25 ก.พ. เวลา 07:06 • ความคิดเห็น

กาแฟที่แพงที่สุดในชีวิต

พี่เจี๊ยบ ปฐมา จันทรักษ์ ผู้เป็นเบอร์หนึ่งของบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกในไทยตอนนี้ เป็นผู้หญิงไทยที่เก่งและน่าทึ่งที่สุดคนหนึ่งที่ผมเคยเจอ พี่เจี๊ยบทำงานที่ไมโครซอฟท์สำนักงานใหญ่ที่สหรัฐสมัยทศวรรษ 90 และไต่เต้าจนเป็นผู้บริหารระดับสูงในวงการเทคสมัยนั้นที่ดูแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
2
เพราะพี่เจี๊ยบจบการศึกษาที่ประเทศไทยก่อนไปต่อโทเมืองนอก เป็นผู้หญิงเอเชียตัวเล็กๆในวงฝรั่งผิวขาวที่รู้จัก สนิทสนมกันและดูถูกดูหมิ่นคนเอเชียอยู่มาก ไม่พูดถึงว่ามาจากประเทศโนเนมในเรื่องเทคแบบไทยแลนด์ในยุคนั้น แต่พี่เจี๊ยบก็ทำได้ พิสูจน์ให้ฝรั่งเห็นว่าหญิงไทยตัวเล็กๆ ก็สามารถสร้างผลงานและก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟท์ที่ซีแอตเติ้ลได้ในตอนนั้น
3
พี่เจี๊ยบอยู่ไมโครซอฟท์กว่ายี่สิบปี ก่อนที่จะตัดสินใจกลับไทยเพื่อดูแลพ่อแม่ และรับงานเป็นเบอร์หนึ่งไอบีเอ็มไทยก่อนมาที่ accenture ในปัจจุบัน ผมถามพี่เจี๊ยบว่าอะไรที่ทำให้พี่เจี๊ยบเอาชนะฝรั่งมั่งค่าที่พร้อมดูถูก ไม่เห็นผู้หญิงเอเชียอยู่ในสายตาได้ในยุคนั้น
2
พี่เจี๊ยบหัวเราะก่อนที่จะบอกว่าสมัยก่อนนั้นโดนหนักมาก ทำอะไรก็ติดลบก่อน แต่พี่เจี๊ยบอาศัยการทำเกิน อะไรที่เจ้านายให้ทำ พี่เจี๊ยบใส่สุดใส่เกินความคาดหวัง เกินคนอื่นไปมากทุกงาน เช่นถ้าเจ้านายพี่เจี๊ยบจะต้องเข้าไปรายงานในคณะผู้บริหาร
2
พี่เจี๊ยบจะเตรียมสไลด์ให้ทุกหน้า เตรียมคำตอบสำหรับทุกคำถามที่อาจจะเกิดขึ้นทุกประเด็นอย่างครบถ้วน รวมถึงการไม่ยอมแพ้ที่จะออกความเห็นและสู้อย่างเต็มที่ในความคิดของตัวเอง และทำผลงานให้ได้เกินเป้าให้ได้ อึด ถึก ทน ถึงจะเอาชนะฝรั่งที่ดูถูกผู้หญิงเอเชียได้
แต่พี่เจี๊ยบก็เล่าว่า ยังไง stereotype ที่ฝรั่งสมัยก่อนมีต่อผู้หญิงเอเชียตัวเล็กๆก็มีเยอะอยู่ดี มีครั้งหนึ่งตอนที่พี่เจี๊ยบเป็นผู้บริหารระดับสูงแล้ว จะต้องเรียกบริษัทคู่ค้า 7 รายมาเจรจาทำดีลใหญ่ ก็ติดต่อผ่านอีเมล์กันในชื่อ patama ไม่เคยเจอตัวจริงกัน พอถึงเวลาประชุม พี่เจี๊ยบก็เดินเข้าห้องพร้อมลูกน้องฝรั่งซ้ายขวา ในห้องก็เห็นฝรั่งเจ็ดคนยืนคุยกันอย่างสนิทสนมเพราะคงรู้จักกันดีเพราะอยู่ในแวดวงเดียวกัน ฝรั่งบางคนก็เปรยตามาเห็นสามคนเดินเข้ามา และก็ยังพูดคุยกันต่อ
4
