21 มี.ค. เวลา 03:40 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

ขอบคุณที่มีเธอ : ความหมายของการมีชีวิต

ไม่รู้เพราะสูงวัย หรืออิ่มตัวกับการดูละครชุดจีนแล้ว ตั้งแต่ต้นปีก็มีเรื่องสนุกนะ แต่ไม่ได้ประทับใจเรื่องไหนจริงจังเลย จนกระทั่งเรื่องนี้
เรื่องนี้เป็นฉบับรีเมคจากละครชุดญี่ปุ่นเรื่อง The Hours of My Life (Boku no Ita Jikan) ซึ่งเพิ่งมารู้ทีหลัง เพราะไม่ค่อยได้ดูละครชุดญี่ปุ่นมากนัก
ตอนอ่านเรื่องย่อคิดถึงเรื่อง บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร ( One lire of tear ) เพราะโทนเรื่องคล้ายกัน เป็นเรื่องการต่อสู้โรคประหลาดที่ยังไม่มีทางรักษาให้หายได้ ซึ่งคาดหมายได้ว่า น้ำตาท่วมแน่นอน
ตอนอายุน้อยกว่านี้มาก ๆ ไม่ชอบดูละครเศร้า ไม่ว่าของชาติไหน เพราะคิดว่าหนัง ละครควรเป็นความบันเทิง ไม่ต้องไปหาความจริงอะไรของชีวิตมากนัก ชีวิตจริงก็รันทดพอแล้ว 🤣
แต่พออายุมากขึ้น ภูมิคุ้มกันทางใจแข็งแรงสวนทางกับภูมิคุ้มกันทางกาย เพราะความเศร้าทำอะไรเราไม่ได้ 😂กลายเป็นมองว่าความเศร้า ความทุกข์ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เหมือนกับความสุข มันเข้ามาได้ มันก็ออกไปได้
#ขอบคุณที่มีเธอ เป็นเรื่องราวของ หลินทั่ว เด็กหนุ่มที่เพิ่งเรียนจบ เริ่มต้นชีวิตการทำงาน มีความฝันของตัวเอง มีแฟนที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่แล้วกลับพบว่าตนเองเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS -Amyotrophic Lateral Sclerosis) ซึ่งจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
การดำเนินเรื่องเน้นให้คนดูเข้าใจผู้ที่เป็นโรคนี้ ทั้งในแง่อารมณ์และกายภาพ ว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นบ้าง และมันจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างไร
ประเด็นแรกที่ผู้เขียนคิดว่าบทต้องมาแนวนี้ คือ เมื่อพระเอกรู้ว่าตนเองเป็นโรคร้าย ก็ต้องบอกเลิกนางเอก เพราะไม่อยากให้คนรักลำบากดูแลตนเอง แต่เมื่อนางเอกรู้ความจริงก็จะต้องยืนยันว่าจะอยู่เคียงข้างพระเอกตลอดไป
ผู้เขียนมองว่าวิธีคิดแบบนี้เป็นความเห็นแก่ตัวของฝ่ายบอกเลิก กลัวว่าเขาจะเสียใจ เป็นทุกข์ ถ้าตัวเองตาย กลัวเขาลำบาก แต่ ณ วันที่บอกเลิก อีกฝ่ายคือโลกถล่มไปแล้ว และท้ายที่สุดแล้วเธอก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดี
จะไม่ดีกว่าหรือ ถ้าจะบอกกันตรง ๆ แต่แรก แล้วให้ผู้หญิงตัดสินใจ ความสัมพันธ์เป็นเรื่องของคนสองคน มีสิทธิอะไรตัดสินใจให้อีกฝ่ายว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร
ถ้าจะบอกว่าไม่อยากให้ผู้หญิงรู้สึกผิด หากเธอเลิกที่เดินจากไปเมื่อรู้ความจริง แล้วถ้าเธอไปรู้ทีหลัง ทำไมไม่คิดว่าผู้หญิงก็อาจรู้สึกผิดยิ่งกว่า ที่ไม่ได้ใช้เวลาอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ด้วยกัน
ส่วนที่ชอบมากของเรื่องนี้คือ การมองโลกตามความเป็นจริงของจือเชวี่ยในหลาย ๆ เหตุการณ์ โดยเฉพาะตอนที่มาบอกว่าก็ไม่แน่ใจหรอกว่าจะอดทนดูแลพระเอกไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ แต่ตอนนี้คือเลือกจะอยู่ด้วย เป็นความเต็มใจเป็นความสุข
หรืออย่างการที่ไปบอกพ่อแม่ว่า เราทุกคนยังต้องทำงาน เพราะโรคนี้มีค่าใช้จ่ายสูง ต้องใช้เงิน จึงต้องช่วยกัน
ประเด็นที่สำคัญที่สุดของเรื่อง คือ ความหมายของการมีชีวิต
ไม่มีใครรู้ว่าตนเองจะมีอายุยืนยาวเท่าไหร่ คนร่างกายกายแข็งแรงอาจจากไปก่อนคนป่วยออด ๆ แอด ๆ ก็ได้
ดังนั้นการมีอายุยืนหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับว่า เวลาที่มีในชีวิต ไม่ว่าจะแค่วันเดียวหรือหลายสิบปี เราได้ทำอะไรที่มีประโยชน์ ต่อตัวเอง ต่อครอบครัว และผู้หรือไม่
อย่างหลินทั่วค้นพบว่า แม้ว่ามือเขาใช้การไม่ได้ เดินไม่ได้ ร่างกายทรุดโทรมลงทุกวัน แต่เขายังสามารถทำประโยชน์ให้คนอื่นได้
🔷คุณล่ะคะ ค้นพบความหมายของการเกิดมาหรือกันยัง
นักแสดง
หลี่หลานตี๋ ไม่เกินความคาดหมายเลย บทแบบไหนเธอก็เอาอยู่ เรื่องนี้เห็นชัดเลยว่าไม่ต้องรอให้ใครส่งอารมณ์มาบิวด์ เธอวิ่งไปรออยู่ข้างหน้าแล้ว
หลินอี คงไม่ผิดหากจะบอกว่าเรื่องนี้คือบทที่ดีที่สุดที่เขาเคยเล่นมา ทำให้คนดูเห็นความสามารถในการถ่ายถอดอารมณ์ที่ซับซ้อนขึ้น ถ้าหันมาเล่นบทแบบนี้มากขึ้น ต่อไปก็จะไม่ใช่แค่นักแสดงที่หล่ออย่างเดียวอีกแล้ว
หมายเหตุ ปีนี้ผู้เขียนงานเยอะมากแบบตัวเองก็งง ๆ อาจไม่มีเวลามาเขียนถึงละครชุดจีน หนังจีน สักเท่าไหร่ และความยาวก็อาจจะสั้นลงไปด้วย ต้องขออภัยผู้ติดตามมา ณ ที่นี้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา