24 มี.ค. เวลา 04:17 • ความคิดเห็น
จิตพอเกิดมา มีกายพ่อแม่ นอนร้องกระแว้ ช่วยตัวเองไม่ได้ ไม่ใครเค้าเมตตาอุปถัมภ์ เอาน้ำหยอดใส่ปาก ก็หิวกระหาย กายเจ็บป่วยก็ช้วยัตวเองไม่ได พูดไม่ได้ ถ้าเจ็บเป็นไข้ ก็บอกใครไม่ได้ กายมันเปลี่ยนแปลง เจ็บป่วย ก็พูดไม่ได้ อะไรเปลื่อนแปลง ไม่รับรู้ เพราะยังเดียงสาไม่รับรู้อะไร
พอโตขึ้นมาหน่อย เดินไปดูสิ่งนั้นสิ่งนี้มีพิชอบใจไม่ชอบเกิดขึ้น มายาก็เข้ามา เริ่มมุสาเป็น เริ่มอยากได้ เรียกร้อง มันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อง พอเป็นหนุ่มสาว มนุษย์หญิงชาย ก็มีคู่ บ้างไม่มี กายก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อง ปลูกบ้านปลูกหอ อยู่ไปก็เก่า ..ตรงนั้นตรงนี้ผุ ..มีภาระต้องดูแล ค่านั่นค่านี่
ก็อยู่ไปเรื่องบ้านหลังนี้ มันเริ่มไม่สร้างสรรค์เสียแล้ว แก่เฒ่าชรา ไปเรื่อย เหมือนต้นไม้ ..รอวันแห้งเหี่ยวตาย ก็ค่อยๆกลับไปเป็นเหมือนเด็ก..บ้างกายจิตเป็นเด็กเล่นขี้เล่นเยี่ยว บ้างนอนติดเตียวเหมือดเด็กแรกเกิด ต้องให้คนมาป้อนหยอดน้ำ
บ้างกลืนเองไม่ได้ ก็ต้องให้เค้าเจาะคอ ส่งอาหารให้ บ้างถ่ายฉี่ไม่ออก เค้าทำห้องน้ำติดตัวให้ ไปไหนไปด้วย ..สิ่งที่สร้างสรรค์เอามาบำเรอกาย กายนี้เปลี่ยนแปลงไปตลอดไม่หยุดนิ่ง วันหนึ่งก็หยุด สร้างสรรค์ ….นอนอยู่ดีๆ อุตส่าห์ปลูกบ้านใหญ่โต มีเงินมีทอง เปลี่ยนแปลงบ้านดีๆ เป็นกองเพลิง.บ้านก็เกิดไฟไหม้ ไฟครอกตาย ไม่มีลมเข้าลมออก ไม่รับรู้อะไรเลย ว่าสร้างสรรค์หรือเปลี่ยนแปลง ไม่รู้ทั้งนั่น ในเรื่องราวของโลก
โฆษณา