สรุปไฮไลต์ โฉมใหม่ เซ็นทรัลชิดลม โทนสีสวยแปลกตา “Central Chidlom Rose Pink”
วันนี้ เครือเซ็นทรัล รีเทล ได้แถลงการปรับโฉมใหม่ ห้างเซ็นทรัลชิดลม สู่การเป็นห้างสรรพสินค้าลักชัวรี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Store of Bangkok” เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นห้างสรรพสินค้าลักชัวรี แบบ “One-Stop-Shopping” อย่างเป็นทางการ
โดยการรีโนเวตห้างเซ็นทรัลชิดลมในครั้งนี้ ใช้งบลงทุนไปกว่า 4,000 ล้านบาท
เซ็นทรัลชิดลม จะมีอะไรเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลง ไปจากเดิมบ้าง ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
1. คอนเซปต์ใหม่ ดีไซน์ใหม่ (The Store of Design and Concept)
- ขยายพื้นที่ส่วนกลางของห้างให้กว้างขึ้น ยกระดับทั้งห้างด้วยการออกแบบและสถาปัตยกรรมระดับเวิลด์คลาส เพิ่มบรรยากาศหรูหราและผ่อนคลาย ให้เหมาะกับการช็อปปิง
- ออกแบบ Façade ด้านนอกอาคาร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของห้างเซ็นทรัลชิดลมให้มีความทันสมัยมากขึ้น ด้วยการใช้กระจกสีขาวขุ่น ซึ่งสามารถเรืองแสงและเปลี่ยนสีได้ในเวลากลางคืน
- เพิ่มทางเชื่อมต่อจากรถไฟฟ้า (Sky Bridge) ที่ชั้น 1 เข้าสู่ชั้นลักชัวรีโดยตรง พร้อมขยายทางเชื่อมรถไฟฟ้าเดิมที่ชั้น 2 ให้ลูกค้าเดินทางเข้าห้างได้สะดวกมากขึ้น
2. รวบรวมหลากหลายแบรนด์ไว้ในที่เดียว (The Store of Curated Destinations)
ด้วยการคัดสรรแบรนด์สินค้ามาอย่างดี พร้อมจัดหมวดหมู่สินค้าโดยคำนึงถึงระดับราคาและจุดยืนของแบรนด์
- โซนสินค้า Luxury ระดับโลก
รวมบูทีคของแบรนด์ชั้นสูงระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Balenciaga, Bottega Veneta, Burberry, Celine, Chanel, Dolce & Gabbana, Emilio Pucci, Fendi, Gucci, Kenzo, Loewe, Louis Vuitton, Missoni, Miu Miu, Prada, Roger Vivier, Saint Laurent และ Versace
พื้นที่ Shoes Avenue รวมคอลเลกชันรองเท้าแบรนด์หรูและแบรนด์ลักชัวรีหลากหลายแบรนด์ในพื้นที่เดียว
เช่น Bottega Veneta, Burberry, Christian Louboutin, Coperni, Cult Gaia, Dolce & Gabbana, GCDS, Gucci, Isabel Marant, Jimmy Choo, Marni, Prada, Proenza Schouler, Roger Vivier, Sergio Rossi, Sophia Webster, Tod's, Tom Ford, Tory Burch, และ Vivienne Westwood
อีกทั้งมีแบรนด์ที่จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยด้วยเช่นกัน
เช่น Giuseppe Zanotti, Mach & Mach, Rene Caovilla, The Attico
- โซนสินค้า Beauty
ปรับโฉมใหม่ที่หรูหราและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 6,000 ตร.ม. จากแบรนด์ความงามระดับโลกกว่า 150 แบรนด์
ยกระดับการให้บริการด้านความงาม ด้วยบูทีกจากบิวตีแบรนด์ระดับโลก เช่น Chanel, Dior, La Mer และ Gucci
พร้อมแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม เช่น Augustinus Bader และ Officine Universelle Buly
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่พิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ความงามออร์แกนิก และผลิตภัณฑ์ความงามเฉพาะกลุ่ม (Niche Beauty) อีกด้วย
- โซนสินค้า Fashion
ศูนย์รวมสินค้าแฟชั่นและสตรีทแฟชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะชั้น 1 ด้วย Sneaker Boulevard พื้นที่รวมรองเท้าสนีกเกอร์กว่า 800 คู่ ทั้งคอลเลกชันล่าสุด รุ่นพิเศษ และรุ่นหายากจากหลากหลายแบรนด์ดัง
- โซน Food
เพิ่มร้านอาหารและคาเฟ่มากขึ้นกว่าเดิม 3 เท่า รวมกว่า 60 ร้าน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์และทุกเจเนอเรชัน
- โซน Service
