11 มี.ค. เวลา 05:01 • การเมือง

ทำไมนายกจีนฯ ไม่แถลงข่าว - Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร

ในการประชุมสองสภาของจีนในครั้งนี้ คำกล่าวรายงานนโยบายประจำปีตอนเปิดการประชุมของนายกฯ จีนหลี่เฉียงไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ จีนจะรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 5 จะเน้นการเติบโตแบบมีคุณภาพ และจะไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ที่อาจสร้างปัญหาระยะยาวในอนาคต
3
แต่สิ่งที่กลายเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์และเป็นพาดหัวข่าวไปทั่วโลก คือ การประกาศของทางการจีนว่านายกฯ หลี่เฉียงจะไม่มีการแถลงและตอบคำถามผู้สื่อข่าวในวันสุดท้ายของการประชุม ซึ่งแต่เดิมเป็นประเพณีปฏิบัติของนายกฯ จีนมาตลอด 30 ปี
1
แถมไม่ได้จะเว้นช่วงแค่ปีนี้เพียงปีเดียว แต่แจ้งว่าในอนาคต หากไม่มีสถานการณ์พิเศษอะไร ก็จะไม่มีการแถลงและตอบคำถามผู้สื่อข่าวของนายกฯ ในวันสุดท้ายของการประชุมอีกต่อไป
เวลาตามข่าวเมืองจีน เราต้องพยายามถอดรหัส นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองเป็นเรื่องการเมืองว่า ท่านผู้นำอันดับ 1 อย่างสีจิ้นผิงคงจะต้องการเสียงเดียวภาพเดียวในทางนโยบายและทิศทางประเทศ (คือภาพของท่าน) ไม่ต้องการให้มีใครมาทาบรัศมี หรือให้มีการต้องมานั่งตีความกันว่าท่านผู้นำพูดอย่าง แต่นายกฯ พูดอีกอย่างหรือไม่
1
ในอดีต ผู้นำสูงสุดกับนายกฯ มักแสดงบทบาทควบคู่และโดดเด่นไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นในยุคของประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมินกับนายกฯ หลี่เผิงและนายกฯ จูหรงจี ประธานาธิบดีหูจินเทากับนายกฯ เวินเจียเป่า และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงกับนายกฯ หลี่เค่อเฉียงในสมัยแรกของสีจิ้นผิง
การตอบคำถามผู้สื่อข่าวประจำปีของนายกฯ จีนนี่แหละที่เป็นที่มาของประโยคเด็ดและคำคมมากมายที่ทำให้คนจีนจดจำลีลาของนายกฯ แต่ละคนได้เป็นอย่างดี เช่น คำอุทิศตัวของนายกฯ จูหรงจีว่าจะทุ่มเททำงานถวายชีวิต คำเตือนของนายกฯ เวินเจียเป่าว่าถ้าจีนไม่ปฏิรูป เข็มนาฬิกาอาจย้อนกลับไปช่วงโศกนาฎกรรมเช่นการปฏิวัติวัฒนธรรม
4
และล่าสุดเพียงไม่กี่ปีก่อน คือคำพูดของนายกฯ หลี่เค่อเฉียงที่บอกว่าจีนยังมีคนที่รายได้ต่ำอยู่มากกว่า 600 ล้านคน (ท่ามกลางการประกาศความสำเร็จว่าคนจนหมดประเทศเรียบร้อยแล้วของท่านผู้นำสีจิ้นผิง)
1
ในทางการเมือง ครั้งนี้จึงเป็นสัญลักษณ์อำนาจนำที่สูงยิ่งของสีจิ้นผิง โดยที่นายกฯ เป็นเพียงคนที่นำนโยบายท่านผู้นำไปขับเคลื่อนและปฏิบัติ แต่ไม่จำเป็นต้องมีเสียงมีความเห็นของตนมาเทียบรัศมีท่านผู้นำ
1
