30 มี.ค. เวลา 03:19 • ความคิดเห็น

SuperPower ของผู้บริหารที่เก่งที่สุดในสายตาของผม

ผมทำงานมาหลายที่ เจอผู้คนหลากหลาย เจอผู้บริหารน่าจะเป็นพันคน หลายคนเป็นซุปตาร์ในวงธุรกิจ เอ่ยชื่อคนก็อ๋อ แต่ถ้าถามผมว่าใครคือผู้บริหารที่เก่งที่สุดในสายตาของผม ผมก็จะตอบชื่อที่แทบทุกคนจะไม่คุ้นออกมาแทบจะในทันที ชื่อนั้นเป็นชื่อที่คนใน SCB คุ้นเคย เป็นอดีต president ของ SCB และปัจจุบันเป็นซีอีโอหญิงแห่งเงินไชโย
ชื่อนั้นคือ พี่กบ อภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้ที่เริ่มต้นจากงาน operation ที่ยูนิลีเวอร์ก่อนถูกชวนมาทำงานที่ SCB เมื่อสิบกว่าปีก่อน..
8
คนที่ SCB รู้ดีว่า ถ้ามีงานยาก งานหิน งานที่ท้าทายที่สุด ทุกคนจะนึกถึงพี่กบเป็นคนแรกเพราะพี่กบรับทำงานอะไรแล้วไม่เคยไม่สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นงานตั้งแต่ขยายสินเชื่อเป้าสูงลิบ ลดต้นทุนเป็นหมื่นๆ ล้าน พาแม่มณีขึ้นเป็นเบอร์หนึ่ง งาน crisis management แม้แต่จัดงานสำคัญๆที่พลาดไม่ได้ในธนาคาร..
แม้แต่ล่าสุดพี่กบถูกเลือกให้ไปตั้งบริษัทใหม่ที่ต้องไปลุยสินเชื่อจำนำทะเบียนที่มีเจ้าตลาดระดับแสนล้านหลายเจ้า โดยเริ่มจากศูนย์ มีทุนให้ประมาณหนึ่งแต่ไม่มากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ดูเหลี่ยมมุมไหนก็ไม่ง่าย น่าจะใช้เวลาหลายปีและไม่รู้จะสำเร็จหรือไม่ด้วยซ้ำ แต่พี่กบใช้เวลาแค่ปีครึ่ง เปิดสาขาไปสองพันกว่าสาขา ปล่อยสินเชื่อไปสี่หมื่นล้าน ขึ้นเป็นอันดับต้นๆของอุตสาหกรรมได้อย่างน่าอัศจรรย์สำหรับคนทั้งในและนอกวงการว่าทำได้อย่างไร
ในวัยย่างหกสิบปี…
สำหรับผมผู้ที่ทำงานร่วมกับพี่กบอยู่หลายงาน พี่กบเป็นคนที่พอทำอะไรแล้วจะศึกษาจนรู้อย่างละเอียดลึกซึ้ง แม้แต่เป็นเรื่องที่ยังไม่เคยทำ ผมเคยพาพี่กบไปเจอผู้บริหาร TQM พี่กบเตรียมการบ้านไปจนผู้บริหาร TQM นึกว่าพี่กบอยู่วงการประกันมาสิบปี พี่กบเป็นคนที่ทำงานสำเร็จไม่ใช่แค่เสร็จ เดินสายพบลูกค้าเจอพนักงานแบบบ้าระห่ำมากกว่าใครๆที่ผมเคยเจอ แล้วใช้ข้อมูลภาคสนามมากำหนดยุทธศาสตร์ แล้วกระหายใคร่รู้ คิดละเอียด คิดครบ แถมบ้าพลัง จะเอาชนะในสิ่งที่ทุกคนปรามาสให้ได้
2
