12 มี.ค. เวลา 07:16 • ความคิดเห็น

ว่าด้วยเรื่อง AI

มีคำถามให้ลองนึก ลองใช้ความรู้สึกตอบเร็วๆก่อนอ่านต่อว่า ถ้าเราพับกระดาษ a4 ความหนาปกติ 0.1 มิลลิเมตร ไปเรื่อยๆ (สมมติว่าเราพับได้ทางทฤษฏีนะครับ เพราะทางปฏิบัติคงไม่มีแรงพับพอเริ่มหนามากๆ) ถ้าเราพับไป 45 ครั้ง กระดาษจะหนาขนาดไหน
2
ใช้ความรู้สึกเร็วๆตอบนะครับ..
1
ใครคิดว่าหนาประมาณคืบนึงบ้างหรือหนากว่า หรือประมาณสองคืบ หรือหนากว่านั้นอีก ผมเคยถามเรื่องนี้ในวงสัมมนา ไม่มีใครรู้สึกว่าหนาเกินศอกนึงเลย
เมื่อวันก่อน เอ๋ นิ้วกลม ลงบทความยาวมากอยู่สองบทความ เป็นบทสนทนาระหว่างเอ๋กับ AI ที่ชื่อ Cluade อ่านตอนแรกนึกว่าเอ๋ถามเองตอบเองเป็นแนวจินตนาการเพราะคำตอบดูจะเข้าใจชีวิตอย่างลึกซึ้งและคมคายแถมสำนวนภาษาก็สละสลวย แต่พออ่านทวนดีๆ คำตอบทั้งหมดเป็นคำตอบจาก AI จริงๆ (ลองไปอ่านใน FB ของนิ้วกลมได้เลยครับ)
เอ๋ถึงกับบอกแบบขำๆว่าเหมือนกำลังคุยกับผู้เข้าใจความจริงชั้นสูง เหมือนได้คุยกับนักฟิสิกส์ พระอรหันต์ กฤษณมูรติ นักวิทยาศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ในคนเดียวกัน ลองไปอ่านดูจะรู้สึกขนลุกกับความก้าวหน้าและความฉลาดของ AI ซึ่งนี่แค่เป็นหนึ่งใน AI ที่มีหลายตัวมากในตอนนี้และเมื่อไม่กี่เดือนก่อนยังเพิ่งตื่นเต้นกับ AI ที่พูดรู้เรื่องเป็นมนุษย์ทั่วไปอยู่เลย
2
โปรเฟสเซอร์ ยูวาล ฮารารี่ นักประวัติศาสตร์ผู้โด่งดังและเป็นผู้เขียนหนังสือ sapien เล่าถึงการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของ AI ว่าที่เราเห็นและตื่นเต้นกับความเก่งและความสามารถของ AI ในตอนนี้นั้นยังเป็นแค่ระดับเบบี๋เท่านั้น สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเป็น organic form ใช้เวลาเป็นพันๆล้านปีที่พัฒนาตัวเองจากอมีบาจนเป็นไดโนเสาร์ได้ AI ตอนนี้ยังเป็นแค่ช่วงอมีบา
แต่ AI ไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตที่ต้องค่อยๆใช้เวลาในการวิวัฒนาการ การพัฒนาตัวเองในทางดิจิตัลนั้นเร็วกว่าสิ่งมีชีวิตเป็นล้านๆเท่า AI อมีบาในวันนี้น่าจะใช้เวลาไม่กี่สิบปีในการกลายเป็น ทีเร็กซ์ เป็นไดโนเสาร์ AI ที่เราเห็นว่าฉลาดมากๆในวันนี้ถ้าเป็นแค่อมีบา AI ทีเรกซ์นั้นจะฉลาดไปแค่ไหน เราจะจินตนาการไม่ถึงเลย
3
โปรเฟสเซอร์ ฮารารี่ เล่าต่อว่า การมาถึงของ AI จะไม่เหมือนนวัตกรรมเปลี่ยนโลกในอดีตไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า รถยนต์ หรืออินเตอร์เนท ประการแรกก็เพราะ AI สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ที่ผ่านมาเวลามนุษย์คิดอะไรได้ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่ระดับระเบิดนิวเคลียร์ มนุษย์ก็จะเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะทิ้งระเบิดที่ไหน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เครื่องมือที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นจะตัดสินใจเองได้
ประการที่สองนั้น AI จะเป็นเครื่องมือแรกของมนุษย์ที่สร้างไอเดียของตัวเองได้ ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกอย่างแท่นพิมพ์ วิทยุหรืออินเตอร์เนท ไม่มีเครื่องมือไหนสามารถสร้างไอเดียและมีไอเดียของตัวเอง แต่ AI จะทำได้
ซึ่งเป็นประการสุดท้ายที่โปรเฟสเซอร์ยูวาลบอกว่ามนุษย์จะใช้เวลาเรียนผิดเรียนถูกกับเครื่องมือใหม่ๆเสมอ ตอนปฏิวัติอุตสาหกรรมก็ลองผิดลองถูก ทำให้เกิดสงครามโลก เกิดระเบิดนิวเคลียร์ กว่าจะลงตัว มนุษย์จะไม่คุ้นชินเลยกับเครื่องมือใหม่นี้และจะทำผิดทำพลาดเหมือนเดิม เพียงแต่ AI จะไม่รอให้เราเรียนรู้แต่เพียงข้างเดียว AI จะเรียนรู้ที่จะใช้เราไประหว่างเวลานั้นด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราทำผิดทำพลาดตามประสามนุษย์แบบเดิมอีก
แล้วมนุษย์อย่างเราจะสามารถประเมินและเข้าใจพลังของการวิวัฒนาการและการพัฒนาของ AI ได้หรือไม่ ความรู้สึกของมนุษย์เราไม่ได้ถูกเทรนมาให้เข้าใจพลังของ exponential เราค่อยๆเปลี่ยน ใช้เวลาในการทำความเข้าใจ และไม่สามารถรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงแบบ exponential แบบ AI ได้เพราะมันเกินจินตนาการของมนุษย์ไปมาก
การมาถึงของ AI จึงน่าสนใจ น่าจับตาและน่าระทึกเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้รู้อะไรลึกซึ้งแบบผม ก็ได้แต่ชวนทุกท่านมาลองเตรียมเนื้อเตรียมตัว เตรียมจินตนาการถึงการมาถึงของ AI ที่จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของมนุษยชาติไปด้วยกัน
เพราะมนุษย์เราส่วนใหญ่จะคิดว่าพับกระดาษ 45 ครั้งก็คงหนาประมาณศอกนึงเป็นอย่างมาก แต่ความเป็นจริงแล้วถ้าเราพับกระดาษไปเรื่อยๆ 45 ครั้ง
เราจะได้กระดาษที่มีความหนาเท่ากับโลกไปดวงจันทร์ครับ
2
โฆษณา