24 มี.ค. 2024 เวลา 00:44 • ประวัติศาสตร์

ไขความลับภาพวาด โมนา ลิซา

หากพูดถึงภาพวาดที่โด่งดังและคนรู้จักมากที่สุดในโลก คิดว่าใครหลายคนต้องนึกถึงภาพวาด โมนา ลิซา เป็นแน่ ด้วยเพราะเป็นผลงานของ เลโอนาร์โด ดา วินชี ที่เป็นทั้ง ศิลปิน จิตรกร วิศวกร นักคิด ระดับโลก
3
แต่อีกเหตุผลหนึ่งนั่นก็เพราะภาพ โมนา ลิซา มันเป็นภาพที่มีปริศนาความลึกลับมากมาย ด้วยเพราะเป็นภาพที่มีอายุมานานกว่า 500 ปี ทำให้มีประวัติเรื่องเล่าหลากหลาย จนเกิดทฤษฏีตีความต่างๆ นานา จนสามารถดึงดูดใครต่อใครให้มาเรียนรู้ไขความลับของภาพ และเกิดกระแสให้คนทั่วโลกต่างแห่แหนมาชมภาพจริงให้เห็นกับตามากกว่า 9 ล้านคนต่อปีที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์
4
ภาพวาด โมนา ลิซา ได้สร้างปัญหาให้กับนักประวัติศาสตร์มาโดยตลอด เพราะไม่รู้ว่าตัวจริงของนางเป็นใคร บ้างก็ว่า เลโอนาร์โด วาดโดยมี ลิซา เกอราร์ดินี ภรรยาของ ฟรานเชสโก เดล จิโอกอนโด พ่อค้าชาวฟลอเรนซ์ผู้ร่ำรวย บ้างก็ว่า เลโอนาร์โด วาดโดยใช้หน้าตัวเองเป็นแบบผ่านกระจกเงา แต่ผ่านไปหลายร้อยปีเราก็ยังไม่มีหลักฐานใดออกมายืนยันได้อย่างชัดเจน
4
จนมาถึงโลกในยุคปัจจุบันที่เรามีเทคโนโลยีที่สามารถไขความลับของภาพ โมนา ลิซา ออกมาได้ โดยมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน ไม่ใช่เป็นแค่ตำนาน ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องเล่าที่สร้างสรรค์แต่งเติมต่อๆ กันมา
3
เทคโนโลยีที่ว่า คือ เทคนคิการขยายชั้นเลเยอร์ (LAM) โดยการใช้กล้องมัลติสเปกตรัลตรวจับ และบันทึกการสะท้อนของแสงที่มีความยาวคลื่นต่างกัน 13 ช่วง จากพื้นผิวของภาพวาด จากนั้นข้อมูลของผลลัพธ์จำนวน 3.2 พันล้านชิ้นจะถูกวิเคราะห์และจัดเรียงแสดงออกมาเป็นภาพ กระบวนการ LAM สามารถช่วยเราสรุปเกี่ยวกับลำดับการใช้สีและวัสดุอื่นๆ ในภาพวาดได้
7
และผลลัพธ์ที่ได้จากภาพ โมนา ลิซา โดยใช้ LAM มาวัด แสดงให้เห็นว่า เลโอนาร์โด ได้วาดภาพลงในนี้ 4 ภาพซ้อนทับกัน
1. ภาพร่างแรกเริ่มของบุคคลปริศนา เป็นภาพที่อยู่ชั้นในสุดของภาพ เป็นภาพร่างที่มีขนาดใหญ่กว่าภาพ โมนา ลิซา ที่เราเห็นในปัจจุบัน
5
2. ภาพบุคคลที่สองที่มีไข่มุก เป็นภาพในเลเยอร์ชั้นที่สองถัดจากภาพร่างแรก จากกระบวนการ LAM จะแสดงให้เห็นถึงภาพหญิงสาวที่มีผ้าโพกศีรษะขนาดใหญ่ประดับด้วยไข่มุก ซึ่งผ้าโพกศีรษะที่ประณีตเหล่านี้มักใช้ในการแสดงภาพมาดอนน่าที่นิยมกันอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลีในช่วงต้นศตวรรษที่ 16
1
คาดว่าเลโอนาร์โดน่าจะวาดเทพธิดา นักบุญ หรือพระแม่ แต่เลโอนาร์โดวาดผ้าโพกศีรษะชิ้นนี้ไม่เสร็จ ก่อนที่จะพยายามปกปิดด้วยการวาดภาพลงสีใหม่ในชั้นถัดไป
5
3. ภาพเหมือนของ ลิซา เกอราร์ดินี ภรรยาของ ฟรานเชสโก เดล จิโอกอนโด ที่เพื่อนร่วมชาติของเธอได้เคยเห็นภาพนี้และบรรยายโดยศิลปิน จอร์โจ วาซารีในปี ค.ศ. 1550 โดยมีเครื่องแต่งกายและทรงผมตามแบบฉบับฟลอเรนซ์ของปี ค.ศ. 1502-1506 ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเลโอนาร์โดถึงละทิ้งภาพร่างแรกเริ่มของบุคคลปริศนาและภาพบุคคลประดับมุกแล้ววาดภาพเหมือน ลิซา เกอราร์ดีนี ทับลงไป โดยที่เลโอนาร์โดยังคงรักษาคุณลักษณะหลายประการของภาพบุคคลประดับมุกไว้อยู่
5