พี่กบรับปากอะไรไม่เคยทำไม่ได้ ไม่ว่าจะต้องลดต้นทุนธนาคารกี่หมื่นล้านในระยะเวลาเท่าไหร่ จะมีเป้าอะไรที่สูงๆ พี่กบจะไม่โม้แต่พอถึงเวลาหรือก่อนเวลาก็จะทำได้ทุกครั้งจากการวางแผนที่รอบคอบแต่บู๊ดุดัน รู้จริงในเรื่องทำทุกเรื่อง และดูเหมือนพี่กบจะชอบอะไรที่ท้าทาย เป็นมวยรอง กระหายกับโจทย์ยากๆ ดูจะมีพลังกับงานที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เสมอ ทั้งหมดทั้งปวงผมถึงซูฮกให้พี่กบเป็นเต้ยแห่งผู้บริหารที่ผมเคยทำงานด้วยมาทั้งชีวิต
1
ผมพยายามจะอธิบายปรากฏการณ์พี่กบอยู่นานแต่ก็นึกไม่ออกว่าจะอธิบายถึงซุปเปอร์พาวเวอร์ของพี่กบว่าคืออะไร จนได้อ่านหนังสือ twists and turns ของต้นสน สันติธาร เสถียรไทย ที่เล่าถึงประสบการณ์การทำงานที่ SEA Group ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกด้านเทคที่เติบโตอย่างมหัศจรรย์ว่า core value ข้อหนี่งของ Sea Group ก็คือ “ stay humble” ซึ่งต้นสนอธิบายว่าไม่ใช่แปลกันแค่ อ่อนน้อมถ่อมตน แต่มีความหมายกว้างกว่านั้นมาก และพออ่านความหมายที่ต้นสนขยายความ ผมก็รู้เลยว่า stay humble นี่คือซุปเปอร์พาวเวอร์ของพี่กบนั่นเอง
ต้นสนบอกว่า stay humble นั้นมีความหมายอยู่สามประการ ประการแรกก็คือ การเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว ยอมรับว่าตัวเองไม่รู้อะไรและเปิดใจเรียนรู้จากผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือผู้น้อย พี่กบเพิ่งเล่าว่าตอนที่มาทำเงินไชโยจนถึงตอนนี้ พี่กบเดินสายเจอน้องๆที่สาขาทั่วประเทศทุกอาทิตย์และเรียนรู้มากที่สุดจากน้องๆ ที่หน้างาน
2
การที่มีความกระหายใคร่รู้ มองว่าตัวเองยังไม่รู้อะไรเท่าไหร่ ต้องพยายามต้องศึกษาจนรู้ให้ครบกว่าใครโดยเร็วแม้แต่แค่จะไปเจอคู่ค้าครั้งแรก หรือเริ่มประชุมแรกที่ได้รับมอบหมาย ที่ใครได้เจอก็จะทึ่งในตัวพี่กบเสมอ
1
ประการที่สองก็คือการพูดน้อยทำมาก (underpromise overdeliver) ล่าสุดที่พี่กบไปเริ่มต้นเงินไชโยมีความคาดหวังไม่ได้มากจากบริษัทแม่เพราะตลาดนั้นแดงเดือดและโหดหินมากๆ พี่กบไปซุ่มเตรียมการ สร้างระบบ และลุยตลาดแบบไม่มาโม้ออกสื่อหรือแม้แต่โม้ในบริษัท
1
