25 ก.พ. เวลา 07:08 • ปรัชญา

หมุดบอกพิกัดดวง

ทำอะไรเฮง ทำอะไรปัง ดูดาวนพเคราะห์
ในสมัยโบราณครูบาอาจารย์แทนค่าดาวนพเคราะห์กับสภาวะอันมีอยู่แล้วตามปกติของโลก อาทิพระจันทร์ (๒) คือความอ่อนโยน เพศหญิง ส่วนพระอังคาร (๓) คือความเข้มแข็ง เพศชาย
ในสูตรการคำนวณวิชาโหราศาสตร์เราก็สามารถอ่านดาวส่วนนี้ประกอบ เพื่อเข้าใจรายละเอียดเส้นทางชีวิตได้มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น เราประกอบอาชีพแพทย์ แต่ดาวที่สัมพันธ์กับตัวตน (ตนุ) หรือการงานการเงิน (กัมมะ/กดุมภะ) เป็นดาวพระศุกร์ (๖) ดาวแห่งศิลปะ ความสุนทรียะ เหตุแห่งการมีงานดีเงินดี เราจึงอาจต้องโฟกัสที่การใช้ "ศิลป์" ในการประกอบอาชีพ
ในเชิงการปฏิบัติ เราก็อาจใช้การเอนเตอร์เทนคนไข้ คุยสนุก หรือทำให้คนไข้รู้สึกหย่อนใจกับการมาหาหมอ มากกว่าการเน้นวิชาการ เป็นผู้รู้สุดทาง เส้นทางชะตาชีวิตดวงนี้ก็อาจเปลี่ยนไปในทางที่การงานการเงินดีขึ้นได้
โหราศาสตร์เป็นวิชาว่าด้วยสถิติครับ ภูมิปัญญาของครูบาอาจารย์สมัยก่อนถือว่าไม่ธรรมดาเลย มันจะน่าเสียดายมากถ้าเราไม่ได้มีโอกาสเรียนรู้อะไรจากแนวคิดเหล่านี้ไว้บ้าง
ส่วนตัวครูมองว่าความรู้เหล่านี้เรียนแล้วไม่ต้องจบมาไปทำงานเป็นหมอดูก็ได้ครับ ความรู้เหล่านี้เป็นของกลาง ถ้าเราประยุกต์เป็น มันใช้กับอาชีพไหน กับสายงานแบบไหนก็ได้
เรียนโหรกันครับ^^
โฆษณา