พาลคาล คอตต์ ผู้ใช้กระบวนการ LAM ได้สร้างลำดับเหตุการณ์ของชั้นสีต่างๆ และแต่งภาพเหมือน ลิซา เกราร์ดินี ขึ้นมาใหม่ เธอมีใบหน้าที่ดูเป็นผู้หญิงมากกว่าภาพ โมนา ลิซา และมีท่าทางที่ต่างออกไปโดยมองไปทางขวา เสื้อผ้าและทรงผมสะท้อนถึงแฟชั่นของชาวฟลอเรนซ์ในปี ค.ศ. 1502-1507 ผมของเธอถูกคาดไว้ด้วยตาข่ายและมีแถบปักอยู่รอบๆ หน้าผากของเธอ
3
โดยไม่มีผ้าคลุมสีเข้มที่ปรากฏเหมือนภาพ โมนา ลิซา ที่เราเห็นในปัจจุบัน ชุดของเธอประดับด้วยริบบิ้นที่ผูกไว้อย่างสวยงาม และช่องเปิดที่เผยให้เห็นเสื้อชั้นในของเธอข้างใต้ การค้นพบเจอภาพเหมือน ลิซา เกอราร์ดินี ทำให้เรารู้ว่าข้างใต้ภาพ โมนา ลิซา มีภาพที่แยกจากกัน และแตกต่างกันอย่างชัดเจนอยู่
3
4. ภาพวาด โมนา ลิซา ภาพหญิงสาวที่เราเห็นในปัจจุบัน เป็นภาพที่ถูกวาดทับอยู่บนภาพเหมือน ลิซา เกอราร์ดินีอีกที โดยเธอหันศีรษะและจ้องมองมาทางคนดูมากกว่าภาพเหมือน ลิซา เกอราร์ดินี ไหล่ขยับไปทางขวา มีผ้าคลุมรอบศีรษะและลำตัวเพื่อปกปิดการแต่งกายและทรงผมก่อนหน้านี้
5
เลโอนาร์โดใช้เทคนิคการวาดทับที่มีเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครจะทำได้เหมือน เขาใช้ชั้นสีโปร่งแสงบางๆ โดยใช้เคลือบสีน้ำตาลแดงเพื่อเปลี่ยนแปลงใบหน้า และใช้สีเขียวโปร่งแสงสำหรับผ้าคลุมเหนือผ้าโพกศีรษะและชุด เป็นการลงสีให้เนื้อสีมันผสมผสานกับชั้นสีรวมทั้งพื้นผิว เพื่อสร้างภาพวาดจนออกมาเป็นภาพ โมนา ลิซา
2
ขณะที่ภาพเหมือน ลิซา เกอราร์ดินี จางหายไปและถูกบดบังบางส่วน แต่บางส่วนก็ยังคงมองเห็นได้ นี้อาจเป็นเหตุผลสำคัญในการรับรู้ต่อภาพ โมนา ลิซา ของพวกเรา ว่าตาของเธอดูเหมือนมองเราตลอดไม่ว่าจะเดินไปทางซ้ายหรือทางขวา หรือบางครั้งก็ดูเธอยิ้มให้ แต่ในบางครั้งปากของเธอก็ดูเศร้า ภาพวาด โมนา ลิซา จึงกลายเป็นภาพที่ลึกลับน่าค้นหาอย่างที่ทุกคนรู้สึกกัน
1
และปริศนาเรื่องที่คนสงสัยมาหลายศตวรรษว่าทำไม โมนา ลิซา ถึงไม่มีขนคิ้ว เนื่องจากเลโอนาร์โด ดา วินชี มีชื่อเสียงเรื่องการให้ความสำคัญกับรายละเอียดอย่างมากในการวาดภาพหรือระบายสีไปจนถึงเส้นผมที่เล็กที่สุดเขามักวาดเก็บดีเทลเสมอ ซึ่งภาพวาดบุคคลที่เขาวาดทั้งหมดก็ล้วนมีขนตาและขนคิ้ว แต่ทำไมภาพ โมนา ลิซา ถึงไม่มี
3
ซึ่งกระบวนการ LAM ทำให้เห็นว่าเลโอนาร์โดได้วาดขนคิ้ว โมนา ลิซา ได้ครบสมบูรณ์ โดยมันอยู่ในแนววงเบ้าดวงตาของ ลิซา เกอราร์ดินี แต่ที่เรามองเหมือนไม่มีอาจเป็นเพราะสีของขนตาได้หายไปจากการทำความสะอาดด้วนน้ำยาเคลือบเงา ซึ่งรอยแตกรอบดวงตาและริมฝีปากที่ลดลงเป็นสิ่งช่วยสนับสนุนสมมติฐานนี้
2
อีกเรื่องที่คนถกเถียงอยู่มาก คือ เรื่อง รอยจ้ำที่มุมตาและที่คาง ซึ่งกระบวนการ LAM เผยให้เห็นว่ามันเป็นอุบัติเหตุจากสารเคลือบเงา สิ่งนี้สามารถโต้แย้งทฤษฏีที่มีคนเคยบอกว่า โมนา ลิซา เป็นผู้หญิงที่ทนทุกข์ทรมานจากสภาวะคอเลสเตอรอลสูง รวมถึงเลโอนาร์โดยังวาดนิ้วไม่สมบูรณ์ เราจะเห็นถึงจุดที่เลโอนาร์โดเปลี่ยนใจในเรื่องตำแหน่งของนิ้วชี้และนิ้วกลางของมือซ้าย
1
นอกจากนี้ภาพวาด โมนา ลิซา ยังมีความลับอีกมากมาย รวมทั้งยังมีผลงานของเลโอนาร์โด ดา วินชี อีกหลายชิ้นที่เรายังไม่เคยรู้เบื้องลึกเบื้องหลังจากไหนมาก่อน ซึ่งหากใครอยากรู้เพิ่มเติมก็สามารถไปชมได้ที่งานนิทรรศการ Da Vinci Alive Bangkok ที่ชั้น 6 ห้าง ICONSIAM ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 กรกฎาคมนี้นะครับ
1
โฆษณา