1 เม.ย. เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
มองว่า MK ก็ยังมีอนาคตนะ แต่ราคาลงมาเรื่อยๆเลย แบบนี้ก็ไม่รู้ว่าแบร์หรือบูลยังไงกันดี ให้ตามราคาก็หมีแบร์ไปละกัน
คนส่วนใหญ่กังวลกับการมาของร้านสุกี้ ร้านหม่าล่าที่จะมาแย่งส่วนแบ่งลูกค้าไป แต่หลายๆคนก็บอกว่าลูกค้าคนละกลุ่ม ไม่กระทบ ซึ่งส่วนตัวก็เห็นด้วย
MK มีแบนด์ที่แข็งแกร่งมาก ยืนหยัดสร้างแบรนด์มานาน ในขณะที่ร้านอาหารรายอื่นๆ เกิด รุ่ง แล้วก็ร่วงล้มหายตายจากไป MK ก็อยู่มาได้ นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ MK มีคู่แข่ง นับพวกต้มคล้ายกันก็มี ชาบูชิ ซูกิชิ ชาบูนางใน ชาบูอินดี้ ใช่ว่าเพิ่งมีตี๋น้อยมาเป็นคู่แข่ง
MK เน้นกลุ่มลูกค้ากลางถึงบน มากินกับคนในครอบครัว ด้วยคุณภาพที่เข้มงวดกว่า ในขณะที่รายอื่นอาจจะเน้นลูกค้ากลุ่มรายได้น้อยกว่า
ถ้าแบ่งลูกค้าเป็น 2 กลุ่มหลักๆ
- กลุ่มอายุน้อย รายได้ไม่เยอะ ยังไม่ได้สนใจสุขภาพมากนัก เขาก็เลือกที่ปริมาณ เลือกที่ราคา บุฟเฟ่ก็เป็นเป้าหมายหลัก
1
- กลุ่มอายุมากขึ้น รายได้มากขึ้น มีครอบครัว เขาก็จะมองหาคุณภาพมากขึ้นด้วย คิดถึงสุขภาพ กินเป็นเวลา มองหาร้านที่เหมาะกับครอบครัว MK ตอบความต้องการตรงนี้ได้
แน่นอนว่ากลุ่มแรก สักวันเวลาผ่าน แก่ขึ้น รายได้มากขึ้น เขาก็จะเปลี่ยนเป็นกลุ่มสองมากขึ้น ทำให้ MK ก็ยังดูดีในความเห็นลุง
มุมมองส่วนตัว คิดว่าคงมีคนอื่นคิดเหมือนบ้าง ถ้าวันหนึ่งที่มีรายได้หลายหมื่น หรืออายุเข้าเลขห้า กินข้าวกับครอบครัวพาปู่ย่าที่อายุเลขแปด หรือลูกเล็กต่ำสิบ MK ก็เป็นร้านแรกๆที่นึกถึง
ีทีนี้การเติบโตของ MK ในแง่ยอดขายต่อสาขาคงไม่เพิ่มมากนัก น่าจะมาจากการขยายสาขาเป็นหลัก และก็คงจะไม่หวือหวานักเพราะค่อนข้างระมัดระวังพอสมควร ออกแนวหนี้น้อย ค่อยๆโต
ธุรกิจอาหาร วิกฤติยังไงคนก็ต้องยังกิน บริหารดีๆ ส่วนตัวมองว่าไปได้เรื่อยๆ โควิดที่แย่กันร้านอาหารปิด MK ก็ยังมีกำไรติดมืออยู่บ้าง ก็ต้องมีดีพอตัวแหละนะ
โฆษณา