28 มี.ค. เวลา 01:09 • ท่องเที่ยว

𝗩𝗜𝗔𝗡𝗧𝗜𝗔𝗡𝗘 : เ วี ย ง จั น ท น์ 🇱🇦

สะบายดี…ที่นี่ สปป.ลาว
"สปป. ลาว" คืออีกหนึ่งประเทศ​แห่งวัฒนธรรม​ การท่องเที่ยว​แนว Slow Life ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่อยากหาเวลามาพักกายพักใจ ที่นี่คืออีกหนึ่ง Dream Destination ที่ต้องหาโอกาสมาเยือน…
มาครับ… ทริปเยือนแดนไกลทริปนี้ ขอพาทุกคนไปเที่ยวบ้านพี่เมืองน้องของไทยกันที่สปป.ลาว กับการเดินทางที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจนเกินไป ไปสัมผัสกับวัฒนธรรม​ของเมืองริมโขง
ซึ่งจุดหมายปลายทางของผมในทริปนี้ เราจะไปตะลอนกันที่ "เวียงจันทน์" ซึ่งรับรองเลยครับว่าจะต้องมีอะไรน่าสนใจมาฝากทุกคนแน่นอนครับ เพราะเราจะไปพักผ่อนในที่พักกลางป่า เป็น Hidden Gem ที่นักท่องเที่ยว​ไม่พลุกพล่าน​ เที่ยวชิลล์​ บรรยากาศ​ดีสุดๆ นอกจากนี้​เราก็จะยังไปตามเก็บจุด Landmark สวยๆ ในตัวเมืองเวียงจันทน์​ รวมทั้งคาเฟ่เท่ๆ ที่มีมุม​ถ่ายรูป​อีกเพียบบบ!!
📷 วัดสีเมือง
เอาล่ะครับบบ หลังจากที่เดินทางข้ามด่านกันมาเรียบร้อย​แล้ว ก่อนที่เราจะไปที่พักที่จองไว้กันนั้น ผมว่าเราไปแวะไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล​กันก่อนดีมั้ยครับ
ไหนๆ ก็มาเยือนลาว ประเทศ​แห่งวัฒนธรรม​และวัดสวยทั้งที โดยเราจะไปกันที่ "วัดสีเมือง" กันเป็นที่แรกเลยครับ
ที่วัดสีเมืองแห่งนี้เป็นสถานที่ตั้งของเสาหลักเมืองเวียงจันทร์ ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปมากมายประดิษฐานอยู่
ซึ่งจากตำนานของชาวลาวได้กล่าวว่าการตั้งเสาหลักเมืองในอดีตจะต้องหาคนมาสังเวย ที่ต้องฝังคนทั้งเป็นหรือฆ่าคนแล้วฝังไว้ ตามความเชื่อที่ว่าเพื่อให้วิญญาณได้เป็นผู้ปกปักรักษาสถานที่นั้นๆ ตลอดไป ซึ่งปรากฏว่าเสาหลักเมืองที่วัดสีเมืองแห่งนี้ ได้มีสตรีที่กำลังตั้งท้อง 3 เดือน ยอมกระโดดลงไปในหลุมเพื่อให้ตัวเองฝังอยู่ภายใต้เสาหลักเมืองนี้ ซึ่งสามีของสตรีคนดังกล่าวเป็นทหารที่เพิ่งเสียชีวิตจากภัยสงคราม ถือเป็น​ตำนานที่มีเรื่องราวน่าสนใจ และเล่าขานกันมาถึงปัจจุบัน​ครับ
📷 โรงแรม Nam Pien Yorla Pa
ต่อไปเราจะไปยังที่พักที่ทำการจองไว้ล่วงหน้า ที่โรงแรม "Nam Pien Yorla Pa" ซึ่งยังคงอยู่ในเขตของเวียงจันทน์​นะครับ แต่จะต้องออกจากตัวเมืองมาพอสมควร ประมาณ​ 80 กม. ได้ครับ เพราะโซนนี้จะเป็นโซนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ​ อารมณ์​คล้ายๆ เชียงใหม่​บ้านเราเลยครับ ที่แบบพอขับออกจากตัวเมืองมาหน่อยก็มีแต่พื้นที่ป่าสวยๆ
สำหรับใครที่เคยมาลาวแล้ว แต่อยากปลีกวิเวกไปในที่ที่ไม่ซ้ำใคร ไปลองหาลาวมุมใหม่ๆ นอกจากวังเวียง หลวงพระบางที่ดังๆ แล้ว ก็ลองมาที่นี่กันได้ครับ นักท่องเที่ยว​ไม่พลุกพล่าน​ เป็นส่วนตัวดีมาก
มาดูที่บรรยากาศ​ของที่พักกันหน่อย โอ้โหหหหห… ใครที่ชอบพักผ่อน​แบบใกล้ชิดธรรมชาติ​ต้องติดใจแน่นอน เรียกว่านอนกันกลางป่าแบบนี้เลย แถมยังติดลำธารใสๆ ไหลเย็นแบบนี้ ฟีลดี สดชื่นสุดๆ นะบอกเลย
🏠🌳สนใจสอบถาม​ / จองที่​พัก​ได้ที่…
Facebook​ : Nampien Yorla Pa
วิลล่าห้องกระจก ที่เห็นวิวธรรมชาติ​ได้รอบหลัง ราคาคืนละ 75 USD หรือ​ประมาณ​ 2,600-2,700 บาท หรูหราเหมือนคืนละ 4,000-5,000 บาทบ้านเราเลย ดีงามมากๆ
ในส่วนของห้องพักที่นี่ก็มีหลายแบบเลยครับ แต่ทริปนี้เราจองกันไว้ 2 แบบ แบบที่ 2 จะเป็น​เต็นท์​กระโจม อยู่​ติดริมน้ำเลยครับ แล้วราคาคือดีมากกก แค่​ 28 USD หรือประมาณ​ 980-1,000 บาทไทย ขึ้นอยู่กับ​อัตราแลกเปลี่ยน​ค่าเงิน ไม่เกินนี้ครับ
เอาเป็นว่าแบงก์​พันยังมีทอน แถมมีอาหารเช้าให้ เต็นท์ก็ติด​แอร์ไปอี๊กกก เต็นท์​ใหม่ สะอาด น่านอน มาเถอะครับคุ้มจริงๆ
📷 น้ำตก Nam Pien Yorla Pa
หากใครได้มาพักที่โรงแรม Nam Pien​ Yorla​ Pa ที่นี่ก็จะมีกิจกรรม​ให้นักท่องเที่ยว​ได้ทำกันด้วยครับ ใครที่เป็นสายลุย สาย Adventure ก็มีหลากหลาย​ เช่น ปั่นจักรยาน, Zipline, ขับรถ Atv และอื่นๆ ที่น่าสนใจ แต่ของผมเลือกกิจกรรมเดินป่าเที่ยวน้ำตกครับ ซึ่งเราจะไปกันที่น้ำตก Nam Pien Yorla Pa ชื่อเดียวกับที่พักเลย เพราะอยู่​ในเขตพื้นที่เดียวกันคือ Nam Pien Yorla Pa Park
สำหรับการเดินป่าเที่ยวน้ำตกนั้นก็จะมีค่าบริการ​อยู่​ที่คนละ 400 บาท โดย​เจ้าหน้าที่​จะนัดเราตอนเช้าเลยครับ แล้วมีรถมารับที่หน้าโรงแรมไปส่งเรายังจุดเดินสะพานเเขวน
ซึ่งเราจะต้องเดินกันทั้งหมด 26 สะพานครับ… ใช่ครับ อ่านไม่ผิด เดินทั้งหมด 26 สะพาน 55555+ เอาสิครับบบ ใครที่กลัวความสูง​อาจจะมีเสียวๆ นิดหน่อย​ ใช้เวลาเดินกันประมาณ​ 1 ชั่วโมง​ แต่สะพานดี แข็งแรงนะครับ แค่มีโยกๆ บ้างตามสไตล์​สะพานแขวนเท่านั้น​เอง 😆
📷 Kung’s Cafe Lao
เรียกว่าเป็นร้านที่นักท่องเที่ยวยกให้เป็นร้านลับเเห่งเวียงจันทน์ เพราะลับจริงๆ ครับ หาทางเข้าแทบไม่เจอ อยู่ในซอยเล็กซอยน้อยสุดๆ นะ 55555+ “Kung’s Cafe Lao” เป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่เสิรฟ์ทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม เเต่เห็นร้านเล็กๆ แบบนี้ ตกแต่งในสไตล์บ้านๆ แต่เป็นร้านที่ไม่ธรรมดาเลย เพราะผมค้นหาเจอจากใน Google map แล้วมีลูกค้ารีวิวหลายร้อยรีวิวกันเลยทีเดียว ก็เลยต้องมาตามหาร้านนี้
