรสุข
════════════════
▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Website :
https://www.bnomics.co
Facebook :
https://www.facebook.com/Bnomics.co
Blockdit :
https://www.blockdit.com/bnomics
Line OA : @Bnomics
https://bit.ly/3eYkTJC
Youtube :
https://www.youtube.com/bnomics
Twitter :
https://twitter.com/bnomics_co
════════════════
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
อ้างอิง: Annual Report, Major Cineplex Group Company Limited
ธุรกิจ
ภาพยนตร์
หุ้น
1 บันทึก
8
1
1
8
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย