25 มี.ค. เวลา 13:51 • นิยาย เรื่องสั้น

นิทานธรรม...เรื่อง "กำไรจากเรื่องร้าย ๆ"

เศรษฐีคนหนึ่งมีฐานะร่ำรวยมาก ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรทุกอย่างล้วนสร้างกำไรให้แก่เขาเสมอ เศรษฐีมีลูกด้วยกันทั้งหมด 7 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 3 คน ผู้หญิงอีก 4 คน ทุกคนในครอบครัวต่างอยู่ด้วยกันอย่างมีผู้มีน้ำใจเอื้ออารีต่อกันเรื่อยมา
ในบรรดาสมบัติที่เศรษฐีมีอยู่ ก็มีจำนวนสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ รวมอยู่ด้วย เช่น อูฐ โค ลา แพะ และแกะ ซึ่งสัตว์เหล่านี้เมื่อมีการจำหน่ายออกไปในแต่ละครั้งก็จะนำรายได้มาสู่ครอบครัวของเศรษฐีเป็นจำนวนมาก
ด้วยความที่เป็นผู้มั่งคั่งในสมบัติ เศรษฐีจึงต้องมีการบริหารจัดการสิ่งที่มีอยู่อย่างรอบคอบ ทำให้ท่านเป็นคนที่ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ อย่างผู้มีปัญญามาโดยตลอด
การที่เศรษฐีต้องอยู่กับการบริหารมาโดยตลอด ต้องทนแรงเสียดทานต่าง ๆ จากการค้าขาย หรือต้องเกี่ยวข้องกับการได้กำไรและการขาดทุนอยู่เรื่อย ๆ จึงมองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้จักปล่อยวางได้เมื่อมีเหตุการณ์ร้าย ๆ เกิดขึ้น
อยู่มาวันหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นวันที่เหตุการณ์ร้าย ๆ ได้มารุมเร้าในคราวเดียวกัน มีชาย 4 คนที่เป็นคนรับใช้ของเศรษฐีที่ได้ไปปฏิบัติภารกิจที่แตกต่างกันออกไป วิ่งหน้าตาตื่นมาหา พอมาถึงทุกคนก็รีบแจ้งข่าวให้ท่านทราบในทันที
คนที่ 1 แจ้งให้ทราบว่า
"ท่านเศรษฐีครับ ผมมีข่าวร้ายจะแจ้งให้ท่านได้ทราบ คือมีโจรมาดักปล้นโคและลาที่ท่านมอบหมายให้พวกผมไปเลี้ยง พวกผมต่อสู้จนสุดความสามารถแล้ว แต่ไม่สามารถต้านทานพวกโจรได้ผมและเพื่อนจึงรีบหนีมาแจ้งข่าวให้แก่ท่าน โดยปล่อยให้พวกมันต้อนโคและลาไป"
เศรษฐีได้รับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น แทนที่จะแสดงอาการตกใจ กลับมีสีหน้าที่ดูปกติ ไม่หวั่นไหวต่อเรื่องราวที่ได้ยิน พร้อมกับกล่าวอย่างคนที่รู้เท่าทันว่า
"ก็ไม่เห็นจะต้องเสียใจอะไร"
ส่วนคนที่ 2 ที่รออยู่ เมื่อเห็นว่าชายคนที่ 1 แจ้งข่าวให้เศรษฐีจบลงแล้ว จึงกล่าวขึ้นว่า
"ท่านเศรษฐีครับ ผมก็มีข่าวร้ายมาแจ้งให้ท่านทราบเช่นกัน เรื่องมีอยู่ว่า ในขณะที่ผมกำลังต้อนฝูงแกะไปเลี้ยง ได้เกิดฟ้าผ่าลงมายังฝูงแกะเหล่านั้น ทำให้แกะตายทั้งหมด ส่วนผมรอดชีวิตมาได้"
"ก็ไม่เห็นจะต้องเสียใจอะไร" เศรษฐีกล่าวเหมือนกับว่านั่นไม่ใช่ปัญหาที่ต้องหนักใจแต่อย่างใด
คนใช้คนที่ 3 ที่ตั้งตารอคอย เมื่อชายคนที่ 2 กล่าวจบลง ก็รีบรายงานด้วยสีหน้าที่แฝงไว้ด้วยความกลัวว่า
"ท่านเศรษฐีครับ ในขณะที่ผมกำลังเลี้ยงอูฐอยู่ ก็มีพวกโจรบุกเข้ามาปล้นอูฐของท่านไปทั้งฝูง ผมและเพื่อน ๆ ไม่สามารถต่อกรกับพวกโจรได้เลย จึงได้แต่หนีกลับมาแจ้งให้ท่านได้รับทราบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หวังว่าท่านคงให้อภัยแก่พวกผมที่ไม่สามารถรักษาสมบัติของท่านไว้ได้"
