26 มี.ค. เวลา 10:19 • ความคิดเห็น
เรื่องราวของจิตที่มันหวั่นไหว ไปตามอารมณ์ นั่นมันก็เป็นเรื่องปกติ ที่คนเรานั่น มีอารมณ์ มีสัญชาตญาณรักชีวิตที่ตนอาศัยอยู่ ใครมาติเตียนกายที่เราอาศัย เราก็ไม่ชอบใจ ไม่พอใจ ..มันเป็นอารมณ์เสียที่เรายึดถือเรือนกายนี้เป็นของเรา เกิดสักกายทิฐิ ..ไม่ยอม ทนไม่ได้ ที่ใครมาติเตียน มันเป็นอารมณ์ชนิดหนึ่ง ที่มีอยู่ในกายที่อารมณ์ แม้แต่เด็กๆ เพิ่งโต ..ใครไปว่า ไปติเตียนเค้าก็ไม่ชอบใจ หวั่นไหว ..มันเป็นอารมณ์
คราวนี้ ในเรื่องราวของอารมณ์ นั้นจิตเรามันอ่อนต่ออารมณ์ เราไม่เคยฝึกหัด ..เหมือนเราไปนั่งนิ่ง ในที่แจ้ง มียุงกัดมดกัด เราก็ขยับเขยื้อนกายแล้ว บางทียุง มีปากน้อยๆ มาขอเลือดกินหน่อย เราก็ไม่อดทน ..ยกมือตบไปเลย ..นั่นมันก็คล้ายๆ ปากยุงเรายังทนไม่ได้ แล้วปากคนมันยาวกว่าปากกา เราก็ย่อมทนไม่ได้ มันหวั่นไหว
ฉะนั้น มันก็เป็นเรื่องราวที่เราต้องฝึกหัดขึ้นมาเหมือนกัน ให้จิตเราเข้มแข็งต่ออารมณ์ ที่เค้าว่า จิตตั้งมั่น นั่นแหละ ตั้งมั่น จิตเฉยๆ รู้ว่า นินทานั้นไม่ดี..เราก็เฉยๆ มันปากของเค้า.. อยากว่าอะไร . พูดไปให้เต็มที่เลย มันไม่ใช่ปากของเราที่พูด
เรา. ดูกิริยาที่เค้ามา เล่นละคร .เออ..เรารู้กันสองคน ใครพูดเสกสรรปั้นแต่ง เชื่อถือไม่ได้ รู้แล้วเราก็วาง อย่าไปยึดคำนินทามาเป็นอารมณ์ ..เค้าว่า ปากที่คาบไฟตกนรกโลกันต์ มันเป็นอย่างนี้แหละ ที่จะไปยืนคาบไฟ ในเมืองนรก ..เราไม่ต้องไปรับไฟที่พ่นมาจากลมปากเค้า อยู่เฉยๆ นิ่งๆ
โฆษณา