28 ก.พ. เวลา 07:37 • ไลฟ์สไตล์

มุ่งสู่ทะเลสาปเต๋อซี (Diexi Lake)

เริ่มเช้าวันใหม่ ด้วยอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์แบบจีน มีข้าวต้มน้ำใสๆ กับกับข้าวผัดผักต่างๆ ไส้กรอก ไข่ต้ม ไข่ดาวก็มี มีสลัดผัก ผลไม้ น้ำผลไม้ นม ฯ พอรับประทานได้ แต่จะให้อร่อยนั้น คงไม่เท่าไร แต่ทานพออิ่ม เดี๋ยวต้องเดินทางอีก ประมาณ 6 ชม.เทียว เพราะต้องขึ้นที่สูง รถขับเร็วไม่ได้ืและกฎของจีน คือ ทุกๆ สองชั่วโมงเขาต้องให้คนขับพัก 20นาที จะได้ไม่เครียดเกินไป
อาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์
ทะเลสาปเต๋อซีนั้น ตั้งอยู่ระดับความสูงเกือบ 3000 เมตร เป็นทะเลสาปสีเขียวเทอร์คอยซ์ น้ำใสเรียบสนิท ชวนให้หลงใหล มีแม่น้ำเหลืองลดเลี้ยวเข้าไปตามหลืบเขา
ทะเลสาปนี้เป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวปี พ.ศ 2478โน่น ทำให้เกิดทัศนียภาพสวยงามเช่นนี้
รถผ่านขุนเขาหลายตอน เริ่มไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นถนนอีกด้านของภูเขาพัง และขาดตอน ไกด์บรรยายว่า เมื่อปี คศ.2018 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นในละแวกนี้
( Dujiangyan ) ข่าวออกไปว่าแรงนั้นไม่ถึง7 ริคเตอร์ แต่ความจริงแล้ว ความแรงนั้นมากกว่า 8ริกเตอร์ ทำให้เขาถล่มทลาย หินบางส่วนถล่มลงมาปิดเส้นทาง และ ถนน พังเป็นแถบๆ เมืองหลายเมืองจมหายไปในกลุ่มหินถล่ม ผู้คนตายจำนวนมาก ทางการจีนจึงต้องเร่งสร้างทางใหม่ เป็นฝั่งที่เราเดินทางนี่แหละ
กล่าวกันว่า หากแผ่นดินไหวต่ำกว่า7 ริกเตอร์ ภายในสามารถจัดการเองได้ แต่หากมากกว่า ต่างชาติมีสิทธิ์ส่งคนหรือเครื่องมือเข้ามาช่วย แต่ทางจีนไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวายน่ะ เพราะย่านนั้นเป็นแหล่งที่ตั้งฐานทัพของจีนนั่นเอง
เราผ่านเมือง Wenchuan ยิ่งสูง อุณหภูมิยิ่งลดลง ไม่นาน เราแวะทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารก่อน เพราะใกล้เที่ยง ต้องเดินทางอีกไกล
อาหารแบบทิเบต
อาหารกลางวันก็จะเป็นแบบมัน และร้อนของหมาล่า หรือพริกหอม นั่นแหละ อร่อยไปอีกแบบ แต่จะมันเยอะ เพราะที่สูงอากาศหนาว ต้องการความอบอุ่นสูง พวกเราคนเมืองร้อน จะทานอาหารแบบนี้ทุกวันไม่ได้ เดี๋ยวไขมันขึ้นแย่เลยอ่ะ แต่ก็เอาเถอะมาไม่กี่วัน พวกเห็ดหูหนูผัดเขาก็อร่อยดี ขาหมูก็อร่อย
เมื่อทานอาหารเสร็จก็เดินทางต่อ