แล้วมาลองชิมกันดูสักหน่อย…อ่ะ! ต้องบอกเลยว่าไม่มีผิดหวังครับ รสชาติดี เมนูของคาวที่เป็นสไตล์ Local ของลาวก็มีหลากหลาย แวะมาฝากท้องกันได้นะครับบบ
ร้านเปิดทุกวัน 07.30 am - 04.00 pm
📷 Nuan Ka Fei
สาย Hipster เรียนเชิญทางนี้เลยครับบบ ร้านต่อไป เราจะไปกันที่ “Nuan Ka Fei” ร้านที่มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า “นวน” อาหารสไตล์ Asia Fusion เรียกว่าเป็นร้านตกแต่งออกมาได้เท่มากกก ให้ฟีลเหมือนผับย้อนยุค​เล็กๆ ในฮ่องกง แต่ละมุมคือดี มาแล้วมุมถ่ายรูปเยอะเลยครับ
ซึ่งทางร้านก็ได้ inspiration ในการดีไซน์ร้านมาจากภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่อง A Love For Love ก็เลยได้กลิ่นอายความเป็นฮ่องกง อบอวลไปทุกมุมแบบนี้แหละครับ
Cafe เปิดช่วงเช้า - กลางวัน : 08.30 am - 03.00 pm
Bar เปิดช่วงเย็น - ค่ำ : 05.00 am - 11.00 pm
มีดนตรีสด ช่วงวันพฤหัส - เสาร์
หากได้มาแวะที่ร้านนี้ ผมแนะนำว่ามาช่วงกลางคืนก็จะดีมากเลยนะ ไฟสวย แสงสวย มีดนตรีสดด้วย นั่งกันเพลินมากๆ
📷 พระธาตุหลวงเวียงจันทน์
สถานที่ต่อไป เราจะไปกันที่ "พระธาตุหลวงเวียงจันทน์" เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง หากไม่ไปกราบไหว้สักการะก็เหมือนไปไม่ถึงเวียงจันทน์เลยทีเดียว
พระธาตุ​หลวงเวียงจันทน์​นับเป็นพระธาตุที่เก่าแก่มากครับ สันนิษฐานว่าสร้างในช่วงปี พ.ศ. 238 โดย "บุรีจันอ้วยล้วย" หรือ "พระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์" เจ้าเหนือหัวผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรก พร้อมกับพระอรหันต์ 5 องค์ นับมาจนถึงปัจจุบัน​ก็มีอายุกว่าสองพันปีเลยทีเดียว
พระธาตุหลวงเวียงจันทน์​ มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มีองค์พระธาตุความสูง45 เมตร มีลักษณะคล้ายดอกบัวตูม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์คำสอนของพระพุทธเจ้า ด้านในจะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุครับ
📷 ลามาลาว
อีกหนึ่งสถานที่ที่อยากแนะนำ ร้าน "ลามาลาว" เป็นอะไรที่มากกว่าคาเฟ่ และร้านอาหาร แต่ยังเป็น Co-working Space อีกด้วย ใครที่ชอบงานดีไซน์ และอยากสถานที่เปลี่ยนบรรยากาศ​การทำงาน มาหาแรงบันดีๆ ที่นี่ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ ภายในก็จะมีความเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์​ และ Art Gallery ย่อมๆ
นอกจากนี้ก็ยังมีร้านกาแฟ ให้ได้นั่งทำงานไป จิบกาแฟไปแก้ง่วง และเมนูเครื่อง​ดื่มอื่นๆ เพิ่มความสดชื่นให้สมองกระปรี้กระเปร่า​ดีทีเดียวครับ
