6 มี.ค. เวลา 04:51 • การตลาด

5 เหตุผลที่ Pet Influencer เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่น่าจับตามองในปี 2024

ตลาดสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับบทบาทของ "Pet Influencer" ที่จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น คนไทยนิยมเลี้ยงสัตว์แทนลูกมากขึ้น โดย 49% ของคนไทยเลี้ยงสัตว์เป็นลูก (Pet Parent) เสมือนคนในครอบครัว สัตว์เลี้ยงยอดนิยมกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ก็คือ เหล่าทาสหมา ทาสแมว นั่นเอง โดยคิดเป็นน้องหมา 40.4% และน้องแมว 37.1%
รวมถึงการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก หรือกลุ่มสัตว์แปลก (Exotic Pet) เช่น อีกัวน่า กิ้งก่า แฮมสเตอร์ สุนัขจิ้งจอก ชูการ์ไกลเดอร์ นก งู เต่า ปลาสวยงาม มด แมงมุม เป็นต้น ก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นในปี 2024 เนื่องจากผู้คนนิยมเ ลี้ยงสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก และไม่ส่งเสียงรบกวน
เทรนด์เหล่านี้ส่งผลให้ตลาดสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้น มีการคาดการณ์ว่าในปี 2026 ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 2.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตเฉลี่ยปีละ 7.2% ปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดสัตว์เลี้ยงเติบโตต่อเนื่องนั่นก็เป็นเพราะว่า หลายคนเลี้ยงสัตว์แทนการมีลูก เพราะต้องการความสะดวกสบาย หรือมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโลก
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีก ได้แก่
- ผู้สูงอายุ และวัยเกษียณมีจำนวนมากขึ้น ต้องการเพื่อนคลายเหงา
- ผู้คนมีรายได้เพิ่มขึ้น มีกำลังซื้อสัตว์เลี้ยง และสินค้าหรือบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น
- โซเชียลมีเดีย นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น
- LGBTQ+ ได้รับการยอมรับมากขึ้น
จากผลการศึกษา พบว่าโฆษณาที่มีสัตว์และสินค้าอยู่ในภาพด้วยกัน มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้ามากที่สุดถึง 42.82% ซึ่งมากกว่าโฆษณาที่มีแค่รูปสินค้าเพียงอย่างเดียว (37.08%) และโฆษณาที่มีคน สัตว์และสินค้าอยู่ด้วยกัน (19.10%)
ทำไม? Pet Influencer ถึงดึงดูดความสนใจและโน้มน้าวผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าได้ มีอยู่ 5 เหตุผลหลัก ๆ ดังนี้ค่ะ
1. พลังแห่งการดึงดูดใจ: สัตว์เลี้ยงมีเสน่ห์ดึงดูดใจผู้คนโดยธรรมชาติ วิดีโอและรูปภาพของสัตว์เลี้ยงมักสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความรู้สึกอบอุ่นให้กับผู้ชมได้ง่าย ๆ จนทำให้คอนเทนต์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงถูกกดแชร์ กดไลก์ แสดงความคิดเห็น และมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ทำให้ Pet Influencer มีศักยภาพสูงในการดึงดูดความสนใจ และสร้าง engagement กับกลุ่มเป้าหมาย
2. สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship): ผู้ติดตาม Pet Influencer มักมีความผูกพันทางอารมณ์กับสัตว์เลี้ยง ผ่านเนื้อหาคอนเทนต์ที่น่ารัก ตลก และอบอุ่น สิ่งนี้ทำให้ผู้ติดตามรู้สึกเชื่อมโยงกับ Pet Influencer และเปิดใจรับข้อความที่เหล่า Pet Influencer สื่อ นอกจากนี้ผู้คนมักจะเชื่อคำแนะนำจาก Pet Influencer ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ดังนั้นก็จะสามารถช่วยให้แบรนด์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ยิ่งขึ้น และแบรนด์ก็จะสามารถสร้างฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น (Loyal Customer) ได้
3. สร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness): โฆษณาที่มีสัตว์เลี้ยงมักสร้างความประทับใจและจดจำได้ง่ายกว่าโฆษณาประเภทอื่น Pet Influencer สามารถช่วยสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและน่าจดจำ โดยการนำเสนอภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และน่าดึงดูด ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดูมีความจริงใจ เข้าถึงง่าย และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ในปัจจุบันมีแบรนด์มากมายในตลาด ใช้ Pet Influencer ในการโปรโมต สิ่งนี้สามารถช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ และเป็นวิธีสร้างความแตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่ง
4. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย: Pet Influencer สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ไม่ได้จำกัดแค่คนที่รักสัตว์เท่านั้น ตัวอย่างเช่น Pet Influencer ที่เน้นไลฟ์สไตล์ สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ติดตามที่สนใจแฟชั่น การท่องเที่ยว หรืออาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ Pet Influencer แต่ละตัวมีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เพศ อายุ และไลฟ์สไตล์ของสัตว์เลี้ยง การใช้ Pet Influencer ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดอีกด้วย
5. สร้างความน่าเชื่อถือ (Credibility):
สัตว์เลี้ยงสามารถกระตุ้นอารมณ์เชิงบวก เช่น ความสุข ความผ่อนคลาย ความอบอุ่น ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า เพราะเมื่อผู้บริโภคมีอารมณ์เชิงบวกต่อสัตว์เลี้ยง อารมณ์เหล่านั้นจะเชื่อมโยงไปยังสินค้าที่ปรากฏในโฆษณา ผู้คนมักมอง Pet Influencer ว่าเป็นบุคคลที่สามที่น่าเชื่อถือมากกว่าแบรนด์โดยตรง เพราะมีการรีวิวสินค้าหรือบริการอย่างตรงไปตรงมา แบ่งปันประสบการณ์จริง และสร้างความไว้วางใจกับผู้ติดตาม
ดังนั้นในปี 2024 ธุรกิจต่าง ๆ อาจจะต้องปรับตัว เพื่อรองรับเทรนด์ Pet Parents และสนับสนุน Pet Influencer มากขึ้น เช่น
- ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ โรงแรม ร้านอาหาร อาจจะต้องปรับรูปแบบบริการให้รองรับคนที่มีสัตว์เลี้ยง จัดพื้นที่ให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าใช้บริการได้มากขึ้น เช่น ร้านอาหารที่มีโซนสำหรับสัตว์เลี้ยง ห้างสรรพสินค้าที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้า
- ธุรกิจขนส่งสาธารณะ ควรมีบริการรับส่งสัตว์เลี้ยง
- พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ที่ตอบสนองความต้องการของ Pet Parents เช่น ของเล่นอัจฉริยะ อุปกรณ์ติดตามสัตว์เลี้ยง บริการส่งอาหารสัตว์เลี้ยง อาหารสัตว์เลี้ยงเฉพาะสายพันธุ์ บริการฝึกสัตว์เลี้ยง และบริการรับส่งสัตว์เลี้ยง บริการดูแลสัตว์เลี้ยงแบบพิเศษ เป็นต้น
- พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเชื่อมต่อ Pet Parents กับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น แพลตฟอร์มจองบริการดูแลสัตว์เลี้ยง แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
Pet Influencer กำลังกลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญสำหรับธุรกิจต่าง ๆ ในปี 2024 ด้วยศักยภาพในการดึงดูดใจผู้คน สร้าง engagement และสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง Pet Influencer จึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จสำหรับแบรนด์ หรือธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้นได้
ข้อมูลจาก: everydaymarketing, brandage, mandalasystem
โฆษณา