ดอกเบี้ยอลเวง …
เมื่อคืนนั่งฟังทางเครดิตบูโร ออกมาพูดเรื่องดอกเบี้ย
มันกึมีเหตุผลดี และมีแนวทางที่น่าจะทำได้
ก็เห็นด้วยนะ
แต่จะบอกว่าไม่เห็นด้วยกับแบงค์ชาติเลย
ก็ไม่ใช่อีกเหมือนกันเพราะเป็นเหตุผลที่รับฟังได้
ปัญหาดอกเบี้ย มันไม่น่าใช่การมานั่งเถียงกันว่าใครถูก
แต่มันควรจะมาดูจุดที่รับได้ทั้งสองฝ่ายมากกว่า
…ซึ่งในกรณีนี้ ต้องยอมรับว่าแบงค์ชาติ ตึง กระต่ายขาเดียวมากจนเกินไป จะด้วยเหตุผลอะไร ก็ไม่รู้ล่ะนะ…
แต่เหตุผลหลักๆ ที่เศรษฐกิจไทยมีปัญหาที่หาทางออกได้ยาก
ดูเหมือนจะเกิดขึ้นจากข้อมูลที่ทับซ้อน
และถูกเก็บแบบไม่ถูกต้องตามมาตรฐานเสียมากกว่า
ทำให้หลายอย่างมันย้อนแย้งกันในตัวมันเอง
และย้อนแย้งกับชาวบ้านที่เขาเผชิญปัญหาอยู่ทุกวัน….
เอาที่เถียงกันอยู่ก่อน เรื่องดอกเบี้ย เงินเฟ้อ
และการเติบโตเนี่ย
ถ้าเรามองกันผ่านๆ ก็เหมือนดอกเบี้ยไทยนั้นไม่สูงอะไรนัก
มันต่ำกว่าหลายประเทศเสียด้วยซ้ำ
ปัญหาคือว่า การที่ดอกเบี้ยเราต่ำเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อ
แต่บังเอิญว่าตัวเลขเงินเฟ้อของเรามันถูกบิดเบือนน่ะสิ
เปล่า… ไม่ได้บอกว่า ตัวเลขเงินเฟ้อมีการแต่งตัวเลขเท็จ
แต่มันถูกบิดเบือนจากความเป็นจริง ด้วยมาตรการอุ้มพลังงาน
และอีกสารพัดอุ้ม ที่ทุกรัฐบาลทำกันมา
…ช่วงลุงดูจะหนักกว่าเขาเพื่อน….
การอุ้มราคาพลังงานนั้น ทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อไทย
ไม่ได้สะท้อนภาพที่แท้จริงของสภาพเศรษฐกิจอย่างที่ควรเป็น
เช่นเดียวกับการพยุงราคาสิ่งต่างๆ และการไม่ยอมขึ้นค่าแรง
ของผู้มีอำนาจ
เหล่านี้ทำให้เงินเฟ้อต่ำกว่าความเป็นจริงทั้งสิ้น
การอุ้มสารพัดของรัฐบาลไทยนั้น ถ้าดูเผินๆ
ก็เป็นการช่วยชาวบ้านที่ทุกรัฐบาลสมควรทำ
แต่ในทางหนึ่ง มันคือการบิดเบือนโครงสร้างของระบบ
โดยหวังผลทางการเมืองเสียมากกว่า
ที่จะมองไปที่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจริงๆ
แบงค์ชาตินั้นทราบดี ว่าตัวเลขเงินเฟ้อต่ำ
ที่ตัวเองรายงานออกมานั้น เป็นเพียงภาพลวง
พวกเขารู้ดีว่า หากไม่มีการอุดหนุนราคาพลังงาน
มันจะสูงกว่านี้มาก ทำให้ต้องยืนกระต่ายขาเดียวไว้ก่อน
เพื่อรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
แต่ในอีกทาง ภาคธุรกิจก็มองว่า
อ้าว! ถ้าเงินเฟ้อมันต่ำ เอ็งก็ลดดอกเบี้ยสิ
แล้วก็อุ้มน้ำมันและอย่างอื่นต่อไป เพื่อรักษาสภาพแทน
เพราะงี้แหละ ถึงต้องมานั่งเถียงกันอยู่จนทุกวันนี้
มันจึงดูจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย
เพราะต่างฝ่ายต่างก็ใช้ตัวเลขที่ไม่ถูกต้องเดียวกัน
แต่มองไปกันคนละมุม ….