แต่นอกจากมิติสัญลักษณ์ในทางการเมืองแล้ว สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในจีนตอนนี้คือปัญหาความท้าทายในเรื่องเศรษฐกิจ ทำให้เกิดคำถามมากมายอยู่แล้วเกี่ยวกับการรับมือของรัฐบาลต่อปัญหาเศรษฐกิจเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการว่างงานของหนุ่มสาวชาวจีน ปัญหาวิกฤตลากยาวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัญหาการตกต่ำของตลาดหุ้นจีน ฯลฯ
นักวิเคราะห์ต่างชาติมองว่าน่าจะเป็นการตัดสินใจในนาทีสุดท้ายของทางการจีนว่าจะไม่เปิดตอบคำถามผู้สื่อข่าวในการประชุมปีนี้ เพราะก่อนหน้าการประชุมสองสภาฯ ฝ่ายโฆษกของรัฐบาลจีนยังเพิ่งสอบถามไปที่สำนักข่าวต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศเพื่อรวบรวมประเด็นคำถามที่จะถูกถามขึ้นในการแถลงข่าววันสุดท้ายอยู่เลย แปลว่าคำถามหลายข้อที่ได้รับคงตอบไม่ง่ายและบางข้ออาจละเอียดอ่อนที่จะตอบในสถานการณ์บริบทเศรษฐกิจการเมืองจีนในปัจจุบัน
9
นักวิเคราะห์บางส่วนยังมองว่า การตัดสินใจครั้งนี้ของรัฐบาลจีนอาจต้องการรักษาความยืดหยุ่นหรือช่องว่างในการปรับนโยบายภายใต้บริบทสถานการณ์เศรษฐกิจการเมืองทั้งภายในและภายนอกที่ผันผวนสูงมาก กล่าวคือ รัฐบาลจีนอาจไม่ต้องการให้ภาพนโยบายชัดเจนหรือมีทิศทางที่แน่นอนคงตัวมากจนเกินไป ดังที่ในรายงานประจำปีของนายกฯ ก็พูดแต่เพียงเป้าใหญ่ๆ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดนโยบายในทางปฏิบัติสักเท่าไหร่
ปัจจัยที่ไม่แน่นอนคือ ปีเลือกตั้งสหรัฐฯ นโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯ และนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หากภูมิรัฐศาสตร์โลกร้อนขึ้นก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน ย่อมมีผลต่อการปรับนโยบายของจีน เช่นเดียวกัน มีการวิเคราะห์ว่าจีนในตอนนี้ยังมีทิศทางนโยบายการเงินที่ไม่ชัดเจนมากนัก เพราะคงรอดูทิศทางการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปีนี้ด้วย
1
สิ่งที่หลายคนกังวลคือ ความโปร่งใสของข้อมูลและความชัดเจนของทิศทางนโยบายของรัฐบาลจีนต่อจากนี้ เพราะยิ่งไม่มีการตอบคำถามผู้สื่อข่าวของนายกฯ ยิ่งทำให้ขาดความเข้าใจต่อแนวคิดหรือจุดยืนของทีมผู้นำของจีน แต่โฆษกแถลงว่า จะมีการเพิ่มการแถลงข่าวของผู้บริหารระดับรัฐมนตรีและฝ่ายปฏิบัติมากขึ้น ดังที่ รมว.ต่างประเทศของจีนก็เพิ่งมีการตอบคำถามผู้สื่อข่าวทั้งในและต่างประเทศในระหว่างการประชุมสองสภาฯ
3
หากมองในเชิงทิศทางและบรรยากาศทางการเมือง การตัดสินใจยกเลิกการตอบคำถามผู้สื่อข่าวของนายกจีนฯ ในครั้งนี้มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ที่มองข้ามไม่ได้ เพราะจากจีนที่เคยเปิดกว้างและมีความหลากหลายในความเห็นในกลุ่มผู้นำระดับสูง (พร้อมเปิดโชว์ให้ภายนอกเห็นเป็นครั้งคราว) มาสู่จีนที่ขอมีเสียงเดียวภาพเดียวในทางนโยบายที่นำโดยสีจิ้นผิง และปิดกั้นมากขึ้นต่อภายนอกเกี่ยวกับความเห็นส่วนตัวของผู้นำระดับสูงคนอื่นๆ
3
โฆษณา