จนพอเห็นอีกทีทุกคนก็ตกอกตกใจกันว่าทำไมถึงเติบโตเร็วแบบนี้ ทุกครั้งที่ทำงานกับพี่กบก็จะเป็นลักษณะเดียวกัน ช่วงที่พี่กบทำงาน บุกตะลุยเอายอดบ้าง ขยายกิจการบ้าง หรือเตรียมงานใหญ่ๆบ้าง เราจะรู้สึกว่าพี่กบจะทำได้เหรอ มันยากมากนะ แต่พอตอนจบพี่กบก็ deliver ได้ทุกทีและเร็วหรือมากกว่าเป้าทุกครั้ง ยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นของผู้ใหญ่ที่มีต่อพี่กบมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ต่างจากผู้บริหารที่พูดเยอะแต่ทำไม่สำเร็จทั่วๆไปมาก
ประการที่สามที่ต้นสนอธิบายก็คือ ความไม่ละทิ้งหัวใจของผู้ท้าชิง (challenger) ไม่รู้สึกว่าตัวเองชนะหรือประสบความสำเร็จแล้ว ทำให้ยังอยากที่จะแก้ไขปรับเปลี่ยนและทำให้ดีขึ้นตลอดเวลา
คุณสมบัติข้อนี้ผมว่าพี่กบนี่อยู่ในระดับคลั่งไคล้เลยด้วยซ้ำเพราะพี่กบชอบโจทย์ยาก ชอบคู่แข่งที่เก่งและตัวใหญ่กว่ามากๆ และดูจะเติมพลังจากความอยากล้มแชมป์ อยากลบคำปรามาสว่ามันยากมาก ไม่น่าจะทำได้ พี่กบจะใช้ความรู้สึกผู้ท้าชิงมาคิดกลยุทธ์และสนุกกับการเอาชนะแชมป์อย่างสีหน้าแววตาออกทุกทีที่มีอะไรยากๆให้ทำ เป็นคุณสมบัติที่ผมได้แต่ทึ่งว่าพี่กบเขาเสพปัญหายากๆ โจทย์หินๆเป็นอาหารเช้าจริงๆหรือนี่ แต่คนที่ได้ทำงานพี่กบจะยืนยันเป็นเสียงเดียวกันถึงคุณสมบัติข้อนี้ของพี่กบ
1
“Stay humble” จึงเป็นซุปเปอร์พาวเวอร์ของผู้บริหารที่เก่งที่สุดในสายตาของผมจริงๆ เพราะความ humble ที่พี่กบมีไม่ว่าจะมีตำแหน่งใหญ่โตแค่ไหน แต่ก็ไม่เอาอีโก้ของตำแหน่งมาบดบังความกระหายใคร่รู้ ความปรารถนาที่จะทำงานสำเร็จ และชอบเป็นผู้ท้าชิง มีความรู้สึก “ตัวเล็ก” อยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นซีโอโอหรือ president ของธนาคาร ทำให้พี่กบในวัยห้าสิบเก้าก็ยังสร้างความมหัศจรรย์ให้กับองค์กรที่พี่กบสังกัดได้ให้คนตะลึงกันได้อีกครั้ง
1
แล้วพี่กบที่บ้าพลังแบบนี้กลับบ้านกี่โมง work life balance บ้างรึเปล่า..
พี่กบเล่าว่าพี่กบเริ่มงานเช้ามากแต่กลับไม่เกินสี่โมงครึ่งเย็นเพื่อไปซ้อมวิ่ง พี่กบมาเริ่มวิ่งเมื่อตอนอายุ 56 ด้วยเหตุง่ายๆที่ว่าพี่กบได้รับมอบหมายให้จัดงานวิ่งแล้วเจ้านายใหญ่ถามแบบขำๆว่าเธอไม่เคยวิ่งจะจัดงานวิ่งได้เหรอ ด้วยคำแซวเล่นๆแค่นี้ พี่กบที่เป็นพี่กบก็เลยรับคำท้าในใจ (challenger) ไปเรียนไปฝึกวิ่งแบบเริ่มจากศูนย์ แล้วซุ่มเงียบ (underpromise overdeliver) โผล่มาอีกทีก็วิ่งมาราธอนไปหลายสนามในวัยห้าสิบปลาย..
1
นี่คือซุปเปอร์พาวเวอร์ของพี่กบที่น่าศึกษาน่าสนใจสำหรับผู้บริหารทุกท่านเลยนะครับ…
1
โฆษณา