สำหรับชาวบ้านแล้ว การเผชิญดอกเบี้ยที่สูง
มันไปกดดันกำลังซื้ออย่างมาก
พวกที่ผ่อนของอยู่ทุกวันนี้
มีแนวโน้มจะสร้างหนี้เสียสูงขึ้น
เพราะเงินเฟ้อวิ่งไม่ทันดอกเบี้ยเหมือนในอดีตอีกแล้ว
ค่าแรงก็ไม่ค่อยขึ้นในทุกระดับ
มันเป็นเหมือนวัฏจักรที่วนไปมาแล้วหาทางออกไม่ได้
ของเศรษฐกิจไทย ที่สัมพันธ์กันทั้งหมด ทุกตัวแปร
คนที่แก้ปัญหาได้ เขามองไปที่ตัวใหญ่มากกว่าคนตัวเล็ก
โดยหวังว่า ถ้าตัวใหญ่รอด จะได้มีเงินไปจ้างตัวเล็ก
โดยไม่ได้มองว่าตัวเล็กจะเดือดร้อนมากกว่า
ที่จริงแล้ว การอุดหนุนราคาพลังงาน ควรลดลงได้เสียทีแล้ว
เช่นเดียวกับสินค้าอีกหลายรายการ
มันไม่มีประโยชน์นัก เพราะราคาพลังงานปัจจุบันมันไม่ได้
พาให้คนเดือดร้อนเท่ากับปัญหาอื่นที่รัฐบาลควบคุมไม่
ได้จากปัจจัยภายนอก
รัฐบาลไทย สามารถอุ้มราคาน้ำมันและก๊าซได้
แต่ไม่สามารถควบคุมหรืออุ้มสินค้าวัตถุดิบอื่นได้
ส่งผลให้สินค้าอุปโภค บริโภค ถีบตัวสูงขึ้นมาก
โดยเฉพาะสินค้านำเข้าที่เป็นปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
ดังนั้น การอุ้มน้ำมัน จึงแทบจะช่วยอะไรคนบ้านๆไม่ได้เลย
แต่กลับกลายมาเป็นข้ออ้างให้กับบางฝ่าย
มีไว้รักษาผลประโยชน์เสียมากกว่า
การที่เราบิดเบือนตัวเลขต่างๆ ด้วยวิธีซุกขยะใต้พรมแบบนี้มาตลอด มันทำให้มาถึงวันนี้เมื่อเรามีปัญหาจริงๆแล้ว
เราหาทางออกไม่ได้
หันหน้าทางไหนก็ตัน
การอุ้มชาวบ้านมาจนเคยชิน มันกลายเป็นสิ่งที่นักการเมือง
ที่มีอำนาจตัดสินใจ ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงมันได้
เพราะกลัวเสียงสนับสนุนทางการเมือง
เราชอบทำแบบนี้กัน
เราชอบทำอะไรหมกเม็ดเอาหน้า โดยอ้างว่า
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งหลายแหล่
กลัวเงินทุนไหลออก
มากกว่าการดูสภาพชีวิตที่เป็นจริงของประชาชน
ตราบใดไทยยังชอบบิดเบือนกระบวนการเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ
การหาบทสรุปในทุกเรื่องก็ย่อมยากไปด้วย
เลิกกันได้ซะทีได้แล้วมั้ง
ผมว่า ไม่ใช่เขาห่วงว่าทุนต่างชาติจะหนีหรอก
เพราะต่างชาติเขารู้กันหมดแหละ ว่าอะไรเป็นอะไร
และรู้ด้วยว่า ทำไมบางส่วนของไทยจึงปลอดภัย
ที่เหมาะจะเอาเงินมาหลบไว้
ดังนั้นเขาจะไม่มีทางขนเงินออกจากบ้านเราจนหมด
…แต่ผู้มีอำนาจไทยน่าจะห่วงตัวเอง ห่วงผลประโยชน์
และผลการเมืองของตัวเองซะมากกว่าล่ะนะ…
…ปัญหาน่ะแก้ได้ ถ้ามองประชาชนส่วนรวมเป็นหลักครับ….
…แต่ถ้าพวกท่านยังห่วงขาใหญ่ไม่เลิกแบบนี้ มันก็จบล่ะ 😑😑😑….
รายการตอบโจทย์เมื่อวาน ลองฟังกันดูนะครับ
ภาพ The Economic Times
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