"ก็ไม่เห็นจะต้องเสียใจอะไร" เศรษฐีกล่าวด้วยกิริยาที่ดูปกติ
เมื่อชายคนที่ 3 รายงานสถานการณ์จบลง ชายคนที่ 4 ได้แต่ยืนนิ่ง ๆ เหมือนอยากจะบอกให้ท่านรับรู้ แต่อีกความคิดหนึ่งก็กลัวว่าท่านรับไม่ได้ แต่เมื่อเห็นเศรษฐีจ้องมองมาที่ตนเหมือนต้องการคำตอบ จึงกล่าวขึ้นว่า
"ท่านเศรษฐีครับ ก่อนอื่นผมขอให้ท่านทำใจดี ๆ นะครับ เพราะเรื่องที่ผมจะแจ้งนี้ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด และไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย"
"อ้าว มีเรื่องอะไรก็ว่ามา ไม่ต้องห่วงเราหรอก" เศรษฐีกล่าวกับคนรับใช้เพื่อให้เขาคลายกังวล
"คืออย่างนี้ครับท่าน ก่อนที่ผมจะมาที่นี่ ผมอยู่ในเหตุการณ์ที่ลูกของท่านทั้งหมดกำลังกินเลี้ยงกับเพื่อน ๆ แต่ในขณะที่พวกลูก ๆ ของท่านกำลังเลี้ยงฉลองกันอย่างเพลิดเพลินอยู่นั้น ปรากฏว่าเกิดฝนตกและพายุกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดฟ้าฝ่าลงมายังกลุ่มลูก ๆ ของท่าน เป็นเหตุให้บุตรและธิดาของท่านตายทั้งหมดในทันที"
ปรากฏว่า...เมื่อเศรษฐีฟังข่าวร้ายทั้งหมดจบลง แทนที่จะแสดงอาการเสียใจ ท่านกลับตั้งสติในการรับฟังข่าวร้ายทั้งหมดได้ เหมือนดั่งว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องธรรมดา แม้จะมีอาการตกใจอยู่บ้างเมื่อฟังเรื่องลูกทั้งหมดที่ตายไปในคราวเดียวกัน แต่พอตั้งสติได้ ท่านก็แสดงอาการประหนึ่งว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่สามารถรับได้
ครั้นคนใช้ทั้ง 4 คนเห็นเศรษฐีไม่แสดงอาการสะทกสะท้านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เกิดความสงสัยยิ่งนักว่าทำไมท่านจึงทำใจได้ต่อเรื่องร้าย ๆ ที่เข้ามากระทบ เมื่อถูกถามเช่นนี้ เศรษฐีจึงกล่าวเหมือนคนที่รู้จักทำใจเป็นว่า
"#เมื่อเราเกิดมาในโลกนี้... ความจริงที่ฟ้องให้รับรู้อยู่เสมอก็คือ เราเกิดมาเพียงตัวเปล่า ๆ เท่านั้น... ไม่มีสิ่งใดติดตัวเรามาเลย แม้เกิดมาแล้วพวกเราพากันแสวงหาสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่บนโลกมากบ้างน้อยบ้างตามกำลังของแต่ละคน แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครนำสิ่งที่มีอยู่ติดตัวไปได้แม้เพียงสิ่งเดียว
ดังนั้น เมื่อเหตุการณ์ร้าย ๆ เกิดขึ้น ทั้งแก่คนอื่นหรือแก่เรา ตัวเราเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องให้เป็นไปอย่างที่ต้องการได้ทั้งหมด นอกจากเรียนรู้ที่จะยอมรับ และทำใจเพื่อเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วเราจะรู้สึกว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เกิดขึ้นเพื่อให้เราต้องยึด หรือต้องทุกข์ไปกับมันแต่อย่างใด"
#เพื่อนกัลยาณธรรม
โฆษณา