22 ก.พ. 2024 เวลา 09:54 • ไลฟ์สไตล์

ผู้จัดการมรดก หน้าที่สำคัญ และความรับผิดชอบที่ต้องยอมรับ

เมื่อคนครอบครัวเสียชีวิตโดยไม่ได้ทำพินัยกรรมระบุผู้จัดการมรดกไว้ บ้านที่มีลูกๆหลายคนหรือพี่น้องเยอะๆ เท่าที่เคยพบเจอมา จะมีคนรีบแย้งกันเพื่อให้ได้เป็นผู้จัดการมรดก โดยเข้าใจว่าเมื่อศาลตั้งตัวเองให้เป็นผู้จัดการมรดกแล้ว จะได้โอนทรัพย์มรดกนั้นมาเป็นของตัวเองได้อย่างสบายๆ มรดกทั้งกองจะจัดการอย่างไรก็ได้ตามใจ พี่น้องคนอื่นๆต้องมาคอยเอาใจ เพราะคิดว่าการแบ่งให้ใครน้อยหรือมากเป็นสิทธิของผู้จัดการมรดก
แต่ในความเป็นจริง กฎหมายกำหนดหน้าที่ผู้จัดการมรดกไว้อย่างชัดเจน ว่าต้องแบ่งมรดกให้เป็นธรรม ตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนดให้ หากไม่ทำหน้าที่ หรือ ทำให้ทายาทเสียสิทธิที่จะได้รับมรดก เช่น เพิกเฉยไม่แบ่งทรัพย์มรดกนั้นแก่ทายาท โอนมรดกให้ตัวเองคนเดียว นำทรัพย์มรดกไปขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดมากๆ
ทายาทที่เสียประโยชน์นั้น หากพบว่าผู้จัดการมรดกเจตนาหาประโยชน์โดยไม่ชอบธรรม มีสิทธิให้ทนายทำคำร้องต่อศาลขอถอนผู้จัดการมรดกเดิมออกไป แล้วตั้งบุคคลอื่นขึ้นทำหน้าที่แทนได้ แต่มีข้อควรระวังคือต้องอย่าปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไป เพราะการฟ้องคดีมรดก อายุความ 1 ปี ส่วน คดีจัดการมรดก อายุความ 5 ปี กฎหมายแบ่งออกชัดเจน อายุความไม่เหมือนกัน หากหมดอายุความแล้ว ก็หมดสิทธิที่ศาลจะช่วยเหลือ
ฉะนั้นเมื่อพบว่าผู้จัดการมรดกทำผิดหน้าที่ มีพฤติการณ์ทุจริต นอกจากร้องเพิกถอนให้ออกจากตำแหน่งผู้จัดการมรดกแล้ว ทายาทยังมีสิทธิฟ้องคดีอาญาแก่ผู้จัดการมรดกนั้น ในข้อหายักยอกทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกด้วย
ประการสำคัญหากไม่แน่ใจว่าอายุความเริ่มนับอย่างไร ใกล้จะขาดอายุความหรือยัง ต้องรวบรวมพยานหลักฐานอย่างไรให้ศาลท่านเห็นชัดถึงพฤติการณ์อันไม่ชอบธรรม ต้องเขียนคำร้องอย่างไร ปรึกษาทนายได้ ยินดีให้บริการครับ
โฆษณา