1 เม.ย. เวลา 15:30 • ข่าว

เยาวชนติด HIV พุ่งสูง สังคมเรียนรู้อะไร?

จากไวรัลดังสู่การถกเถียงในสังคม เมื่อเพจ ไม่ใช่หมอบ่น-aggressivenotdoctor ได้เผยแพร่แชตของแพทย์รายหนึ่งที่ได้ทำการรักษาเด็กชายอายุ 11 ขวบมีอาการผิดปกติที่อวัยวะเพศ โดยระบุว่า เด็กผู้ชายอายุ 11 มาด้วยมีหนองออกทางอวัยวะเพศ และจะขอตรวจ HIV ด้วย แต่น้องวัย 11 กลับตอบอย่างมั่นใจว่า
"ไม่ต้องตรวจ แฟนผมเป็น ผมติดเป็นเพื่อนแฟน" ทำเอากลายเป็นประเด็นในสังคมอยู่ในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้มีเจตนาตัดสินหรือตีตราใคร เพียงแต่ต้องการนำเสนอข้อมูลที่อาจสะท้อนได้ว่า สังคมไทยของเราอาจต้องการอะไรมากกว่าการแก้ปัญหาแบบเดิมๆ หากต้องการลดปัญหาท้องก่อนวัยและการติดเชื้อ HIV ในกลุ่มเด็กและเยาวชน
ก่อนอื่นผมอยากให้เราเข้าใจตรงกันเกี่ยวกับ HIV ก่อน
โรคเอดส์ (AIDS) หรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง คือ ระยะสุดท้ายของการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus:HIV) ที่ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาว CD4 หรือ T-cells ในระบบภูมิคุ้มกันร่างกายถูกทำลาย ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันร่างกายลดต่ำ ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และนำไปสู่การเกิดโรคแทรกซ้อนหรือโรคติดเชื้อฉวยโอกาส เช่น วัณโรค โรคปอดอักเสบ PJP หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ รวมถึงมะเร็งบางชนิด
เชื้อเอชไอวีสามารถพบได้ในเลือด น้ำอสุจิ สารคัดหลั่งจากช่องคลอด น้ำนมของผู้ที่ติดเชื้อ ดังนั้นเมื่อสัมผัสกับเลือดหรือสารคัดหลั่งที่มีเชื้อเอชไอวีผ่านทางเยื่อบุ หรือผิวหนังที่มีบาดแผล ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้ โดยหลัก ๆ มี 3 ทางดังนี้
  • 1.
    การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีโดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัย
  • 2.
    การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ซึ่งพบบ่อยในกลุ่มของผู้ที่เสพสารเสพติด หรือฉีดยาเข้าเส้น
  • 3.
    การรับเชื้อจากมารดาที่ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งมีโอกาสรับเชื้อได้ 3 ช่วง คือ ขณะตั้งครรภ์ ระหว่างคลอด และ กินนมแม่
โดยทั่วไปโรคเอดส์ใช้เวลาฟักตัวประมาณ 8-10 ปี จึงจะมีอาการแสดง ดังนั้น แนะนำให้มีการตรวจคัดกรองเอชไอวี ในการตรวจสุขภาพประจำปี มีการตรวจคัดกรองการติดเชื้อในหญิงตั้งครรภ์ เป็นต้น เนื่องจากการตรวจพบการติดเชื้อเอชไอวีในระยะแรก จะช่วยให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดโรคเอดส์ได้
นอกจากนี้หากวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย หรือ เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิซ หนองใน ควรตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งการตรวจทำได้อย่างรวดเร็วใช้เวลารอผลตรวจเพียง 2 ชั่วโมง ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประชาชนสามารถเข้ารับการตรวจเอชไอวีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ปีละ 2 ครั้ง ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง ทั้งนี้เยาวชนอายุ 13-18 ปี ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี สามารถไปรับตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีได้โดยไม่ต้องขอคำยินยอมจากผู้ปกครอง
จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค ปี 2565 คาดประมาณผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ 9,230 คน ซึ่งเกือบครึ่งเป็นกลุ่มอายุ 15-24 ปี สร้างความกังวลให้ประชาชนและสังคม และอาจส่งผลในอนาคต สร้างความกังวลให้กับหลายภาคส่วน เนื่องจากคนใช่วงอายุดังกล่าวเป็นวัยที่มีศักยภาพสูงสุด ทั้งในการศึกษา การทำงาน เป็นกลุ่มคนที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของชาติ
การต้องสูญเสียคนในวัยนี้จำนวนมากให้กับโรคภัยที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงาน จึงไม่ได้มีผลกระทบแค่ในแง่ของเศรษฐกิจ แต่ยังทำให้คนเหล่านี้ต้องมีต้นทุนชีวิตที่เพิ่มขึ้น ทั้งการรักษาตัว การเข้าสังคม และค่าเสียโอกาสจากการต้องติดเชื้อ HIV
นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า วัยรุ่นไทยควรรู้จักรักให้เป็น รักให้ปลอดภัย รู้วิธีการดูแลเพื่อป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ด้วยการให้เกียรติและเคารพทุกเพศ หลีกเลี่ยงปัจจัยซึ่งจะนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ตั้งใจ
หรือหากจะมีเพศสัมพันธ์ต้องรู้จักวิธีป้องกันการตั้งครรภ์และการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยง ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และจะป้องกันได้ดีที่สุด ถ้าใช้ถุงยางอนามัย และอาจทำร่วมกับวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ยาฝังคุมกำเนิดหรือห่วงคุมกำเนิด เป็นต้น
กรมอนามัยได้ดำเนินการสร้างความรอบรู้ด้านเพศสำหรับเยาวชน “รักเป็น ปลอดภัย” ด้วย 4 แนวทาง ดังนี้
1
  • 1.
    Safe Virgin มีเพศสัมพันธ์เมื่อพร้อม
  • 2.
    Safe Sex หากจะมีเพศสัมพันธ์ ตนเองต้องปลอดภัย ใส่ถุงยางอนามัยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • 3.
    Safe Abortion หากพลาดตั้งครรภ์ไม่พร้อม ปรึกษาหน่วยบริการฯเพื่อรับคำปรึกษา
  • 4.
    Safe Mom ฝากครรภ์คุณภาพ เพื่อลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย
ความรักเป็นเรื่องของหัวใจก็จริง แต่ความรักที่ปลอดภัยเป็นเรื่องที่ทุกคนที่เรียนรู้และใส่ใจ การส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพและสุขศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้เยาวชนมีความรู้ที่จะป้องกันตนเอง ไม่ว่าจะเกิดจากความสัมพันธ์ที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
...
ความรักเป็นสิ่งที่เกิดจากใจไม่อาจบังคับกันได้ ความรักที่แท้จริง คือความปรารถนาดีต่อคนที่ตนรัก ความยินดีที่คนที่ตนรักมีความสุข การให้อภัยเมื่อคนที่ตนรักทำผิด และการเสียสละความสุขของตนเพื่อความสุขของคนที่ตนรัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6083/2546
อ้างอิง
โฆษณา