การบริการที่มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น เช่น ยกระดับห้องรับรองใหม่ บริการผู้ช่วยช็อปปิงส่วนตัว และบริการที่จอดรถแบบดิจิทัล
3. สร้าง The Store of Communities ให้ห้างเซ็นทรัลชิดลม เป็นจุดหมายใหม่ของลูกค้ากลางกรุง เพื่อสร้างคอมมิวนิตีที่แข็งแกร่ง โดยครอบคลุมถึง
- เปิดตัว CENFINITY
โปรแกรมสมาชิกสำหรับลูกค้าระดับ Top Customers ของห้างเซ็นทรัล ห้างโรบินสัน และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และเป็นกลุ่ม Top Customers ของสมาชิกเดอะวัน เพื่อยกระดับรอยัลตีของลูกค้ากำลังซื้อสูง
ได้แก่
บัตรสมาชิกระดับ Gold ยอดซื้อสะสมขั้นต่ำ 600,000 บาท
บัตรสมาชิกระดับ Platinum ยอดซื้อสะสมขั้นต่ำ 3,000,000 บาท
บัตรสมาชิกระดับ Diamond เฉพาะสมาชิกที่ได้รับการเชิญเท่านั้น
- สร้าง Identity ห้างเซ็นทรัลชิดลมใหม่
ทั้งโลโก, ฟอนต์ และการออกแบบสีใหม่ คือ “Central Chidlom Rose Pink” หรือสีชมพูเซ็นทรัลชิดลม
ที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้ ซึ่งเป็นซิกเนเชอร์อีเวนต์ของห้าง โดยสีใหม่นี้จะใช้เฉพาะที่ห้างเซ็นทรัลชิดลมสาขาเดียวเท่านั้น
- ปักหมุดเป็นจุดหมายคอมมิวนิตี้ของลูกค้า ด้วยการนำเสนองานอีเวนต์ ทั้งศิลปะ ดนตรี และอาหาร เพื่อสร้างสีสันและดึงทราฟิกตลอดทั้งปี
โดยโซนลักชัวรี บิวตี และแฟชั่น จะเปิดให้บริการในเดือนเมษายนนี้ และเตรียมเปิดห้างเซ็นทรัลชิดลมเต็มรูปแบบในเดือนธันวาคม ของปีนี้
4. ปิดท้ายด้วย ข้อมูลอินไซด์ลูกค้าของเซ็นทรัลชิดลม
คุณณัฐธีรา บุญศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ยังได้ให้ข้อมูลอินไซต์ของห้างเซ็นทรัลชิดลมไว้อย่างน่าสนใจว่า
“ห้างเซ็นทรัลชิดลม มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เพราะเป็นห้างแฟลกชิปของเรามาตั้งแต่ปี 2517 โดยไม่เพียงมีทำเลเชิงกลยุทธ์ใจกลางเมืองที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงเท่านั้น
แต่ยังเป็นห้างสรรพสินค้าในรูปแบบ “One-Stop-Shopping” แห่งแรกของประเทศไทย ที่มีพัฒนาการผ่านยุคสมัยและอยู่คู่กับลูกค้าและวงการค้าปลีกไทยมากว่า 5 ทศวรรษอีกด้วย”
โดยลูกค้าของห้างเซ็นทรัล ชิดลมจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักด้วยกัน คือ
- กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อตั้งแต่กลางถึงสูง
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบในแฟชั่น ผลงานศิลปะ และการใช้นวัตกรรมสมัยใหม่
- กลุ่มนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย
ซึ่งปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ของห้างเซ็นทรัลชิดลม เป็นคนไทยไปแล้วกว่า 80%
โดยลูกค้าหลักของห้างเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อตั้งแต่กลางถึงสูง ซึ่งเป็น Top Customer ในสัดส่วน 10% ของลูกค้าทั้งหมดของเซ็นทรัลชิดลม
และมียอดการใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 250,000 บาท/คน/ปี ซึ่งมากกว่าลูกค้าปกติ 10 เท่า
และในส่วนของ Top Tourist ของห้างเซ็นทรัลชิดลม คือ จีน รัสเซีย และอินเดีย
อีกทั้งยังมีการตั้งเป้าว่าในปี 2568 หลังจากที่ห้างเซ็นทรัลชิดลมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว
คาดว่าจะมีจำนวนทราฟิกของลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 20%
จากเดิมที่มีทราฟฟิกอยู่ที่ 9 ล้านคนต่อปี และมียอดขายเติบโตขึ้นอีก 30%
นอกจากนี้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลยังมีแผนที่จะทยอยรีโนเวตหลายสาขาทั่วประเทศ
ให้สอดรับกับแผนธุรกิจของห้างเซ็นทรัล ภายในปีนี้ด้วย
- 66
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