ภูเขาหินสูงตลอดเส้นทาง
ยิ่งสูงก็ยิ่งร้อนแดด เพราะใกล้ดวงอาทิตย์ แดดจ้าเมื่อมาถึงจุดพักรถ คนรถพักขณะเดียวกันก็มีการฉีดน้ำล้างรถเป็นการใหญ่ ที่นี่มีของพื้นเมืองขาย พวกผลไม้สด ตรงนี้มีจามรีให้ถ่ายรูปด้วย
จามรีสีขาวบริการให้นั่งถ่ายรูป
เขาว่าในฝูงจามรีนั้นจะเป็นสีดำเสียส่วนใหญ่ ในหมื่นตัวจะเป็นสีขาวสักตัวเดียว มิน่า เจ้าของนำมาบริการให้นักท่องเที่ยวนั่งแล้วถ่ายรูปคู่ เก็บครั้งละ 10 หยวน แต่จามรีสีขาวเนี่ย สะอาด ขนเงางาม เขาหมั่นแปรงขนเสมอ เขาสวยมาก เลยยอมจ่ายเพื่อถ่ายรูปด้วยเป็นที่ระลึก
ทางการจีนมีนโยบายให้ทุกคนมีรายได้ รวยขึ้น ๆ จึงออกกฎว่า ผู้ใหญ่บ้านแต่ละหมู่บ้านต้องทำให้ลูกบ้านรวยให้ได้ ถ้ามีคนจน ผู้ใหญ่บ้านจะถูกลวโทษ เออ กฎนี้เข้าท่าแฮะ อยากให้ใช้กับคนไทยบ้าง
และเมื่อรถผ่านข้างทางจะเห็นบ้านที่เขาเลี้ยงจามรีเป็นฝูงใหญ่ แต่ก่อนหากินตามทุ่งหญ้า ยากจน แต่ปัจจุบัน มีบ้านใหญ่โตมาก คนที่มีจามรีในครอบครองกลายเป็นเศรษฐีบ้านนอกกันหมดแล้ว บ้านนี้ยังกับวัง
ขณะที่เขากำลังร้่นรถบัสอย่างเมามัน (คือฉีดน้ำแรงสูง รอบคันรถ แล้วกระหน่ำเอาไม้ม็อปรีดน้ำออก ต้องทำให้เสร็จภายใน 20นาที ที่คนขับรถพัก และพวกเราก็เดินไปหาซื้อของพื้นเมือง มีผลไม้สดอร่อยมาก โดยเฉพาะแอปเปิ้ล เพราะเป็นแหล่งปลูกเลยทีเดียว และมีองุ่น ลูกไหนแสนหวาน ผลเล็กแต่หวานกรอบมากไม่ขมเหมือนที่ขายในบ้านเรา
มีของป่ามีหลายอย่าง และที่สำคัญคือหมาล่า ใหม่ๆ หอมมาก็ ราคาไม่แพง ฯ
ลูกไหน และของที่ระลึกข้างทาง
เมืองซงพาน
เมื่อเราออกเดินทางต่อ ก็มาถึงเมืองซงพาน (Songpan Ancient Town ) เมืองชายแดนจีน -ทิเบต สมัยโบราณเป็นเมืองที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าของชาวฮั่นและทิเบต ค้าขายพวกใบชา ผ้าแพร เกลือ ขนแกะฯลฯ เขาว่าเส้นทางนี้เป็นหนทางลำเลียงสินค้าไปขายทางยุโรปด้วย เวลาไปค้าขายก็ไปเป็นขบวนใหญ่ ใช้เวลานานนับปีกว่าจะกลับบ้าน เรียกว่ากลับมาลูกที่ตอนไปอยู่ในท้อง ก็วิ่งแล้ว ฮ่าๆๆๆ
เมื่อก้าวผ่านประตูเมืองเข้าไป ปัจจุบันเขาจัดเป็นเมืองโบราณ ให้เที่ยวชม มีของขายตลอดทาง กำแพงสูงใหญ่นั้นถูกสร้างในสมัยราชวงศ์หมิง ใน ค.ศ.1933 ปัจจุบันทางการจีนจัดที่จอดรถเป็นระเบียบ นักท่องเที่ยวเดินไปยังประตูเมือง สองข้างทางมีสินค้าพื้นเมืองวางขาย พวกลูกปัด กำไล ดูแล้วคล้ายของชาวเขาเราเลยอ่ะ
เมื่อชมเมืองซงพานพอควรแล้ว ได้เวลาเดินทางต่อ….
โฆษณา