ร้านเปิด 08.30 am - 06.00 pm หยุดทุกวันอาทิตย์
📷 วัดสีสะเกต
อีก​หนึ่ง​สถานที่​สำคัญ​ที่อยากแนะนำกัน "วัดสีสะเกต" เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเวียงจันทน์ สร้างขึ้นครั้งแรกประมาณปี 2094 สมัยพระเจ้าโพธิสารราช และได้มีการสร้างใหม่ตามแบบศิลปะไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นช่วงพ.ศ. 2361 - 2367 และในปัจจุบันเป็นที่ประทับของพระสังฆราชลาว
เดิมที ที่นี่มีชื่อว่า "วัดสะตะสะหัสสาราม" ซึ่งมาจากพระพุทธรูปกว่าเเสนองค์ที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างมาประดิษฐานไว้ที่วัดแห่งนี้
📷 ประตูชัย
ยามเย็นๆ แบบนี้ ผมตั้งใจไว้แล้วครับว่าจะไปกันที่ “ประตูชัย” หรือที่คนลาวเพิ่นเว้ากันว่า “ประตูไซ” นั้นเอง
ที่นี่เป็นอีกสถานที่ ที่เราต้องแวะมากันให้ได้เลยครับ เป็น Landmark สำคัญของเมืองเวียงจันท์ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงประชาชน และทหารชาวลาวที่เสียสละชีวิตในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง และสงครามการกอบกู้​เอกราช​จากฝรั่งเศส​ หลังจากนั้นเกิดการเปลี่ยนการปกครองเป็นสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ จึงเปลี่ยนชื่อจาก "อานุสาวะลี" เป็น "ปะตูไซ" เพื่อเป็นเกียรติแก่ชัยชนะของคณะปฏิวัติ และเรียกใช้เรียกกันถึงปัจจุบัน
เราสามารถเดินขึ้นไปด้านบนของประตูชัย เพื่อชมวิวมุมสูงของนครหลวง​เวียงจันทน์แบบ 360 องศาได้นะครับ ซึ่งจะมีความสูงประมาณ​ 7 ชั้น มีบันไดวน 197 ขั้น โดยแต่ละชั้นยังมีร้านของขายของที่ระลึก ตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านช้าง มีการนำสัตว์ในตำนานตามความเชื่อของศาสนาพุทธ เช่น กินรี พญานาค และเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
ช่วงค่ำเป็นอะไรที่สวยมากกกก เพราะที่ลานประตูชัยจะมีการจัดการแสดงน้ำพุประกอบดนตรีและแสงสีด้วยครับ
📷 ถนนคนเดินเวียงจันทน์ริมโขง
หลังจากชมไฟสวยๆ ที่ลานน้ำพุประตูชัยกันไปแล้ว ค่ำคืนนี้อีกยาวไกล เราจะยังไม่นอนกันครับ เพราะจะไปต่อกันที่ “ถนนคนเดินเวียงจันทน์” หรือ “เวียงจันทน์ Night Market” กันสักหน่อยครับ เป็นตลาดกลางคืนที่มีขนาดใหญ่มากแห่งหนึ่งของเมืองเวียงจันทน์ ซึ่งมีของขายเยอะมากๆ รวมทั้ง Street foods มากมาย แถมราคาก็ไม่แพง
มาที่เดียวได้ทั้งช้อปปิ้ง ชิมอาหารอร่อย หาซื้อของฝาก แล้วก็ยังได้ชมวิวริมแม่น้ำโขงตอนกลางคืนอีกด้วยล่ะครับ
#คนหลงทาง #เที่ยวลาว #ประเทศลาว #เวียงจันทน์
โฆษณา