พอพี่เจี๊ยบกับลูกน้องเดินเข้ามาในห้อง ฝรั่งคนหนึ่งก็มองมาที่พี่เจี๊ยบแล้วพูดว่า “ could you get us some coffee?” พี่เจี๊ยบชะงักไปนิดนึง กวาดตาไปรอบๆก็ไม่เห็นใครอีก และก็รู้ได้ทันทีว่าฝรั่งคนนั้นคงเห็นผู้หญิงไทยตัวเล็กๆและคิดไปเองว่าถ้าไม่ใช่พนักงานตัวจิ๋วก็คงเป็นแอดมินประสานงาน เพราะรู้จักกันผ่านอีเมล์ในนาม patama คงไม่ทันคิดว่าผู้หญิงตัวเล็กหน้าเอเชียนี้จะเป็นผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟท์ที่นัดเขามาเจรจา
6
พี่เจี๊ยบตั้งสติอยู่แป๊บนึง สูดหายใจลึกๆ ในใจก็คิดจะสวนกลับด้วยตำแหน่งอำนาจที่มี แต่พี่เจี๊ยบก็ทำในสิ่งที่ผมคิดว่าเท่มากๆ คือใจเย็นและถามฝรั่งเจ็ดคนทีละคนว่าเอากาแฟแบบไหน ใส่น้ำตาลกี่ก้อน ใส่นมหรือไม่ อย่างช้าๆและใจเย็นมาก พี่เจี๊ยบบอกว่ายังจำแต่ละแก้วได้จนวันนี้ ลูกน้องทั้งสองก็ทำหน้าเลิ่กลั่ก ไม่รู้จะทำอย่างไรที่จะคลี่คลายสถานการณ์นั้นได้
7
แล้วพี่เจี๊ยบก็เดินออกไปนอกห้องไปจัดกาแฟเจ็ดแก้วแล้วเดินเข้ามาพร้อมกาแฟทั้งเจ็ด ตอนที่เดินเข้ามาฝรั่งทั้งห้องก็คงรู้ตัวจากลูกน้องพี่เจี๊ยบแล้วว่าพี่เจี๊ยบเป็นใคร หน้าตาก็ซีดๆจ๋อยๆกันหมด พี่เจี๊ยบก็เสริฟให้ทีละคนก่อนที่จะพูดติดขำๆว่า …this will be the most expensive coffee you’ve ever had
9
พี่เจี๊ยบเล่าว่า หลังจากนั้นดีลที่เตรียมมาเจรจากันหลายชั่วโมง เสร็จสิ้นภายในไม่กี่นาที คู่ค้าทุกคนแทบจะยอมโดยไม่โต้เถียงใดๆเพราะรู้ดีว่าตัวเองทำอะไรลงไปในเรื่องกาแฟนั้น และก็กลายเป็นกาแฟที่แพงมากๆของคู่ค้าเหล่านั้นจริงๆ
3
พี่เจี๊ยบเล่าเรื่องนี้ด้วยความขำเพราะหลังจากนั้นคู่ค้าเหล่านี้ก็เติบใหญ่ กลายเป็นผู้บริหารระดับสูง เป็นเศรษฐี และกลายเป็นเพื่อนเป็นคนรู้จักของพี่เจี๊ยบไป แต่เวลาเจอพี่เจี๊ยบตามงาน พี่เจี๊ยบก็มักจะแซวว่า เอากาแฟมั้ย ทุกคนก็จะยิ้มแหะๆ แล้วรีบพยายามบริการเอากาแฟให้พี่เจี๊ยบแทนเสมอ ก็เป็นเรื่องที่แซวเล่นขำๆ ไปอีกนาน
5
ผมฟังเรื่องนี้แล้วก็ได้แต่นับถือในสติและการรับมือสถานการณ์ที่ท้าทายอีโก้ของตัวเองได้อย่างนิ่งมากๆของพี่เจี๊ยบที่สามารถระงับความโกรธที่โดนดูถูกและระงับการใช้ตำแหน่งหน้าที่โวยวายกลับไปในทันทีซึ่งก็คงทำได้ แต่กลับพลิกความโกรธเป็นโอกาสในการทำให้ถือไพ่เหนือกว่าเพื่อเชือดนิ่มๆและผลลัพธ์ที่ใหญ่กว่านั้นมาก
4
เรื่องกาแฟของพี่เจี๊ยบนี้แสดงถึงคุณสมบัติของผู้นำและเป็นการใช้สติในยามที่จำเป็นได้ดีมากๆ เป็นตัวอย่างที่ดีไว้เผื่อพวกเราได้เจอเหตุการณ์ที่ท้าทายอีโก้แบบนี้แล้วสามารถใช้สติเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในสถานการณ์นั้นๆ
4
จะได้ทำให้ “กาแฟ” ของเรานั้นมีราคาแพงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แบบกาแฟของพี่เจี๊ยบครับ
1
โฆษณา