10 มี.ค. เวลา 11:32 • ความคิดเห็น
คนเราเป็นทุกข์ ก็เพราะความยึด ยึดว่าว่า ..อุปโลกน์ว่าคนนี้จะรักเรา จะเอาอกเอาใจ จะดูแล ช่วยเหลือ เป็นที่ใปปรึกษา เป็นที่ระบายอาศัย อะไรต่างๆ มีมันมีความหวัง มันเป็นอารมณ์เสีย ที่ว่า ผิดหวัง ก็เสียใจ สมหวังก็ดีใจ ที่เค้าว่า โลกนี้ ให้อารมณ์เป็นสุขเวทนา ที่สมหวัง ให้อารมณ์ทุกขเวทนา
เมื่อไม่สมหวัง มันมีอยู่สองอย่าง สุขทุกข์ในอารมณ์ที่ไม่เที่ยง ท๊่เกิดขึ้นในก ายในจิต ..ที่เค้าว่า โลกให้เพียงแค่นี้ ให้ใช้กายไปตายอารมณ์ ที่ผลักดันจิตให้ใช้กาย เคลือนไหว เคลื่อนที่ไปตามอารมณ์ ..จิตไม่สามารถจะจับกายมาอยู่นิ่งเฉย เพราะจิตไม่่สามารถฝืนอารมณ์ชนะอารมณ์ได้เลย หรือ ที่เค้าเรียกว่า ฝืนอารมณ์กรรมไม่ได้ ภายในกายมันเป็นอารมณ์ไปเสียทั้งหมด .
แต่เราก็มองไม่เห็น อารมณ์ภายในกาย
อกหักมันก็เป็นอารมณ์ ..ทั้งนั่น มาแกล้งให้เสียใจ ..ที่แท้ก็อารมณ์นั่นแหละ เข้ามาแกล้งให้ ฟุ้งซ่าน อยู่ไม่เป็นสุข ..ไม่มีความสุข . ตอนที่ ไม่อกหัก ทำไมมีความสุข ..พอสิ่งที่ยึดถือ หายไป ..ไม่มาหาอีกแล้ว มันก็เหมือนแกล้วจะเป็นจะตาย
..เหมือนคนรักจากกัน นี่พ่อแม่เจ็บป่วยยังไม่รู้สึกทุกข์ร้อน ..โอ้ย..เวลาอกหัก ..โอ้ย..จะเป็นจะตาย ฟุ้งซ่านกินข้าวบ่ลง นอนบ่หลับ..แล้วทำ ให้มันเป็นปกติ เหมือนก่อนนี้ อยู่ตัวคนเดียว .ไม่ได้หรือไง ..เมือก่อนก็อยู่ได้ ..ไม่มีใครเป็นภาระ แล้วแบกขันธ์ตัวเองไม่พอ ยังต้องไปแบกขันธ์คนอื่นด้วย . ปล่อยวางมันได้ ..แบกขันธ์ตัวเองพอแล้ว.
โฆษณา